วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567

สร้างศีล สมาธิ ปัญญาให้เด็ก

On January 11, 2024

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม         

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 11 ม.ค.  67)

อีกไม่กี่วันแล้วก็จะถึงวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2567 เด็กนี่ถ้าเรามองไม่ให้สำคัญเราก็เหมือนกับไม่สร้างสรรค์ความสำคัญให้เด็กเป็นผู้ทำหน้าที่สืบทอดจากพวกเรา โดยเฉพาะวัดสวนแก้วคิดว่า คนรุ่นผู้ใหญ่ คนแก่ คนเฒ่า สืบทอดศาสนาเนี่ยก็ไปได้ยุคหนึ่ง สมัยหนึ่ง ช่วงอายุของท่านผู้ที่มีความชราลงไป เรี่ยวแรงที่จะทำนุบำรุงค้ำจุนพระศาสนาต้องหมด ถ้าไม่สืบทอดด้วยการดึงเด็กเข้าวัด และอะไรจะดีเท่ากับมีของล่อให้เด็กเข้าวัด คงจะเป็นเรื่องถนน ตุ๊กตา ของเล่นอะไรต่างๆ แต่นั่นเป็นการให้แต่วัตถุ

แต่ที่ให้จิตวิญญาณในความเป็นศาสนิกที่ดีต่อไปควรมีกิจกรรมที่ทำให้เด็กเกิดสำนึกดีเกี่ยวกับเรื่องศาสนายังไงบ้าง ที่วัดจะเริ่มต้นด้วยการเด็กคิดทำประโยชน์กับวัด เราจะสั่งไม่ให้ใครกวาดวัดวันหนึ่งก่อนที่จะถึงวันเด็ก เรียกว่า ไม่กวาดเลย ปล่อยให้รกดูซิว่า จะสะดุดตาเด็กมั้ย เด็กอยากจะคิดจะทำให้วัดสะอาดมั้ย เราจะมีคนแอบดู ซึ่งคนแอบดูก็จะถ่ายรูปเด็กคนนี้มาถึงหยิบไม้กวาดเป็นคนแรก กวาดวัดเป็นคนแรกก็จะมีรางวัลให้เป็นสตางค์บ้าง ขนมบ้าง ของเล่นบ้าง

เพราะเป็นเด็กที่มีจิตสำนึกรักษาพระศาสนาได้แน่นอน เพราะอยากให้วัดสะอาด แล้วเขาเข้ามาแล้วมานั่งสมาธิก่อนคนอื่น เราก็จะจัดอีกระบบหนึ่ง ถ้าเด็กเข้ามาแล้วทำให้เกิดบรรยากาศ ไม่เล่นโวยวาย สนุกสนามหยอกเล่นแบบคึกครื้น เราก็จะให้รางวัลเด็กในฐานะทำให้วัดสงบ ถ้าทำให้วัดสงบได้เราก็ต้องให้เขา และต่อจากนั้นจะทายปัญหาเรื่องสติปัญญาของเด็กที่ควรจะรู้เรื่องอะไรบ้าง เรื่องศีล สมาธิ ปัญญานี่ เขาจะรู้ได้ยังไงบ้าง ถ้าเขารู้ได้ เขาปฏิบัติดีได้ เราจะมีรางวัลให้อีก

นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันกันทำประโยชน์ให้วัดเรื่อยๆ เช่น ถอนหญ้าให้วัด ทำความสะอาดเป็นหลักใหญ่เลย ถ้าเขาคิดไม่อยากให้วัดรก ไม่อยากให้วัดสกปรก ความคิดอย่างนี้เป็นความคิดต่อยอดสร้างสรรค์ งานพระศาสนาจะสืบต่อได้แน่นอน แต่ถ้าเด็กมาแล้วไม่เอาเลย เล่นอย่างเดียว กินอย่างเดียว อันนี้เป็นเรื่องที่จัดแบบสาระน้อย ถ้าจัดให้แบบมีสาระจะต้องหาอะไรต่างๆ เช่น เรามีการถือแก้วน้ำไม่ให้น้ำกระฉอก เดินไป เดินมา 2 เที่ยว ถ้าน้ำไม่กระฉอกเลย แสดงว่า เขาประคองจิต ประคองแก้วน้ำได้อย่างถูกวิธี

