- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 4 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 4 months ago
- โลกธรรมPosted 4 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 4 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 4 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 4 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 4 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 4 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 4 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 4 months ago
สสส.-คิด for คิดส์ เผยผลศึกษาเจาะลึกสถานการณ์เด็ก-ครอบครัว ปี 68 พบ เด็ก-เยาวชนอยู่ในครัวเรือนหนี้สินสูง 6.2 ล้าน

สสส.-คิด for คิดส์ เผยผลศึกษาเจาะลึกสถานการณ์เด็ก-ครอบครัว ปี 68 พบ เด็ก-เยาวชนอยู่ในครัวเรือนหนี้สินสูง 6.2 ล้านคน เข้าไม่ถึงอุปกรณ์ดิจิทัล 62.1% ต้องเผชิญปัญหามลพิษทางอากาศ-อบายมุข-สวัสดิการแรงงาน-ความสัมพันธ์ครอบครัว-ความขัดแย้งทางการเมือง กระทบต่อสุขภาวะ เปิดเวทีชวนหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ถกนโยบายแก้ปัญหา สร้างสุขภาวะดีให้เด็ก-ครอบครัวไทย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. 2568 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว (คิด for คิดส์) และศูนย์ความรู้นโยบายสาธารณะเพื่อการเปลี่ยนแปลง (101 Public Policy Think Tank: 101 PUB) จัดงานเสวนาสาธารณะ “ถูกสาปให้พ่ายแพ้ในกระแสความเปลี่ยนแปลง: รายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ปี 2568” พร้อมเปิดเวทีชวนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และนักวิชาการ ร่วมหารือแนวทางขับเคลื่อนนโยบายสร้างสุขภาวะดีให้เด็ก เยาวชน และครอบครัวไทย

นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 4 สสส. กล่าวว่า เด็ก เยาวชน และครอบครัวไทย กำลังเผชิญความท้าทายจากบริบทที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว โดยโครงสร้างทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองไทย ยังคงมีความเหลื่อมล้ำสูง ส่งผลให้คนทุกกลุ่มโดยเฉพาะเด็กและครอบครัวไม่สามารถเข้าถึงนโยบายสาธารณะได้อย่างเป็นธรรม เช่น การเข้าไม่ถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ ไม่ได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ดิจิทัล ส่งผลให้ขาดทักษะสมัยใหม่ แหล่งเรียนรู้นอกบ้านมีจำนวนน้อยและตั้งอยู่ไกลบ้าน เป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ จากสถานการณ์ดังกล่าว สสส. จึงร่วมกับศูนย์คิด for คิดส์ เปิดรายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ปี 2568 เพื่อสะท้อนให้เห็นข้อจำกัดด้านการใช้ชีวิตของเด็กและครอบครัว ที่ถูกสาปให้ไม่สามารถพัฒนา ปรับตัวรับมือ และเติมเต็มความฝันได้ โดยอยากให้รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสนใจและนำรายงานฉบับนี้ไปกำหนดเป็นนโยบายสาธารณะด้านสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว เพื่อเพิ่มโอกาสการมีคุณภาพชีวิตที่ดี

น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวว่า รายงานสถานการณ์เด็กฯ ในปีนี้ พบชัดเจนว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำในกลุ่มเด็กและครอบครัวขยายวงกว้างกลายเป็นปัญหาขนาดใหญ่ มีความซับซ้อนสูง ยากที่บุคคลหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะแก้ไขได้โดยลำพัง โดยรายงานมีการเก็บข้อมูลจากกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 15-25 ปีทั่วประเทศ จำนวน 10,000 คน ผ่านการจัดทำแบบสอบถามและการเก็บข้อมูลภาคสนามเพื่อศึกษาเชิงลึก สำรวจข้อมูลตั้งแต่ความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงความเชื่อ การรับรู้ คุณค่าและทัศนคติ นำมาวิเคราะห์ประกอบกับประเด็นสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ถือเป็น ‘ขุมทรัพย์ข้อมูล’ สำคัญในการทำความเข้าใจกลุ่มเด็กและเยาวชน เพื่อการออกแบบนโยบายและโครงการให้เหมาะสม ทั้งนี้ สสส. และหน่วยงานพันธมิตรพร้อมเปิดข้อมูลดิบให้เป็น Open Data เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถนำข้อมูลไปศึกษาวิเคราะห์ได้ เข้าไปดาวน์โหลดรายงานสถานการณ์ฉบับสมบูรณ์ได้ที่ https://www.kidforkids.org

