สสส.จับมือ จ.กระบี่ ทำ MOU ยกระดับจังหวัดปลอดภัยยาเสพติดและถนน

• Tweet
• 

จังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองสวรรค์แห่งอันดามัน แต่ในพื้นที่กลับพบว่าปัญหายาเสพติดและความปลอดภัยทางถนนหรือการเกิดอุบัติเหตุมีสูงขึ้น  จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ว่าฯจังหวัดกระบี่ขึ้นมาสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนและยาเสพติดขึ้น โดยให้ทุกอำเภอดำเนินงานในทุกๆด้านตามความเหมาะสมของพื้นที่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนและสร้างภาพลักษณ์จังหวัดกระบี่ให้ยังคงความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัยสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติ

แนะทุกภาคส่วนแก้ปัญหายาเสพติดและอุบัติเหตุทางถนนต้องทำงานเชิงรุก

นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดและอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดกระบี่มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆที่ผ่านมารัฐบาลและจังหวัดมีนโยบายที่จะมุ่งเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด และลดอุบัติเหตุทางถนนมาโดยตลอด

ทั้งนี้ปัญหายาเสพติดและอุบัติเหตุทางถนนเป็นเรื่องที่ท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ที่ผ่านมาได้ดำเนินการเชิงรุกควบคู่กับการบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งด้านการข่าว การป้องกัน การบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ และการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด โดยยึดหลัก 1.พื้นที่ต้องปลอดยาเสพติด ผู้ค้าต้องไม่มีที่ยืนในสังคม ตามนโยบาย “No Drugs No Dealers” มุ่งสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชน 2.พัฒนากลไกการมีส่วนร่วมของชุมชน ผ่านหมู่บ้าน ชุมชม โดยกำหนด Road Map ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ภายใต้ 5 มาตรการ Re x-ray ค้นหา ผู้ค้า ผู้เสพ ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ได้รับการฟื้นฟูสภาพทางสังคม นำนวัตกรรมหรือความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มาใช้ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และการติดตามประเมินผลการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งนี้ เพื่อให้ทั้ง 398 หมู่บ้าน 14 ชุมชนในจังหวัดกระบี่ปลอดจากยาเสพติด ไม่มีผู้ค้าและผู้เสพอีกต่อไป

“ส่วนการลดปัจจัยเสี่ยงทางถนน จังหวัดกระบี่ได้บูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อสร้างวินัยจราจร ลดปัจจัยเสี่ยง ผ่านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง เช่น 1.ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งตั้งแต่เด็กเล็ก จะช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน และสร้างต้นแบบความสำเร็จที่สามารถขยายผลไปยังจังหวัดอื่นได้อย่างยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และวิถีชีวิตของคนกระบี่ 2.พัฒนาระบบช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างทันท่วงที 3.สร้างถนนทุกสายให้เป็นถนนแห่งความปลอดภัย เพื่อสร้างวินัยจราจรและลดปัจจัยเสี่ยง ที่นำไปสู่อุบัติเหตุเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และสร้างภาพลักษณ์จังหวัดกระบี่ให้ยังคงความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัยสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติ” ผู้ว่าฯ กระบี่ กล่าว

นพ.สมบูรณ์ บุญกิตติชัยพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังวัดกระบี่ กล่าวว่า บทบาทของสาธารณสุขคือมีหน้าที่คัดกรอง การบำบัด รักษาและฟื้นฟู ในจังหวัดกระบี่มีศูนย์คัดกรองครบทุกตำบล 12 แห่ง ส่วนเรื่องการบำบัดรักษามีเตียงรองรับในโรงพยาบาลทุกแห่ง และมีมินิธัญรักษ์ที่เกาะลันตาที่สามารถรองรับได้ 55 เตียง ซึ่งรับผู้ป่วยในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง และมีสถานฟื้นฟูเอกชนที่ได้รับรอง แล้ว 1 แห่ง และอยู่ระหว่างการรับรองอีก 2 แห่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นความร่วมมือในการดูแลผู้ป่วย ด้านบริการเราไม่ได้เน้นเรื่องของการรักอย่าเพียงอย่างเดียว  มีทีมงานออกไปทำงานเชิงรุกด้วยการใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วย และออกไปเยี่ยมบ้านเพื่อการบำบัด ฟื้นฟูและดูแล

สำหรับชุมชนล้อมรักษ์ของจังหวัดกระบี่ได้มีการทำครบทั้ง 8 อำเภอ ในปีที่ผ่านมามีผู้เข้ารับการบำบัดรักษามากกว่า 1,300 คน ทั้งนี้ได้มีโครงการนำผู้ค้าและผู้เสพเข้ารับการบำบัดรักษาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางกระบี่จะเน้นไปในเรื่องของการบูรณาการทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกอำเภอขับเคลื่อนเรื่องยาเสพติด รวมถึงเรื่องอุบัติเหตุ เข้าสู้ระบบ พชอ. ถือว่าเป็นจุดของความร่วมมือและความสำเร็จให้มีความก้าวหน้าไปในระดับที่ดี และหากทาง สสส.เข้ามาร่วมมือกับจังหวัดกระบี่ ที่ สสส.มีความโดดเด่นเรื่ององค์ความรู้ การสื่อสารต่างๆจะยิ่งหนุนเสริมทำให้กระบวนการทำงานเรื่องยาเสพติดอุบัติเหตุดีขึ้น

