- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 7 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 7 months ago
- โลกธรรมPosted 8 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 8 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 8 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 8 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 8 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 8 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 8 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 8 months ago
“ภาระโรค” ดัชนีชี้วัดสะท้อนปัญหาสุขภาพของคนไทย
คำว่า “ภาระโรค” ประชาชนอาจสงสัยว่า ภาระโรคคืออะไร มีผลกระทบอย่างไรต่อประชาชน คำว่าภาระโรค หรือในภาษาทางวิชาการจะใช้คำว่า ปีสุขภาวะที่สูญเสีย ( Disability- Adjusted Life Year:DALYs) เป็นดัชนีสำคัญที่รวมทั้งปีที่สูญเสียจากการตาย เจ็บป่วย หรือพิการก่อนวัยอันควร ซึ่งหากการดำเนินการแก้ปัญหาการตายก่อนวัยอันควร จะส่งผลให้ประชาชนมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีไม่เป็นภาระให้กับครอบครัวและสังคม
ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP Foundation) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดการประชุมวิชาการภาระโรคแห่งประเทศไทย ปี 2568 ภายใต้หัวข้อ “ภาระโรคของคนไทย: ร่วมคืนปีสุขภาวะให้คนไทย” เพื่อสะท้อนภาพรวมภาระสุขภาพคนไทย
ภาระโรค : ดัชนีชี้วัดภาพรวมภาระสุขภาพของคนไทย

ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา รักษาการ ผอ.สำนักวิชาการและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า สสส.พยายามใช้ข้อมูลเรื่องความเจ็บป่วยและตายก่อนวัยอันควรของประชากรไทยมีใช้ในการวางแผนเพื่อแก้ปัญหา
ดังนั้นการใช้ข้อมูลตัวหนึ่งที่สำคัญที่เรียกว่า “ภาวะโรค” ในการนำไปสู่การเลือกประชากรและพื้นที่ในการทำงาน ตัวอย่างในการศึกษาล่าสุดในครั้งนี้ สสส.ร่วมกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ(HPP Foundation) และกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในโครงการภาระโรคแห่งประเทศไทยในการวิเคราะห์ว่า คนไทยตายจากสาเหตุอะไรบ้างในโรคหลักๆและการบาดเจ็บ พิการ เกิดจากสาเหตุอะไรบ้างและในทุกลุ่มวัยในความแตกตายกันในเรื่องของการตาย บาดเจ็บ

ในปีนี้มีความพิเศษ คือ นอกจากจะเห็นข้อมูลในระดับประเทศแล้ว จะมีข้อมูลในระดับจังหวัด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราจะบอกได้ว่าแต่ละจังหวัดว่าคนในจังหวัดๆเสียชีวิตด้วยโรคอะไร หรือบาดเจ็บจากโรคอะไร มีมีความพิการจากโรคอะไรบ้าง ซึ่งข้อมูลที่นำมาเสนอในครั้งนี้จะทำให้เราจัดระดับความสำคัญในการเข้าไปแก้ปัญหาได้ เช่น ในกลุ่มวัยเด็ก วัยทำงาน มีสาเหตุการตาย บาดเจ็บที่แตกต่างกัน ดังนั้นข้อมูลตรงนี้ สสส.สามารถนำไปสู่การออกมาตรการการแก้ไขปัญหาเฉพาะเจาะจงได้ เช่น ในกลุ่มเด็กพบว่าส่วนมากการเสียชีวิตของกลุ่มนี้เกิดจากการจมน้ำ อุบัติเหตุทางถนน รวมถึงการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในกลุ่มเด็ก เราจะสามารถสร้างมาตรการลงไปเฉพาะเจาะจงได้ ในปีนี้พบว่าข้อมูลรายจังหวัดพบว่าเด็กตาย ป่วย พิการมีความแตกต่างกัน ดังนั้น สสส.และภาคี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถลงไปแก้ปัญหาแบบเฉพาะเจาะจงได้
ส่วนวัยทำงานการเสียชีวิตส่วนมากจะเกิดจากอุบัติเหตุเป็นหลัก และพิการ ก่อนวัยอันควร เช่น สมมติว่าค่าเฉลี่ยอายุของคนจะอยู่ที่ 70 ปี แต่มาเสียชีวิตหรือพิการ ก่อนอายุเฉลี่ย นอกจากนี้ยังพบว่าในกลุ่มนี้อาจจะเสียชีวิตหรือพิการจากกลุ่มโรค NCDs เพิ่มขึ้น เช่น โรคเบาหวาน หัวใจ สโตรก ซึ่งเดิมกลุ่มโรคเหล่านี้จะพบมากในผู้สูงอายุ กลับพบว่ากลุ่มวัยทำงานเป็นโรคนี้มากขึ้นและเสียชีวิตมากโรคนี้มากขึ้น ข้อมูลเหล่าส่งผลให้ สสส.และภาคีสามารถออกมาตรการที่เฉพาะเจาะจงได้
สำหรับข้อมูลในระดับจังหวัดทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในแต่ละจังหวัดมีปัญหาของโรคและการตายที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากจะแก้ปัญหาเบาหวาน จะพบว่าเราควรจะไปภาคอีสาน เพราะว่าในภาคอีสานประชากรจะเสียชีวิตจากเบาหวานเป็นจำนวนมาก เพราะว่าอาจะเกิดจากวิถีชีวิต การกิน ถ้าเป็นเรื่องการฆ่าตัวตายหรือโรคซึมเศร้าเราจะไปทางภาคเหนือ เพราะทางภาคเหนือมีการฆ่าตัวตายและซึมเศร้าเป็นจำนวนมาก เป็นต้น จากข้อมูลภาระโรคที่มีตามกลุ่มวัย ตามพื้นที่เราสามารถเลือกมาตรการการแก้ปัญหาเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
20.5 ล้านปี สุขภาวะที่หายไป สะท้อนปัญหาสุขภาพที่คนไทยเผชิญ

