วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567

กุรอานคือหลักฐานยืนยันว่ามุฮัมมัดเป็นนบี

On November 3, 2023

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  3 พ.ย.  66 )

หลายคนศึกษาอิสลามและชีวประวัติของนบีมุฮัมมัดแล้วเกิดความสงสัยว่า  “ทำไมพระเจ้าเลือกนบีมุฮัมมัดผู้ไม่รู้หนังสือเป็นผู้รับคัมภีร์กุรอานที่เป็นวรรณกรรมอันสูงส่ง มหัศจรรย์และเป็นอมตะ?”

คำตอบคือ คัมภีร์ที่พระเจ้าประทานมาเป็นแนวทางดำเนินชีวิตแก่มนุษย์ผ่านทางนบีต่างๆก่อนหน้านี้ เช่น โมเสส  ดาวิดและเยซัสไครสต์ไม่มีฉบับใดหลงเหลืออยู่ในสภาพดั้งเดิมแล้ว  หากมนุษย์ไม่มีแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องหรือใช้ชีวิตอย่างผิดๆ  มนุษย์ก็จะได้รับความเสียหาย

การที่พระเจ้าเลือกนบีมุฮัมมัดก็เพราะเหตุผลสำคัญบางอย่าง กล่าวคือ ชาวอาหรับในมักก๊ะฮฺต่างรู้ดีว่านบีมุฮัมมัดไม่เคยโกหกและชาวอาหรับเองที่ขนานนามนบีมุฮัมมัดมาตั้งแต่ก่อนเป็นนบีว่า “อัลอะมีน” ซึ่งหมายถึง “ผู้ซื่อสัตย์ไว้วางใจได้”  ในเวลานั้น  ใครกล่าวหานบีมุฮัมมัดว่าเป็นคนโกหกก็จะถูกผู้คนตำหนิทันทีว่าเป็นคนโกหก  การเลือกท่านเป็นผู้รับวจนะของพระเจ้าก็เพื่อจะได้ไม่มีใครอ้างว่าท่านโกหกเมื่อท่านนำวจนะของพระองค์มาอ่านหรือสั่งสอน

นอกจากนี้แล้ว  นบีมุฮัมมัดยังถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์กุรอานด้วยว่าเป็นผู้ไม่รู้หนังสือและถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์ที่ชาวยิวและชาวคริสเตียนถืออยู่  คัมภีร์กุรอานกล่าวถึงนบีผู้นี้ว่า “…เขาทำให้คนเหล่านั้นหลุดพ้นจากภาระหนักและปลดปล่อยพวกเขาจากโซ่ตรวนที่พันธนาการคนเหล่านั้นอยู่…” ดังนั้น ทั้งชาวยิวและชาวคริสเตียนจึงรอคอยผู้ที่จะมาปลดปล่อยพวกเขา  นี่คือเหตุผลว่าทำไมวะรอเก๊าะฮฺผู้ทรงความรู้ในคัมภีร์ก่อนๆและเป็นญาติของนางเคาะดีญะฮฺจึงยืนยันว่านบีมุฮัมมัดคือผู้ที่ถูกกล่าวไว้คัมภีร์เก่าที่เขาศึกษามา

อย่างไรก็ตาม   ด้วยความทะนงในเชื้อชาติและความรู้ของตัวเองว่าสูงส่งกว่าชนชาติอื่น  ชาวยิวจึงถือว่าผู้ที่จะปลดปล่อยพวกเขาต้องอยู่ในเชื้อสายของลูกหลานอิสราเอลเท่านั้น  ด้วยเหตุนี้  เมื่อนบีมุฮัมมัดประกาศตัวเป็นนบีผู้นำคัมภีร์กุรอานมาสั่งสอน  ชาวยิวจึงไม่ยอมรับท่านเพราะชาวยิวถือว่าชาวอาหรับเป็นคนล้าหลังและบรรพบุรุษของนบีมุฮัมมัดไม่เคยมีใครเป็นนบีหรือได้รับคัมภีร์มาก่อน  ความอคตินี้เองที่ทำให้ชาวยิวลืมไปว่าอิสมาอีลต้นกำเนิดเชื้อสายของนบีมุฮัมมัดและอิสรออีลหรือนบียะกู๊บผู้เป็นต้นกำเนิดเชื้อสายลูกหลานอิสราเอลนั้นล้วนเป็นลูกและหลานของนบีอิบรอฮีมด้วยกันทั้งสิ้น

