- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 6 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 6 months ago
- โลกธรรมPosted 6 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 6 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 6 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 7 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 7 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 7 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 7 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 7 months ago
จากโรงเรียนสู่บ้าน-ชุมชน ร.ร.วัดโพธิ์บ้านอ้อยสร้างวินัยให้ นร.ลดปัญหาขยะจากอาหาร

รู้แล้วจะอึ้ง!! เมื่อคนไทยเกือบทุกคนสร้างขยะอาหารแบบไม่รู้ตัว หลังจากทั้ง 3 หน่วยงานรวมพลังสำรวจพบว่าคนไทยสร้างขยะอาหารมากถึงปีละเกือบ 10 ล้านตัน แหล่งต้นกำเนิดขยะอาหารสูงสุดคือ ตลาดสด ห้าง ร้านสะดวกซื้อ สำนักงานที่มีศูนย์อาหาร ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพโดยไม่รู้ตัว ซึ่งขยะอาหารที่เกิดขึ้นมาจากพฤติกรรมการกินเหลือนั่นเอง โดยมี ร.ร.วัดโพธิ์บ้านอ้อย(ทองดีวิทยานุสรณ์) เห็นความสำคัญเรื่องของขยะอาหารจึงได้สร้างความตระหนักรู้เรื่องการกำจัดขยะอาหารให้กับนักเรียน ตามแนวคิดที่จะปลูกฝังเรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไปในอนาคต หนุนสร้างพฤติกรรมกินข้าวหมดจาน กินน้ำหมดแก้ว
ปัญหาขยะอาหารไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ ลองคิดดูว่า ขยะอาหารที่มนุษย์สร้างขึ้นปีละเกือบ 10 ล้านตัน ถ้าไม่มีการจัดการที่ถูกวิธีประเทศไทยจะเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่มาจากขยะอาหารมากแค่ไหน แต่ในทางกลับกันถ้าทุกพื้นที่มีแนวทางการกำจัดขยะอาหารที่ดีจะช่วยลดขยะอาหารได้ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก ลดก๊าซเรือนกระจก ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) จัดสัมมนาเผยแพร่ผลงานและแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการขยะอาหาร ภายใต้โครงการส่งเสริมการป้องกัน ลด และจัดการขยะอาหารจากแหล่งกำเนิดกรณีศูนย์อาหาร เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการลดขยะอาหารอย่างเป็นรูปธรรม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

นายประเสริฐ ศิรินภาพร รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปริมาณขยะอาหารที่สำรวจได้ประมาณ 10 ล้านตันหรือประมาณ 150 กิโลกรัม/คน/ปี ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่มากอยู่ ซึ่งเราพยายามที่จะกำจัดและลดปริมาณขยะอาหารอยู่ การดำเนินงานเป็นไปตามแผน ในปี 2564 กรมควบคุมมลพิษ ได้ทำการศึกษาสำรวจองค์ประกอบขยะมูลฝอย ณ สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของประเทศ และจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะอาหารของประเทศ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2566 – 2570) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 12) ต่อมาได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะอาหารของประเทศ ฉบับที่ 2 (2566-2570) เพื่อลดปริมาณขยะอาหารเทียบจากปริมาณขยะมูลฝอยชุมชน 28% ภายในปี 2570 และรณรงค์ลดขยะอาหารภายใต้แนวคิด “Stop Food Waste Start the Future” ซึ่งจะมีแนวทางและมาตรการการกำจัดขยะอาหารตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทาง ซึ่งเราจะต้องดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งตอนนี้เราโฟกัสไปที่ศูนย์อาหารที่เป็นแหล่งกำเนิดขยะอาหารที่ค่อนข้างเยอะ ในอนาคตหวังว่าจะมีแนวทางและมาตรการโฟกัสไปยังกลุ่มอื่นๆได้

ทางด้าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณขยะอาหารกว่า 9.7 ล้านตันต่อปี คิดเป็น 146 กิโลกรัมต่อคนต่อปี มีแหล่งกำเนิดมาจาก 1.ตลาดสด 2. ห้างสรรพสินค้า 3.ร้านสะดวกซื้อ 4.อาคารสำนักงาน ซึ่งแหล่งกำเนิดดังกล่าวส่วนใหญ่จะมีศูนย์อาหารอยู่ด้วย และจากการสำรวจขยะอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ปี 2565 พบว่า มีสัดส่วนขยะอาหารมากที่สุดคิดเป็น 46% ของขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้น และส่วนใหญ่ยังดำเนินการกำจัดไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทั้งปัญหาน้ำแหล่งน้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นรบกวน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งโรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคผิวหนัง โรคติดเชื้อแบคทีเรีย การจัดการขยะอาหารที่ถูกต้องและนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ จึงเป็นทางออกหนึ่งเพื่อช่วยลดปริมาณขยะอาหารและผลกระทบต่อสุขภาพได้
“สสส. จึงสนับสนุนโครงการส่งเสริมการป้องกัน ลด และจัดการขยะอาหารจากแหล่งกำเนิดกรณีศูนย์อาหาร โดยผลักดันให้ศูนย์อาหาร 15 แห่ง เป็นพื้นที่นำร่องขับเคลื่อนการลดขยะอาหารต้นทางอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ขับเคลื่อนนโยบายมาตรการทางสังคมและชุมชน รวมถึงเสริมสร้างวิชาการ องค์ความรู้ และฐานข้อมูลในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการปกป้องและเสริมสร้างสุขภาพให้มีจิตสำนึกเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีมาตรการและนโยบายสาธารณะในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างระบบการจัดการขยะอาหารที่ยั่งยืน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ตอกย้ำว่าขยะอาหาร ปลายทางไม่ใช่หลุมฝังกลบอีกต่อไป” ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานของโครงการฯ พบว่าศูนย์อาหารที่เข้าร่วมสามารถลดปริมาณขยะอาหารได้ 20% และขยะอาหารทั้งหมดที่เหลือถูกนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ 100% โดยไม่ต้องส่งไปยังหลุมฝังกลบ โครงการฯ ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 125 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) อีกทั้งยังส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคภายใน
สำหรับวิธีทำที่จะทำให้ตัวเองเป็นผู้ที่ไม่สร้างอาหารขยะด้วยตนเองทำได้คือ เราต้องประเมินตัวเองก่อนกินน้อยก็ขอข้าวน้อย ส่วนหนึ่งเราจะมีป้ายขยะบริโภคอะไรที่ดีต่อสุขภาพ หรือการบริโภคอะไรที่ก่อให้เกิดก๊าซ ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนมากที่สุด ซึ่งตรงนี้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ทำได้ ส่วนอีกแนวทางหนึ่งคือการปรุงอาหารหรือจัดซื้อให้พอเพียงต่อการบริโภค