จำนวน 20.5 ล้านปี สุขภาวะที่หายไปคืออะไร ดร.ณัฐพันธุ์ อธิบายว่า เราสูญเสียปีที่ดีไปที่เราควรจะมีอายุยืนยาวตามค่าเฉลี่ยจากอะไรบ้าง สมมติว่าคน 1 คน จะอยู่ได้ประมาณ 80-90 ปี โดยเป็นการอยู่แบบไม่เจ็บป่วย แต่คนทั่วไปส่วนมากจะตายก่อนบ้าง เช่นตายจากอุบัติเหตุ ตั้งแต่อายุ 15 ปี เราจะใช้ตัวเลขที่ตายก่อนวัยอันควร ปีที่สูญเสียไปคือ 76 ปี เราจะใช้ตัวเลขเหล่านี้ไปดูว่าเราสูญเสียไปกับอะไรบ้างเป็นหลัก สรุปคือถ้าเรามีเด็กและวัยรุ่นตายเยอะภาพรวมปีที่สูญเสียจะเยอะมากขึ้น
ส่วน ปีสุขภาวะ หมายความว่าปีที่รวมจำนวนปีที่ตายไปก่อน รวมถึงปีที่ป่วยและพิการรวมกัน หรือง่ายๆคือรวมปีที่ตาย บาดเจ็บ พิการรวมกันมาเป็นตัวเลขปีสุขภาวะ อย่างปีนี้มีตัวเลขรวมถึง 20.5 ล้านปี ดูจากตัวเลขคนที่มีประมาณ 60-70 ล้านคน คนพวกนี้ควรจะอยู่ได้ยาวๆถึง 80-90 ปี แต่กลับพบว่า ในประเทศมีคนเสียชีวิตและป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สามารถรวมตัวเลขได้ถึง 20.5 ล้านปี เมื่อเทียบเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาคือเฉลี่ยอยู่ที่ 18 ล้านปี ทำให้เห็นว่าคนไทยเสียชีวิต บาดเจ็บ ป่วย พิการก่อนวัยอันควรเพิ่มมากขึ้น เป็นสิ่งที่สะท้อนภาพรวมของประเทศได้ เปรียบเป็นGDP ทางด้านสุขภาพของประเทศ
โรคNCDs และอุบัติเหตุทางถนน คร่าชีวิตคนไทยสูง