ด้วยความอคติทางเชื้อชาติและทะนงในความรู้  ชาวยิวจึงหาทางทำลายความน่าเชื่อถือของนบีมุฮัมมัดต่อหน้าสาธารณชน  ครั้งหนึ่ง  ก่อนหน้านบีมุฮัมมัดจะอพยพออกจากมักก๊ะฮฺ  ชาวยิวที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองมักก๊ะฮฺได้ให้ชาวอาหรับคนหนึ่งไปถามนบีมุฮัมมัดว่ารู้เรื่องเกี่ยวกับการอพยพของครอบครัวอิสราเอลจากแผ่นดินกันอานหรือปาเลสไตน์ไปยังอียิปต์หรือไม่

การอพยพของยาโกบหรืออิสราเอลและครอบครัวเกิดขึ้นเมื่อประมาณพันกว่าปีก่อนหน้าสมัยนบีมุฮัมมัด  ชาวยิวรู้เรื่องนี้ดีเพราะมีกล่าวไว้ในคัมภีร์ของพวกตน  แต่ชาวอาหรับไม่รู้  ยิ่งนบีมุฮัมมัดด้วยแล้ว อย่าว่าแต่ภาษาฮิบรูในคัมภีร์ของชาวยิวเลย  แม้แต่ภาษาอาหรับ ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่คัมภีร์กรอานกล่าวว่าเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ  ชาวยิวจึงหวังว่าถ้านบีมุฮัมมัดตอบว่าไม่รู้  พวกเขาจะได้เย้ยหยันมุฮัมมัดว่ามาอ้างตัวเป็นนบีได้อย่างไรในเมื่อไม่รู้เรื่องที่ชาวยิวทั่วไปต่างรู้ดี

ด้วยเหตุนี้  พระเจ้าจึงได้ประทานเรื่องราวการอพยพของพวกลูกหลานอิสราเอลให้แก่นบีมุฮัมมัดไปอ่านให้ชาวยิวฟังซึ่งมีผลหลายประการในการปฏิบัติภารกิจของนบีมุฮัมมัด   เพราะสิ่งที่ท่านอ่านนั้นเป็นหลักฐานว่าท่านได้รับความรู้ในอดีตจากพระเจ้า  กระนั้นก็ตาม ด้วยความอคติและความทะนง  ชาวยิวคนนั้นก็ไม่ยอมรับว่าท่านเป็นนบี

นอกจากนี้แล้ว  เรื่องของยาโกบกับลูกชายสิบสองคนยังเป็นการเหน็บแนมพวกลูกหลานอิสราเอลที่คิดชั่ววางแผนฆ่าโยเซฟน้องชายของตนและผิดสัญญากับยาโกบบิดาของตนก่อนตายว่าจะดำเนินตามชีวิตตามแนวทางของอับราฮัม

ขณะเดียวกัน  เรื่องราวของครอบครัวยาโกบนี้เองที่ส่งสัญญาณเตือนนบีมุฮัมมัดว่าขณะนี้พวกหัวหน้าชาวอาหรับกำลังวางแผนสังหารท่านเหมือนกับพวกลูกๆของยาโกบที่วางแผนสังหารโยเซฟ  ดังนั้น  ถึงเวลาแล้วที่ท่านต้องอพยพออกจากเมืองมักก๊ะฮฺ


You must be logged in to post a comment Login