อันนี้ เขาเรียกว่า กิจกรรมสร้างศีล สมาธิ ปัญญาให้เด็ก แล้วเด็กจะสืบต่อเรื่องศีล สมาธิ ปัญญาได้แบบชนิดที่เป็นเนื้อ เป็นหนัง เป็นชิ้น เป็นอัน เป็นก้อน เป็นแผ่นที่จะจับต้องได้ในโอกาสต่อไป เพราะฉะนั้นเรื่องการจัดกิจกรรมไม่ใช่พาเด็กไปดูเรือรบ ไปดูรถถังอย่างเดียว จัดกิจกรรมแบบนั้นก็จัดไปเถอะก็ดีๆกว่าไม่จัด แต่ถ้าเรามาสำรวจประโยชน์ที่จะเกิดอันนั้นมันจะมากกว่ากัน ก็ต้องมีนักคิด นักกิจกรรม ที่วัดนี่พยายามที่สุดเลยมาหลายปีแล้ว ปีหนึ่งต้องเสียเงินเรื่องให้เด็กนี่เป็นแสน

แล้วก็โชคดีที่ได้รับการอุปถัมภ์จากตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ไปขอซื้อเขาเพื่อนำมาเลี้ยงเด็ก ซื้อพุทรา ชมพู่ ซื้ออะไรต่างๆที่เด็กชอบกิน ชอบทาน มะขามเทศ มันอะไรต่างๆมาใส่ถุงแพคอะไรต่างๆให้เด็กเอากลับบ้านเป็นหอบๆเลย บางปีมีเด็กบางคนเขาเรียกว่า นักล่ารางวัล มีรางวัลแข่งขันตรงไหนไปล่าหมด ล่าจนกระทั่งหอบกลับบ้านเป็นกอบเป็นกำ เรียกว่า พ่อแม่ไม่ต้องจ่ายค่าขนมนมเนยเป็นวันสองวันเลย อันนี้วัดสวนแก้ว เรียกว่า ดึงเด็กเข้าวัดได้ในวันเด็กไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

ดังนั้น ใครได้อ่านคอลัมน์นี้แล้ว โดยเฉพาะอยากจะฝากถึงเด็กที่เป็นลูกกรรมกร ไม่ใช่ลูกเศรษฐีมีเงินเขาก็พาไปโน้น ไปนี่ได้ แต่ลูกกรรมกรนี่ ทุนน้อย เงินน้อย จะพาเป็นเที่ยวไกลๆคงจะไม่มีทรัพย์พาไปได้ อยากจะฝากว่า วัดสวนแก้วยังเป็นความหวังแหล่งหนึ่งของเด็กๆลูกกรรมกร เรียกว่า เราเป็นวัดพยุงรากหญ้าให้เด็กเบิกบาน ชื่นบานในสังคมได้ในระดับหนึ่ง อยากจะฝากบอกว่า ญาติโยมที่ชอบเด็ก รักเด็ก และมีความปรารถนาดีต่อเด็ก ก็อย่าลืมเอาไอศรีมมาสักถังครึ่งถัง เอาของอะไรต่างๆที่เด็กชอบๆ ขนมนมเนยม รวมตัวกันมาเป็นของล่อใจให้เด็กเข้าวัด

ต่อไปนี้ วัดสวนแก้วอาจจะเป็นสถานตรึงใจเขาได้ตลอดไปว่า ถึงวันเด็ก ผ่านปีสองปีเขายังไม่โตหรือเขาโต เขาจะนำเด็กลูกหลานของเขามาวันเด็กที่วันสวนแก้ว นี่เป็นจุดขายชนิดหนึ่งที่จะทำให้วัดมีคุณูปการต่อเด็ก หรือเด็กจะมีคุณูปการต่อวัดในโอกาสภายภาคหน้าต่อไป จึงอยากจะฝากบอกญาติโยมว่า มาร่วมกิจกรรมหรือนำสิ่งของมาสนับสนุนกิจกรรมวันเด็ก ขอฝากไว้ด้วยนะ ช่วยกันๆ ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อประโยชน์กับลูกหลานท่านเอง

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login