- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 7 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 7 months ago
- โลกธรรมPosted 7 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 7 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 7 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 7 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 7 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 8 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 8 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 8 months ago
สสส. เปิดเวทีถอดบทเรียนความสำเร็จ “ชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx)” ชูโมเดล อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เป็นต้นแบบแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน

สสส. เปิดเวทีถอดบทเรียนความสำเร็จ “ชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx)” ชูโมเดล อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เป็นต้นแบบแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ชี้สถานการณ์น่าห่วง คนไทยเสพยาเสพติด เกือบ 5 ล้านคน แนะทางรอดต้องเปลี่ยนจากการตั้งรับสู่การสร้าง “ชุมชนเข้มแข็ง” ให้เป็นกลไกในการป้องกันและฟื้นฟู

วันที่ 2 ต.ค. 2568 ที่โรงแรม เซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ จ.เชียงใหม่ นายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) คนที่ 2 และประธานกรรมการบริหารแผน คณะที่ 1 กล่าวในเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพพลังอำเภอสู่การเป็นอำเภอต้นแบบและอำเภอขยายผลในการขับเคลื่อนชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ว่า ปัญหาสถานการณ์ยาเสพติดของไทย แนวโน้มรุนแรงเพิ่มมากขึ้น จากงานวิจัยประมาณการผู้ใช้สารเสพติดในไทย ปี 2567 โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พบคนไทยใช้สารเสพติด 1.9 ล้านคน ยาบ้า 1.5 ล้านคน และกัญชา 1.5 ล้านคน มีรากฐานมาจากปัญหาทางสังคม ความเหลื่อมล้ำ ความทุกข์ยาก และปัญหาปากท้อง ปัญหาเหล่านี้ถูกซ้ำเติมจากข้อจำกัดและความอ่อนแอของกฎหมาย ซึ่งเวทีในครั้งนี้ กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้แลกเปลี่ยนและสร้างทีมให้ร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ไม่ให้เกิดผู้เสพรายใหม่ นำไปสู่ครอบครัวและสังคมที่ปลอดภัย
“สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ชูโมเดลแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ขยายผลขับเคลื่อน ‘การสร้างชุมชนเข้มแข็ง’ ภายใต้โครงการ ‘ชุมชนล้อมรักษ์’ (CBTx) โดยมีคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) เป็นกลไกหลักดำเนินงาน ซึ่งจะช่วยสร้างศักยภาพให้ชุมชน สามารถคัดกรองผู้มีความเสี่ยง และติดตามดูแลผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดแล้ว ซึ่งเวทีในครั้งนี้ มีการถอดบทเรียนความสำเร็จของอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง นำร่องใน 2 หมู่บ้านที่มีผู้ใช้ยาเสพติด โดยมีการดำเนินงาน 4 ด้าน 1.คัดกรองเชิงรุก ด้วยการตรวจปัสสาวะประชาชนทุกคนในพื้นที่นำร่อง 2.ใช้กลไกชุมชน สอดส่องและแจ้งเบาะแส เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปคัดกรองถึงบ้าน 3.ทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างที่ว่าการอำเภอ สาธารณสุข ตำรวจ และภาคีเครือข่าย เพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน 4.ออกแบบการบำบัดผู้ใช้ยาเสพติด ภายใต้กรอบเวลา 16 สัปดาห์ ผลลัพธ์หมู่บ้านนำร่องใน จ.ลำปาง 28 คน ผ่านการบำบัดและตรวจไม่พบสารเสพติด” นายสุรเชษฐ์ กล่าว

นายทศพล จำบุญมา นายอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง กล่าวว่า ชุมชนต้องดูแลผู้ป่วยในระหว่างการบำบัดควบคู่ดูแลสภาพแวดล้อมของชุมชนให้โอบรับผู้ผ่านการบำบัดกลับสู่สังคม ด้วยการสร้างความเข้าใจให้กับคนในชุมชน ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อผู้ที่ผ่านการบำบัดแล้ว ส่งเสริมให้ผู้ที่เข้ารับการบำบัดสามารถสร้างรายได้ผ่านการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ เพื่อการประกอบอาชีพ เช่น การเกษตร และการประมง ด้วยการเชิญผู้มีความเชี่ยวชาญด้านนั้นๆ มาให้ความรู้ โดยทั้งหมดนี้ ดำเนินงานผ่านหลักการ 5 เสือ “ครอบครัว ผู้นำชุมชน เครือข่ายโรงพยาบาลสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ศาสนสถาน และฝ่ายปกครอง” เป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ให้ชุมชนสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

นายพิทยา จินาวัฒน์ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และรองประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการชุมชนล้อมรักษ์ ภายใต้การสนับสนุนจาก สสส. เชื่อมการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น สร้างระบบดูแลผู้ใช้ยาเสพติดในชุมชนอย่างยั่งยืน อีกทั้ง สสส. เสริมสร้างความรู้ ทักษะ เครื่องมือ และนวัตกรรม ให้แก่ พชอ. เพื่อให้กลไกหลัก สามารถดำเนินงานได้อย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในการดูแลผู้ที่ใช้สารเสพติดในพื้นที่”

นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การบำบัดผู้ติดยาเสพติดที่ยั่งยืนคือการส่งเสริมให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตตามปกติในชุมชน ซึ่งมีข้อดีคือ ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาในสถาบันเฉพาะ ชุมชนจึงเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด ต้องเตรียมพร้อมเพื่อโอบรับผู้ผ่านการบำบัด โดยสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการยอมรับและไม่ตีตราผู้ป่วย เพราะหากสังคมต้อนรับ พวกเขาจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและสามารถกลับมาเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชนได้ หัวใจสำคัญคือการที่คนในชุมชนต้องมีความรู้สึก อยากช่วยเหลือและยอมรับ ผู้ป่วยในฐานะญาติพี่น้อง ด้วยการ เอาใจใส่ ดูแล และช่วยเหลือเกื้อกูล โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะใช้ยาซ้ำซ้อนจะต้องได้รับการดูแลเป็นรายกรณีไป ซึ่งการทำผิดพลาดถือเป็นเรื่องที่คนในชุมชนต้องร่วมกันดูแล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหานี้
You must be logged in to post a comment Login