- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 days ago
- บทเรียนพระสายมูPosted 3 days ago
- ไม่ตายก็คางเหลืองPosted 4 days ago
- ช่วยกันเป็นฮีโร่Posted 5 days ago
- อย่าอ่อนแอแพ้ต่อกิเลสPosted 6 days ago
- พระรัตนตรัยดีที่ 1Posted 1 week ago
- ประเทศต้องเดินหน้าได้Posted 1 week ago
- เด็กไทยต้องทำชีวิตก้าวหน้าPosted 2 weeks ago
- ยุคทะเลเดือดPosted 2 weeks ago
- รวยลัดเป็นเปลวนรกPosted 2 weeks ago
กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิไทยจัดพิธีมอบรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2566
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับมูลนิธิไทยจัดพิธีมอบรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2566 (Thailand’s Public Diplomacy Award 2023) ให้แก่นางสาวโมรียา จุฑานุกาล (โปรโม) และนางสาวเอรียา จุฑานุกาล (โปรเม) ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนายศรัณย์ สุวรรณเจริญ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดงานและกล่าวต้อนรับ และนายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานกรรมการมูลนิธิไทย เป็นผู้มอบรางวัล พร้อมด้วยคณะทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทย ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน เข้าร่วมกว่า 200 คน
นายธฤต จรุงวัฒน์ เลขาธิการมูลนิธิไทย กล่าววว่า ““รางวัลการทูตสาธารณะ” เป็นรางวัลที่กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิไทยตั้งขึ้นเมื่อปี 2565 เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร ทั้งสัญชาติไทยหรือต่างประเทศ ที่ได้สร้างชื่อเสียงแก่คนไทย ประเทศไทย และความเป็นไทย ในหมู่ชาวต่างประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งเพื่อสนับสนุนให้ผู้ได้รับรางวัลดำเนินกิจกรรมของตนต่อไป และเป็นแบบอย่างให้สาธารณชนได้เห็นว่า บุคคลทั่วไปหรือองค์กรใด ๆ ก็สามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานการทูตสาธารณะของไทยได้ ทั้งนี้ “การทูตสาธารณะ” หมายถึง การทูตภาคประชาชน ซึ่งเน้นการส่งเสริมความเข้าใจอันดีในระดับประชาชน เพื่อนำไปสู่มิตรภาพและความร่วมมืออันดี”
ผู้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ทั้งคู่เป็นนักกอล์ฟหญิงอาชีพชาวไทย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใน LPGA Tour โดยโปรโมและโปรเมเริ่มแข่งขันกอล์ฟอาชีพ เมื่อปี 2555 และ ปี 2557ตามลำดับ และทั้งคู่ได้ร่วมกันคว้าแชมป์ระดับ LPGA Tour หลายรายการ และได้ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยความสำเร็จดังกล่าวยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยหันมาสนใจกีฬากอล์ฟเป็นจำนวนมากจนหลายคนประสบความสำเร็จในระดับโลกและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยตามมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น ทั้งสองคนยังช่วยเผยแพร่ความเป็นไทยไม่ว่าจะเป็นการไหว้ รอยยิ้มและความมีน้ำใจ อีกทั้งยังได้ตอบแทนสังคมผ่านการจัดตั้งมูลนิธิโมรียาและเอรียา เพื่อช่วยเหลือเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งมีบทบาทในการส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ผู้ที่ได้รับรางวัลการทูตสาธารณะจะได้รับถ้วยรางวัลที่มีชื่อว่า “Goodwill” หรือ “ความปรารถนาดี” พร้อมประกาศนียบัตรและเงินรางวัลจำนวน 300,000 บาท เพื่อเป็นทุนทรัพย์ในการสานต่อภารกิจต่อไป และจะได้รับการสลักชื่อบนถ้วยรางวัลใหญ่และกำแพงเกียรติยศที่จะจัดแสดงเป็นการถาวรไว้ที่กระทรวงการต่างประเทศด้วย
อนึ่ง ในปี 2564 นายแพทย์ สุนทร อันตรเสน เป็นผู้ได้รับรางวัลการทูตสาธารณะคนแรก โดยมีผลงานโดดเด่นในการจัดตั้งและดำเนินโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เดินทางไปให้บริการตรวจรักษาและผ่าตัดโรคหูน้ำหนวกให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นพื้นที่ห่างไกลในประเทศต่าง ๆ ตลอดระยะเวลามากกว่า 30 ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ
มูลนิธิไทยเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2550เพื่อดำเนินงานด้านการทูตสาธารณะ ผ่านการส่งเสริมความร่วมมือและไมตรีจิตระหว่างชาวไทยและนานาประเทศ โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thailandfoundation.or.th/
You must be logged in to post a comment Login