และที่ ร.ร.วัดโพธิ์บ้านอ้อย(ทองดีวิทยานุสรณ์) ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่เป็นในภาพรวมโรงเรียนเป็นโรงเรีนต้นแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อของ กพฝ.อยู่แล้วให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมในทุกๆด้าน และที่ผ่านมาทางโรงเรียนพบว่า ขยะอาหารของโรงเรียนมีเป็นจำนวนมาก นางสาวสุจีรา บุญเรืองรอง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธิ์บ้านอ้อยฯ กล่าวถึงที่มาของการกำจัดขยะอาหารภายในโรงเรียน
ผอ.ร.ร.วัดโพธิ์บ้านอ้อยฯ กล่าวว่า ด้วยความที่โรงเรียนมีนักเรียนตั้งแต่ชั้นระดับอนุบาลไปจนถึงประถมศึกษา และพบว่าอาหารที่โรงเรียนมีขยะอาหารเป็นจำนวนมากจึงเกิดแนวคิดที่จะปลูกฝังเรื่องการกำจัดขยะอาหาร และขยะอื่นๆอย่างถูกต้องตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อให้เด็กมีความรู้ในเรื่องดังกล่าวติดตัวไปจนโต
การดำเนินงานภายใต้แนวคิด 3 ดี โมเดลของโรงเรียนเริ่มจาก 1.ตัวอย่างดี เริ่มต้นจากผู้บริหาร ครู นักเรียน กินอาหารหมดจาน ดื่มน้ำหมดแก้ว 2.แนวปฏิบัติดี ตักอาหารให้พอดีกับความต้องการของตนเอง แล้วกินให้หมด ถ้ามีเศษอาหารให้นำไปทิ้งลงถังที่ทางโรงเรียนจัดไว้ และ 3.สิ่งแวดล้อมที่ดี ขยะอาหารเมื่อนำไปแยกแล้ว ทางโรงเรียนจะจัดทำหลุมย่อยเศษอาหารให้นักเรียนนำเศษอาหารเหล่านี้เทลงหลุม แล้วอีก 1 อาทิตย์จะมาดูการเปลี่ยนแปลงและขุดดินฝังกลบต่อไปเพื่อให้เศษอาหารเหล่านี้กลายเป็นปุ๋ย

อาหารในโรงเรียนที่เหลือทิ้ง ผู้อำนวยการจะให้แนวคิดกับแม่ครัวปรับปรุงเมนูให้ถูกใจเด็กๆแต่ต้องได้สารอหารครบถ้วน ตักอาหารให้พอดีที่เด็กจะไม่กินเหลือ ใครไม่อิ่มเติมอาหารได้ตลอด ส่วนผู้บริหารและครูจะเป็นตัวอย่างในการกินอาหารให้หมดจาน กินน้ำให้หมดแก้วเพื่อลดปริมาณขยะอาหาร ส่วนอาหารที่เหลือจริงๆจะถูกนำไปทิ้งที่ขยะ เพื่อแยกขยะก่อนนำไปใส่ในหลุมฝังเพื่อนทำปุ๋ย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้นักเรียนมีส่วนร่วม และสร้างความตระหนักรู้ของความสำคัญของขยะอาหาร

หลังจากดำเนินงานแล้วพบว่า โรงเรียนสามารถลดปริมาณขยะอาหารได้อย่างชัดเจน ส่วนขยะอาหารที่ได้นำไปทำเป็นปุ๋ย นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้นำเทคโนโลยีเครื่องกำจัดเศษอาหารเข้ามาใช้ ส่งผลให้โรงเรียนลดปัญหาการซื้อปุ๋ย ส่วนต้นไม้มีการเจริญเติบโตที่ดี สภาพแวดล้อมในโรงเรียนดีขึ้นไม่มีกลิ่นหรือแมลงวันที่มาจากขยะอาหาร นอกจากนี้โรงเรียนยังมีทำธนาคารขยะ เพื่อให้นักเรียนได้รู้จักวิธีแยกขยะที่ถูกต้อง เพื่อลดปริมาณขยะได้อีกทางหนึ่ง และเมื่อนักเรียนมีความรู้เรื่องการกำจัดขยะที่ถูกวิธีแล้ว เด็กจะนำความรู้ที่ได้ไปบอกต่อคนในครอบครัวต่อไป และสิ่งที่ ผอ.อยากจะฝากไว้คือ พลังของเด็กในวันนี้ คือพลังในการรักษาโลกของเรา
You must be logged in to post a comment Login