- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 8 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 8 months ago
- โลกธรรมPosted 8 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 8 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 8 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 8 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 8 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 8 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 8 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 8 months ago
“รู้เท่าทันสื่อ” เกราะป้องกันภัยจากโลกไซเบอร์

เมื่อโลกเกิดกว้างได้ง่ายๆแค่ปลายนิ้วมือจึงมีเด็กและเยาวชน รวมถึงผู้สูงอายุ และคนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อจากภัยคุกคามในโลกออนไลน์ ผลสำรวจพบว่า เด็ก-เยาวชนไทย ติดจอพุ่ง 98.2% และต้องเผชิญภัยกลั่นแกล้งออนไลน์ 55.3% เล่นพนันออนไลน์ 43.6% ถูกล่อลวงทางเพศ 12%

ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) และคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงาน “สัปดาห์เยาวชนเท่าทันสื่อ (HOPE HOP FEST)” เปิดพื้นที่ให้เด็ก เยาวชน ครอบครัว และคนทำงานด้านสื่อ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้สร้างทักษะการใช้สื่อสารสนเทศและดิจิทัล (Information and Digital Literacy : MIDL) อย่างปลอดภัย ระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2568

นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุน สสส. กล่าวว่า ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในสังคมค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือ สิ่งที่เข้ามานอกเหนือจากความรู้ความคิดที่สร้างสรรค์แล้ว ยังมีภัยคุกคามต่างๆด้วย ที่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เช่น พนันออนไลน์ สื่อลามกอนาจาร หรือการบูลลี่กัน จากผลสำรวจการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือ ITC ของเด็กและเยาวชน อายุ 6-24 ปี ในปี 2567 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า เด็กและเยาวชนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นจาก 86.3% ในปี 2562 เป็น 98.2% ในปี 2567 ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการเรียนรู้และการเชื่อมต่อโลกดิจิทัล แต่ในอีกมิติก็ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยและความเสี่ยงที่เด็กและเยาวชนต้องเผชิญการถูกคุกคาม ทั้งการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ การแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ การสร้างความเกลียดชัง และการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น การพนัน สื่อลามก และยาเสพติด สอดคล้องกับรายงานคู่มือความปลอดภัยบนโลกออนไลน์สำหรับเด็กและเยาวชน ปี 2568 โดยสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย พบ ปี 2566 เด็กและเยาวชนเคยถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์ 55.3% เคยเล่นพนันออนไลน์ 43.6% ถูกล่อลวงทางเพศ 12%
นายวิเชษฐ์ กล่าวว่า ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องเข้ามาช่วยกันในการที่จะปกป้องเด็กและเยาวชน รวมถึงผู้สูงวัย สิ่งที่สำคัญสองอย่างในการที่จะปกป้องเด็กและเยาวชนคือ การสร้างการรับรู้ที่เท่าทันให้กับเด็กและเยาวชนว่า จะต้องคิด วิเคราะห์ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเชื่อข้อมูลหรือมีการส่งต่อข้อมูลนั้นหรือไม่ ว่าข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่จะต้องสร้างการรับรู้เท่าทันให้กับเด็กและเยาวชน เรื่องที่สองคือเรื่องของการปรับสถภาพแวดล้อมเหมาะสม ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก เพราะว่าทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามการปรับสภาพแวดล้อมอย่างไรที่จะป้องกันเด็กและเยาวชนเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ไม่เหมาะสมซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องทำ ขณะเดียวกันการปราบปรามสิ่งที่ไม่เหมาะสมทางอินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งที่เราต้องทำ และจะทำอย่างไรในการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมและมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเชื่อหรือไม่ ซึ่งเป็นกลไกที่ภาครัฐและเอชน รวมทั้ง สสส.หรือ สสย.ที่ทำในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้การสร้างการรู้เท่าทันและการปรับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแล้วจะเป็นทุนในการคุ้มครองเด็กและเยาวชน รวมถึงผู้สูงอายุ และคนทั่วไปในสังคมได้

นายวิเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของครอบครัวตนคิดว่ามีส่วนสำคัญ อย่างน้อยที่สุดตอนนี้เราจะต้องทำให้พ่อแม่ หรือคนในครอบครัวรู้เท่าทันสื่อ ซึ่งพ่อแม่ให้โทรศัพท์กับลูกแต่ไม่ได้เข้าไปติดตามลูกว่าดูอะไรบ้าง อย่างแรกคือ พ่อแม่ต้องติดตามและเข้าใจและใกล้ชิดกับลูกมาก เพราะถ้าพ่อแม่รู้เท่าทันจะมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งพ่อแม่มีหน้าที่ที่จะบอกกับลูกว่า อะไรควรไม่ควร เน้นความใกล้ชิด เข้าอกเข้าใจต่อลูกนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้ามีเวลาควรให้เวลากับลูกเยอะๆ อย่าแยกกัน หรือปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพัง ไม่เช่นนั้นแล้วภัยเหล่านี้จะเข้ามาทางมือถือหรืออินเตอร์เน็ตซึ่งเราจะไม่รู้เลย และกว่าจะรู้อาจจะสายเกินไป เพราะฉะนั้นแล้วผู้ปกครองจะต้องรู้เท่าทันไม่แพ้เด็กๆและเยาวชน
“จากสถานการณ์ดังกล่าว ทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องร่วมมือกันสร้างพื้นที่สื่อปลอดภัย และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีทักษะการใช้สื่ออย่างรู้เท่าทัน สสส.จึงร่วมมือกับภาคีเครือข่าย จัดงานสัปดาห์เยาวชนเท่าทันสื่อ ระหว่างวันที่ 13-15 ต.ค. 2568 เพื่อเปิดพื้นที่ให้เด็ก เยาวชน ครอบครัว และผู้ผลิตสื่อ ได้ติดอาวุธความรู้และสร้างทักษะการรู้เท่าทันตนเอง เท่าทันสื่อ เท่าทันความรุนแรงในสังคม และร่วมสร้างค่านิยมในเรื่องสันติภาพ ได้แก่ การไม่ใช้ความรุนแรง การใส่ใจระหว่างกัน การยอมรับความแตกต่าง และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กิจกรรมภายในงานตลอดทั้ง 3 วัน ถูกออกแบบมาให้มีความสนุก เข้าใจง่าย และเข้าถึงได้สำหรับคนรุ่นใหม่ เน้นการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ซึ่งเนื้อหาจะเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของเด็กและเยาวชน ” นายวิเชษฐ์ กล่าว

ด้าน นางเข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการมูลนิธิส่งเสริมสื่อเด็กและเยาวชน(สสย.) กล่าวว่า สัปดาห์เยาวชนเท่าทันสื่อ ถูกจัดขึ้นในเดือน ต.ค. ของทุกปี โดยในปี 2568 สำหรับการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ ทาง สสย.มองว่า เด็กและเยาวชนเป็นพลังที่สำคัญถ้าส่งเสริมให้เขารู้สึกว่ามีความสามารถ พลัง ศักยภาพและมีส่วนร่วม และเปิดพื้นที่ให้เขาได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ หมือนงานนิทรรศการครั้งนี้ HOPE HOP FEST ที่เราอยากจะสร้างความตระหนักในสังคมว่า อยากมีพื้นที่สร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้เด็กได้สร้างสื่อในเนื้อหาสาระที่เขาได้ออกแบบ คิดเองและมีส่วนที่สร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น ในปีนี้เราเน้นเรื่องประเด็นสันติภาพ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมและโลกด้วย เพราะว่าสันติภาพอาจจะไม่ใช่แค่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ หรือสงคราม แต่มันคือสินติภาพที่อยู่ในชีวิตและวิถีประจำวัน ซึ่งเด็กๆสามารถเชื่อมโยงได้ถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของเพื่อน ความสัมพันธ์ในครอบครัวหรือ ความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมต่างๆ หรือการอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลายที่เป็นพหุวัฒนธรรม แม้เรื่องความรุนแรงที่อยู่ในสื่อเราก็ต้องการสันติภาพเช่นกัน
“จะเห็นได้ว่าเด็กและเยาวชนจะมีพลังมากๆ เมื่อเปิดพื้นที่สร้างสรรค์สื่อตรงนี้ แม้แต่เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 7 ปี จะมีผลงานที่น่าสนใจ เขาสามารถใช้พลังและเทคโนโลยีสื่อเรื่องของเขาทำออกมาได้อย่างน่าสนใจมากๆ โดยมีคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองสนับสนุน เปิดพื้นที่ และทาง สสย.เองก็อยากเห็น หน่วยงานต่างๆที่มีบทบาทได้เปิดพื้นที่แบบนี้ในทุกๆจุดในสังคมให้กระจายทั่วไป เด็กก็จะได้ใช้พลังความสามารถและการมีส่วนร่วมในพลเมืองที่จะสร้างสรรค์สิ่งๆดีๆให้เกิดขึ้นได้”

