- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 6 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 6 months ago
- โลกธรรมPosted 6 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 7 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 7 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 7 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 7 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 7 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 7 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 7 months ago
คนไทย 13 ล้านคนประสบปัญหา “จิตเวช” สสส. รุกสร้างสุขภาวะทางปัญญา

คนไทย 13 ล้านคนประสบปัญหา “จิตเวช” พยายามฆ่าตัวตายกว่า 30,000 คน วัยรุ่นเสี่ยง “ซึมเศร้า”มากที่สุด สสส. รุกสร้างสุขภาวะทางปัญญา ชวนยอมรับตัวเอง-มองเห็นคุณค่าชีวิต สอดรับ Sustrends 2569 สื่อสารพลังจิตอาสา” ผ่านอินฟลูเอนเซอร์สร้าง “วัคซีนป้องกันจิตใจ”

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวภายในงาน Sustrends 2026 Year of Volunteers ว่า แนวโน้มปัญหาสุขภาพจิตของคนไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามรายงานสุขภาพคนไทยปี 2568 พบว่า คนไทยกว่า 13 ล้านคน เคยประสบปัญหาด้านจิตเวช และกว่า 1 ใน 5 คน เคยเข้ารับการรักษาพยาบาล ทุกปีมีผู้พยายามฆ่าตัวตายกว่า 30,000 คน โดยกลุ่มอายุ 15-19 ปี เป็นสัดส่วนมากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง แต่เมื่อเทียบอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ กลับพบว่าสูงกว่าในเพศชายถึง 4 เท่า โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีจำนวนสูงถึง 5,000 คนต่อปี นอกจากนี้ ภาวะซึมเศร้ายังพบมากที่สุดในกลุ่มเยาวชนอายุ 18-24 ปี หนึ่งในปัจจัยสำคัญมาจากการเลี้ยงดูในครอบครัว เมื่อพ่อแม่พยายามผลักดันให้ลูกทำได้ดีกว่าเดิม แต่สิ่งที่เด็กมักได้ยินคือ “ยังไม่ดีพอ” จนนำไปสู่สิ่งที่เรียกว่า Psychic Debris หรือ “เศษซากจิตใจที่ถูกทำลายและสะสม” หากไม่ได้รับการบำบัด อาจพัฒนาไปสู่การระเบิดทางอารมณ์หรือการฆ่าตัวตายในที่สุด

“การช่วยเหลือไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไป แต่สามารถทำได้ด้วยแรงกาย แรงใจ สติปัญญา หรือแม้แต่คำพูดที่ให้กำลังใจ สิ่งเหล่านี้คือการส่งต่อความดีที่จะสร้างสังคมแห่งความเอื้ออาทรและความยั่งยืนได้จริง ที่ผ่านมา สสส. ขับเคลื่อนสุขภาวะทางปัญญาที่เน้นการมองออกไปนอกตัวเอง มองเห็นความทุกข์ของคนรอบข้างและสังคม นำไปสู่การช่วยเหลือและการทำงานเพื่อส่วนรวม แนวคิดนี้เชื่อมโยงกับ ‘จิตอาสา’ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในเทรนด์หลักของ Sustrends ปี 2569 โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี เคยกล่าวไว้ว่า ‘ทุกคนมีเมล็ดพันธุ์แห่งความดีที่จะงอกงามเมื่อถึงเวลา’ ซึ่งปุ๋ยที่ดีที่สุดคือการมองเห็นความทุกข์ของผู้อื่น และลุกขึ้นมาช่วยเหลือ ไม่ใช่เพียงการโทษหรือถามหาคนผิด แต่เป็นการลงมือทำเพื่อให้สังคมและประเทศก้าวไปข้างหน้า” นพ.พงศ์เทพ กล่าว

นพ.พงศ์เทพ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือการสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ โดยการยอมรับว่าตนเองมีคุณค่า สำคัญต่อคนรอบข้าง และไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบเสมอไป สิ่งนี้จะเป็น “วัคซีนทางจิตใจ” ที่ช่วยให้เราไม่ถูกคำวิจารณ์ภายนอกทำลายคุณค่าในตัวเอง นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “สุขภาวะทางปัญญา”หรือ Spiritual Health ที่จะย้อนกลับมาเยียวยาใจเรา สสส. มีการจัดกระบวนการเรื่องสุขภาวะทางปัญญาและจิตอาสา โดยเชิญชวนคนที่สนใจเรื่องนี้มาพูดคุยกัน และสื่อสารผ่านอินฟลูเอนเซอร์เพื่อเชิญชวนทุกคนเข้าถึงเรื่องนี้ ให้ได้ค้นพบว่าตัวเขามีคุณค่าอย่างไรกับผู้อื่นและโลกใบนี้ เมื่อสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ เป็นการเชิญชวนคนทั้งประเทศเข้ามาทำงานด้านจิตอาสาและทำงานเพื่อผู้อื่นมากขึ้น เป็นการเปิดโลกของเรา สังคมไทยก็จะพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วด้วยความเอื้ออาทร ที่มีความสุขเมื่อเห็นคนอื่นมีความสุข


You must be logged in to post a comment Login