- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 3 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 3 months ago
- โลกธรรมPosted 3 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 3 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 4 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 4 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 4 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 4 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 4 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 4 months ago
Kick Off ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร สร้างบทบาทเชิงเศรษฐกิจ สู่กลไกขับเคลื่อนระบบสุขภาพไทย ยกระดับสมุนไพรสู่เวทีโลก

กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตลาดไท ร่วมลงนามความเข้าใจเปิด “ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” ยกระดับให้เป็นมากกว่าแหล่งซื้อขายวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพ สู่เวทีเชื่อมโยงห่วงโซ่สมุนไพรอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อร่วมสร้างนวัตกรรมและยกระดับสมุนไพรไทยสู่มาตรฐานสากล โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถผลักดันสร้างมูลค่าสมุนไพรในตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพรได้มากกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงนโยบายในเรื่องการส่งเสริมสมุนไพรว่า “กระทรวงสาธารณสุขมุ่งมั่นผลักดันการใช้สมุนไพรควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบันอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มทางเลือกในการดูแลสุขภาพของประชาชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดตั้ง “ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร”ที่จะไม่เพียงเป็นแหล่งซื้อขายวัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพ แต่เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานสมุนไพรอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร แพทย์แผนไทย ผู้ประกอบการ ผู้แปรรูป และนักวิจัย เพื่อร่วมกันสร้างนวัตกรรมและยกระดับสมุนไพรไทยสู่มาตรฐานสากล
ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซ์เชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) ได้ร่วมกันดำเนินโครงการตลาดสมุนไพรสด และเครื่องเทศสดปลอดภัย บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร เพื่อช่วยเกษตรกรให้มีพื้นที่จำหน่ายสมุนไพร และช่วยกระจายสินค้าสมุนไพรสดที่มีมาตรฐานปลอดภัย ทำให้ในปัจจุบันมีปริมาณสินค้าสมุนไพรสด และเครื่่องเทศสดเข้าสู่ตลาดไทมากถึง 210,366 ตัน คิดมูลค่ามากกว่า 2,300 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าตลาดกลางสมุนไพรไทย ที่เกิดขึ้นนี้จะผลักดันให้มีมูลค่าสมุนไพรในตลาดกลางมากกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี นโยบายของกระทรวง ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นให้การแพทย์แผน ไทยเป็นทางเลือกหลักในการดูแลสุขภาพของประชาชนแต่ยังคงผลักดันให้สมุนไพรไทยมีบทบาทในเชิงเศรษฐกิจควบคู่ไปกับบทบาทด้านสุขภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน

ด้านคุณอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้รายละเอียดในเรื่องการสร้างช่องทางการตลาดที่เป็นศูนย์กลางสำหรับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรว่า “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายเกี่ยวกับสินค้าเกษตรที่ครอบคลุมหลายมิติ โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร สร้างความมั่นคงทางอาหาร และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก โดยเฉพาะจัดตั้งศูนย์กลางและพัฒนาระบบตลาดสินค้าเกษตร ซึ่งสอดรับกับการเปิดตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพรในวันนี้ จะเป็นช่องทางสำคัญในการจำหน่ายผลผลิตตรงถึงผู้บริโภคหรือผู้ประกอบการ อีกทั้งยังได้พัฒนาความร่วมมือกับภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และทูตเกษตรเพื่อขยายตลาดเดิมและเพิ่มตลาดใหม่ๆ เน้นการพัฒนาแบบองค์รวม ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สินค้าเกษตรมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน”
นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า “จากข้อมูลปัจจุบัน พบว่า เกษตรกรจำนวนมากหันมาสนใจปลูกพืชสมุนไพรกันมากขึ้น โดยในปี 2567 มีพื้นที่ปลูกสมุนไพรกว่า 1,233,240 ไร่ และเกษตรกรประมาณ 526,422 ราย และมีพื้นที่ปลูกสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน GAP และเกษตรอินทรีย์ รวมจำนวน 84,792 ไร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีพื้นที่ปลูก 1,151,494 ไร่ และเกษตรกร ประมาณ 369,351 ราย และมีพื้นที่ปลูกสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน GAP และเกษตรอินทรีย์ รวมจำนวน 64,225 ไร่

การเปิดตลาดในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการเพิ่มกลุ่มผู้ขายวัตถุดิบสมุนไพรรายใหม่ เพิ่มความหลากหลายของสินค้าสมุนไพร และขยายตลาดกลุ่มผู้ซื้อให้มากยิ่งขึ้น และจะเป็นตลาดกลางสินค้าการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่ 542 ไร่ ที่สำคัญตลาดกลางแห่งนี้จะไม่เพียงเป็นศูนย์กลางของการซื้อขาย แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพไทยผ่านการใช้วัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพ ตลอดจนเป็นเวทีในการผลักดันสมุนไพรไทยสู่มาตรฐานสากลและสามารถสร้างเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้”


You must be logged in to post a comment Login