นางเข็มพร กล่าวว่า สิ่งที่ สสย.พยายามสื่อสารไปถึงผู้ใหญ่ทุกชุมชน ทุกพื้นที่ในระดับท้องถิ่น จังหวัด ซึ่งมีทรัพยากร งบประมาณ มีพื้นที่ มีหลายหน่วยงานสามารถเข้ามาร่วมมือกันทั้งภาคประชาสังคม ภาครัฐท้องถิ่นต่างๆ ถ้าเราเห็นความสำคัญและตระหนักว่าทรัพยากรระดับชุมชนสามารถเข้ามาหนุนให้เด็กและเยาวชนมีพื้นที่สร้าวสรรค์แบบนี้ มีโอกาสสร้างสรรค์สื่อ มีโอกาสคิด วิเคราะห์ ทบทวน เพื่อการทำงานที่เชื่อมกับการรู้เท่าทันสื่อข้อมูลดิจิทัลและสร้างเมืองให้เป็นพื้นที่สื่อสร้างสรรค์ต่างๆ และใช้พลังการสื่อสารของเด็กและเยาวชนร่วมกันสร้างเมือง ซึ่งตรงนี้จะสามารถกระจายทำได้ทุกพื้นที่ ทุกชุมชน
ทั้งนี้ ผู้จัดการ สสย. แนะนำว่า สำหรับการคัดกรองสื่อให้กับเด็กควรเริ่มจากตัวเองก่อน คือ เริ่มจาก Wait รอก่อน คือหยุดคิดก่อนโพสต์หรือแชร์ ,ThinK คิดก่อน ว่าข้อมูลนี้จริงหรือไม่ มีประโยชน์ไหม จะทำร้ายใครหรือเปล่า แล้วทำไมเราต้องแชร์สิ่งนี้, Read it อ่านก่อน อ่านข้อความหรือตรวจสอบข้อมูลได้ครบถ้วน อย่าอ่านแค่พาดหัวหรือส่วนสั้นๆ และ Check it ตรวจสอบก่อน เช็กแหล่งที่มาเปรียบเทียบหลายๆแหล่ง,สอบถามผู้ใหญ่หรือคนที่เชื่อถือได้ ซึ่งหากทำได้ตรงนี้จะเกิดประโยชน์และช่วยสร้างสันติภาพที่เริ่มจากตัวเรา

ทั้งนี้ ภายในงานผู้เข้าร่วมจะได้พบกับกิจกรรม 3 โซน 1.โซนสันติ In Cinema ชวนดูสื่อภาพยนตร์สำหรับเด็ก เยาวชน และครอบครัว เนื้อหาจะนำเสนอสร้างความเข้าใจเรื่องความขัดแย้ง และสันติภาพ 2.โซน Activity สนุกกับ Workshop งานศิลปะ และฝึกทักษะผลิตสื่อสร้างสรรค์ 3.โซนนิทรรศการ “สื่อมาถึงใจ” ชวนทุกคนมาสำรวจเสียงในใจของตัวเอง และฝึกการสื่อสารอย่างอ่อนโยน ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ “Hope Hop Fest”
You must be logged in to post a comment Login