ดร.ทพญ.กนิษฐา บุญธรรมเจริญ นักวิจัยอาวุโส มูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กล่าวว่า คนไทยต้องสูญเสียปีสุขภาวะจากสาเหตุหลัก คือ 1. โรคหลอดเลือดสมอง 9.5% 2. อุบัติเหตุทางถนน 7.3% 3. โรคเบาหวาน 6.2% และ 4. โรคไตเรื้อรัง 5.7% ซึ่งโรคหลอดเลือดสมอง ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยทั้งเพศชายและเพศหญิงเสียชีวิตเป็นอันดับ 1 ทั้งนี้ การบาดเจ็บทางถนนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากที่สุด ทั้งในเพศชายและหญิง ในช่วงวัยรุ่นและวัยแรงงาน อายุ 15-44 ปี นอกจากนี้ ยังวิเคราะห์สาเหตุของการสูญเสียปีสุขภาวะเป็นกลุ่มช่วงอายุ พบว่ากลุ่มเด็กเล็ก อายุ 0-14 ปี เสี่ยงบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนและจมน้ำ กลุ่มวัยรุ่น อายุ 15-29 ปี พบปัญหาทำร้ายตนเอง ติดยาเสพติด และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กลุ่มวัยผู้ใหญ่ อายุ 30-59 ปี และกลุ่มสูงวัย อายุ 60 ปีขึ้นไป ป่วยโรคไม่ติดต่อ (NCDs) มากที่สุด
“การกู้คืนปีสุขภาวะเพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยต้องอาศัยกลยุทธ์และนโยบายเพื่อป้องกันโรคที่ตอบโจทย์กลุ่มประชากรตามเพศและวัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ผ่านการขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพที่สำคัญ 5 ด้าน 1.ผลักดันการควบคุมโรค NCDs อย่างต่อเนื่อง 2.ยกระดับความปลอดภัยทางถนนทุกมิติ ทั้งการบังคับใช้กฎหมาย กำหนดมาตรฐานถนนและยานพาหนะ ส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะที่ปลอดภัย 3.พัฒนาระบบส่งเสริม ป้องกัน ควบคุมโรคที่สร้างภาระสุขภาพสูง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคตับ 4.สร้างระบบบริการสุขภาพจิตและบำบัดยาเสพติดเชิงรุก 5.ใช้ฐานข้อมูลปีสุขภาวะที่หายไป เป็นตัวช่วยวางแผน ลำดับความสำคัญของปัญหา และประเมินผลของนโยบาย” ดร.ทพญ.กนิษฐา กล่าว
ใช้ฐานข้อมูลภาระโรคกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานสร้างเสริมสุขภาพระดับประเทศ

ดร.ณัฐพันธุ์ กล่าวว่า สสส. สนับสนุนโครงการเสริมสร้างศักยภาพการศึกษาดัชนีภาระโรคแห่งประเทศไทย ในการศึกษา ภาระโรคของประชากรไทยในระดับประเทศ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพ 3 มิติ คือ 1.ขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ผ่านการจัดลำดับปัญหาสุขภาพ และประเมินผลกระทบจากมาตรการต่างๆ 2.สร้างองค์ความรู้วิชาการ เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับพัฒนางานวิจัย 3.สื่อสารกับสังคม โดยถ่ายทอดข้อมูลภาระโรค ให้เข้าใจง่าย
สสส. ใช้ฐานข้อมูลภาระโรคกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานสร้างเสริมสุขภาพระดับประเทศ นำมาพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่มุ่งขับเคลื่อนให้เกิดมาตรการลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ผลักดันมาตรการภาษีควบคุมยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรการลดอุบัติเหตุทางถนน และพัฒนากลไกเฝ้าระวังโรคระดับชาติ ทั้งนี้ การกู้คืนปีสุขภาวะจำเป็นต้องใช้ฐานข้อมูลภาระโรคที่แม่นยำ เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงสุขภาพตามบริบทของพื้นที่ นักวิชาการ นักวิจัย และหน่วยงานด้านนโยบาย สามารถนำข้อมูลภาระโรคไปใช้ในการพัฒนาความรู้ และเสนอแนวทางใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาสุขภาพ ช่วยเพิ่มอายุคาดเฉลี่ยและยกระดับสุขภาวะของประชาชนไทยอย่างยั่งยืน ดร.ณัฐพันธุ์ กล่าว
You must be logged in to post a comment Login