ชีวิตหลังความตาย

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 1 ส.ค. 68)

ความเชื่อในโลกหลังความตายเป็นความเชื่อที่มีมาแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว เพราะมันเป็นความจริงที่ทุกศาสนายืนยันและบอกมนุษย์ด้วยถ้อยคำที่แตกต่างกันไป เช่น นรก สวรรค์  วันฟื้นคืนชีพหลังความตาย วันพิพากษา เป็นต้น

ใครไม่เชื่อว่าโลกหลังความตายมีอยู่จริงเพียงเพราะมองไม่เห็นก็ไม่ต่างจากทารกในครรภ์ที่มองไม่เห็นโลกนอกครรภ์แม่หรือเหมือนกับแมลงวันที่อายุสั้นเกินกว่าที่จะเห็นฤดูหนาวที่มีหิมะขาวโพลน

เราอาจกล่าวได้ว่าความเชื่อในเรื่องโลกหลังความตายเป็นหลักความเชื่อที่ทุกศาสนาใช้ในการควบคุมวิญญาณที่กฎหมายไม่สามารถคุมได้

การไม่เชื่อในเรื่องการฟื้นคืนชีพหลังความตายหรือเชื่ออย่างผิดๆจะมีผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์

คนไม่เชื่อในโลกหลังความตายจะใช้ชีวิตเยี่ยงสัตว์ทั้งหลายที่คิดว่าตัวเองเกิดมาเพียงเพื่อกิน นอน ถ่ายสืบพันธุ์และตายไปโดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนหลังความตาย คนเช่นนี้จะทำทุกอย่างที่ตัวเองต้องการ

แต่ความตายไม่ใช่จุดสุดท้ายของชีวิต  ความตายเป็นแค่เพียงการคลอดของวิญญาณที่เป็นชีวิตที่แท้จริง และมันจะต้องไปรับผิดชอบในสิ่งที่มันได้ทำไว้ในฐานะจอมบงการอวัยวะของมนุษย์ให้ทำสิ่งตางๆขณะมีชีวิตอยู่ในโลก

ฟาโรห์แห่งอียิปต์เชื่อว่าเมื่อมนุษย์สิ้นชีวิต  วิญญาณที่ออกจากร่างไปจะกลับมายังร่างของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง  ด้วยความเชื่อเช่นนี้  ฟาโรห์จึงสะสมทรัพย์สมบัติไว้มากมายและสั่งให้ทำมัมมีรักษาร่างของตัวเองไว้เพื่อกลับมาใช้ทรัพย์สมบัติของตัวเอง  ก่อนตาย ความโลภจึงไม่หมด แถมยังห่วงสมบัติจนต้องทำปีรามิดซ่อนร่างและทรัพย์สมบัติของตนไว้  แต่เวลาผ่านไปสามพันกว่าปีแล้ว  วิญญาณของฟาโรห์ก็ยังไม่กลับมา

ชาวจีนมีความเชื่อว่าโลกหน้ามีจริง  คนมีฐานะจึงเตรียมตัวตายโดยการจัดหาทำเลราคาแพงไว้ฝังศพตัวเอง  หากฐานะยากจน  ลูกจะแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ด้วยการจัดเตรียมโลงไว้ให้  หลังเสียชีวิต ลูกหลานจะทำพิธีกงเต็กเผาหุ่นจำลองสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นไปให้บรรพุบุรุษโดยคิดว่าในโลกหลังความตายมนุษย์ยังจำเป็นต้องใช้วัตถุปัจจัยเหมือนในโลกนี้

ในอิสลาม  ความเชื่อในเรื่องโลกหน้าและการฟื้นคืนชีพหลังความตายเป็นหลักศรัทธาสำคัญหนึ่งใน 6 ประการที่มุสลิมทุกคนต้องมีพร้อมกับความเชื่อในเรื่องการมีอยู่ของพระเจ้าองค์เดียว

มุสลิมเชื่อว่าวิญญาณที่ทำให้มนุษย์มีชีวิตมาจากพระเจ้าและวันหนึ่งวิญญาณต้องกลับไปหาพระองค์ ดังนั้น  เมื่อประสบเคราะห์กรรมหรือได้ยินข่าวการตาย  พระเจ้าสั่งมุสลิมให้กล่าวว่า “แท้จริง เราเป็นของพระเจ้าและยังพระองค์ที่เราจะกลับไป”

วจนะของพระเจ้าดังกล่าวจึงบอกมุสลิมว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างของมนุษย์ไปแล้ว มันจะไม่กลับมายังโลกนี้อีกเหมือนกับทารกที่คลอดมาแล้วไม่สามารถกลับเข้าไปในครรภได้อีก  แต่มันจะกลับไปหาพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของวิญญาณและส่งมันมาเพื่อไปรับการพิพากษาในสิ่งที่มันได้ทำไว้ในขณะที่อยู่ในโลกใบนี้

ส่วนโลกหน้าเป็นโลกแห่งการตอบแทนสิ่งที่มนุษย์ได้ทำไว้  คัมภีร์กุรอานกล่าวว่า “ใครทำดีแม้เพียงอณูหนึ่งก็จะได้เห็นมัน และใครทำชั่วแม้เพียงอณูหนึ่งก็จะได้เห็นมัน” (กุรอาน 99:7-8)

ทารกไม่มีทรัพย์สินใดๆขณะอยู่ในครรภ์  แต่เมื่อคลอดออกมายังโลกนี้  พระเจ้าได้เตรียมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ให้  ส่วนโลกหน้าเป็นโลกแห่งวิญญาณที่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งที่มนุษย์เคยใช้ในโลก

นบีมุฮัมมัดบอกว่าเมื่อมนุษย์เสียชีวิต  มีสามสิ่งที่จะติดตัวมนุษย์ไป นั่นคือ ทานที่ให้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง  วิทยาทานและคำขอพรของลูกที่ดี

You must be logged in to post a comment Login