ส่วนศูนย์เด็กเล็กทั้งหวัดและสาธารณสุขจังหวัดได้มีการทำงานร่วมกับศูนย์เด็กเล็กที่ดูแลเรื่องของสุขภาพจิต พัฒนาการ อย.น้อย เป็นต้น เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยหนุนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องของการใส่หมวกกันน็อกให้แก่เด็กๆในจังหวัดกระบี่เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่

ตำรวจต้องเอาบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด

พล.ต.ต.ชัยเกียรติ  วิริยะสถิตกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในการบังคับใช้กฎหมายและความร่วมมือในช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมาการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 13 สถานี ใน 8 อำเภอ ได้มีการบังคับให้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และได้ร่วมมือกับกรมการปกครอง และสาธารณสุขเรื่องของการป้องกันผู้เสพและผู้ค้า  รวมทั้งมีการบำบัดและปราบปรามผู้ค้ารายย่อย การป้องกันและการแพร่ระบาดของยาเสพติดมีการทำงานอย่างเข้มข้น รวมทั้งการสกัดกั้นยาเสพติดของนอกพื้นที่ไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาส่งผลให้ผู้ค้าได้ดำเนินการส่งยาเสพติดทางพัสดุเพื่อกระจายเข้ามาในพื้นที่ ได้มีการจับกุมได้มากขึ้นหลักแสนราย ส่วนความร่วมมือในชุมชนได้มีการบูรณาการร่วมกันในการสร้างชุมชนยั่งยืนที่เป็นการเอ็กซ์เรย์คนออกจากยาเสพติดเพื่อให้เข้าสู่การบำบัดตลอดจนสร้างอาชีพเพื่อให้ผู้เสพได้กลับคืนสู่สังคมได้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ ส่วนเรื่องของอุบัติเหตุ ได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยากรบรรยายเรื่องของยาเสพติดเข้าไปบรรยายในโรงเรียน ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับนักเรียน และเสริมสร้างวินัยการจราจรเข้าไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องของหมวกกันน็อก เพื่อเสริมสร้างวินัยให้กับเด็กและประชาชน

สสส.ชู กระบี่ สร้างการเปลี่ยนแปลงจังหวัดให้ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ได้ลงนามความร่วมมือการสร้างจังหวัดปลอดภัยจากยาเสพติดและการประชาสัมพันธ์อุบัติเหตุทางถนน จังหวัดกระบี่” ที่เป็นจังหวัดต้นแบบ เป็นการทำงานร่วมกับ จ.กระบี่ เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการสร้างการเปลี่ยนแปลงจังหวัดให้ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะยาเสพติดและอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งสสส. สนับสนุนการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผู้ใช้สารเสพติดด้วยแนวทางชุมชนล้อมรักษ์ หรือ CBTx (Community-Based Treatment and Rehabilitation) โดยมีคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) เป็นกลไกหลักดำเนินงาน ส่วนการขับเคลื่อนลดอุบัติเหตุทางถนน ได้ส่งเสริมด้านประชาสัมพันธ์ สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ตั้งแต่วัยเด็กเล็ก จัดตั้งธนาคารหมวกนิรภัย และรณรงค์ในครอบครัวและชุมชน เพื่อลดอุบัติเหตุเป็นศูนย์และลดจำนวนผู้สูญเสีย

นพ.พงศ์เทพ กล่าวต่อว่า สสส. มียุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชน 1.ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ช่วยให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด 2.สนับสนุนการพัฒนาชุมชนต้นแบบปลอดอบายมุข และเสริมพลังครอบครัวให้เป็นเกราะป้องกันที่เข้มแข็ง สำหรับยุทธศาสตร์การลดอุบัติเหตุทางถนน มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการเดินทางที่ปลอดภัยและมีวินัยจราจร 1.รณรงค์ดื่มไม่ขับ 2.สวมหมวกนิรภัย 100% โดยเฉพาะในเด็ก เยาวชน ครอบครัว ชุมชน 3.ใช้มาตรการความปลอดภัยทางถนนในทุกเทศกาล 4.สร้างเครือข่ายชุมชนท้องถิ่น ร่วมกำหนดมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่

นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า การขยายผลให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ และการทำงานร่วมกันเป็นโจทย์ที่ท้าทายที่จะทำต่อ โดยอาศัยความร่วมมือของชุมชน ทีมวิชาการที่ไปทำงานร่วมกัน ส่วนเรื่องการประชาสัมพันธ์เรื่องอุบัติเหตุทางถนนเป็นเรื่องที่ดี ที่ทาง สสส.อยากจะเห็นเรื่องของการสร้างจิตใต้สำนึกกับเด็กและเยาวชน เพื่อสร้างวินัยของกฎจราจร ผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น การเล่นเกม และเด็กสามารถชวนผู้ปกครองให้ทำตามได้ ทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญต้องขอขอบคุณจังหวัดกระบี่ที่ร่วมสร้างเป็น “จังหวัดปลอดภัย” ที่ปราศจากปัญหายาเสพติด และมีการจัดการปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของชาวกระบี่ และพัฒนาให้จังหวัดกระบี้เป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นๆ ต่อไป

You must be logged in to post a comment Login