นายวรดร เลิศรัตน์ นักวิจัยและบริหารการวิจัย ศูนย์คิด for คิดส์ กล่าวว่า เด็กและเยาวชน กำลังเติบโตและพยายามเอื้อมคว้าความฝันในบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พลิกผันธรรมชาติของการดำเนินชีวิต การศึกษา การทำงาน รวมถึงความสัมพันธ์และอำนาจในสังคม การก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยที่รบกวนสมดุลของครอบครัว ตลาดแรงงาน สวัสดิการ และระบบการเมือง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เด็ก เยาวชน และครอบครัวไทยต้องเผชิญกับคำสาป 8 เรื่อง ที่สำคัญ 1.ภาวะครัวเรือนมีหนี้สินสูง ทำให้การสนับสนุนเด็กและเยาวชนเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพเป็นไปได้จำกัด ถ่วงรั้งการเติมเต็มความฝันและการเติบโต โดยผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ปี 2566 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบเด็กและเยาวชน 6.2 ล้านคน อยู่ในครอบครัวที่มีหนี้ ในจำนวนนี้ 3.6 แสน อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะเสมือนล้มละลาย
“2.เด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศรุนแรงและภัยพิบัติภาวะโลกรวน เสี่ยงที่ความเป็นอยู่จะไม่มั่นคงและสูญเสียศักยภาพการใช้ชีวิต รายงาน Over the Tipping Point report ปี 2566 โดยองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ระบุฝุ่น PM2.5 คือภัยสิ่งแวดล้อมที่เด็กเผชิญสูงสุด 13.6 ล้านคน 3.การเข้าถึงเทคโนโลยีมีความเหลื่อมล้ำ พบเด็กและเยาวชนในครอบครัวรายได้น้อย 62.1% ไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ในการเรียนรู้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ 4.เยาวชนและครอบครัวถูกจ้างงานในรูปแบบที่ไม่เป็นมาตรฐานเพิ่มขึ้น ไม่ได้รับสวัสดิการและความคุ้มครองอย่างเหมาะสมส่งผลต่อคุณภาพชีวิต 5.เด็กและเยาวชนถูกฉุดรั้งความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นทักษะแห่งอนาคต รวมถึงระบบนิเวศการเรียนรู้เข้าถึงยากและไม่ตอบโจทย์ ผลสำรวจพบเยาวชน 74.6% ไม่เคยไปพิพิธภัณฑ์ สาเหตุจากตั้งอยู่ไกลและเดินทางยาก 6.เยาวชนจำนวนมากพัวพันกับอบายมุขประเภทใหม่ โดยพบเด็กและเยาวชนเล่นการพนันออนไลน์ 32.3% สูบบุหรี่ไฟฟ้า 18.6% เคยทดลองสูบกัญชา 6.45% 7.เยาวชนกับครอบครัวขัดแย้งกันในชีวิตประจำวันและห่างเหินกันมากขึ้น 8.เยาวชนสูญเสียผู้แทนทางการเมือง และเชื่อมั่นในคุณค่าและสถาบันประชาธิปไตยเสรีลดลง” นายวรดร กล่าว

นายฉัตร คำแสง ผู้อำนวยการ 101 Public Policy Think Tank และหัวหน้า ศูนย์คิด for คิดส์ กล่าวว่า ศูนย์คิด for คิดส์ มีภารกิจสำคัญในฐานะแหล่งผลิตงานวิชาการ เพื่อยกระดับระบบนิเวศการพัฒนาเด็กให้ทุกคนได้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพบนเส้นทางที่พวกเขาเลือกเอง ซึ่งการทำนโยบายสาธารณะทุกเรื่อง ผู้เกี่ยวข้องต้องเข้าใจข้อจำกัดของคนและพื้นที่ มองเห็นเด็ก เยาวชน และครอบครัวอยู่ในสมการ และเปิดให้มีส่วนร่วมตลอดกระบวนการพัฒนานโยบาย ทั้งนี้ รายงานฉบับนี้ จะนำเสนอทางออกข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศการพัฒนาเด็ก ส่งเสริมทรัพยากรให้ครอบครัวพร้อมดูแลเด็ก ยกระดับการบริการสาธารณะให้ครอบคลุม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมือง และรับประกันสิทธิเด็กอย่างเป็นรูปธรรม
You must be logged in to post a comment Login