วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

เหตุผลที่ต้องมีศรัทธา

On January 6, 2023

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่   6 ม.ค. 66 )

รถยนต์ทั่วไปในปัจจุบันมีสมรรถนะทำความเร็วได้ถึง 220 ก.ม.ต่อชั่วโมง  คนขับรถยนต์มีความสามารถและมีเสรีภาพที่จะขับรถยนต์อย่างไรก็ได้  แต่ไม่มีใครสักคนกล้าขับด้วยความเร็วขนาดนั้น เพราะมีกฎหมายจำกัดความเร็ว  ทั้งนี้เนื่องจากกฎหมายของทุกประเทศต้องการรักษาชีวิตของคนขับ ผู้โดยสารและคนอื่นๆที่ใช้ถนนร่วมกัน

ถึงแม้ไม่มีกฎหมายจำกัดความเร็ว  แต่ก็ไม่มีใครกล้าขับด้วยความเร็วขนาดนั้น  เพราะคนเรารักชีวิตตัวเอง  ยิ่งถ้ามีภรรยาและลูกๆนั่งไปด้วย ยิ่งต้องจำกัดความเร็วเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว  มิเช่นนั้นคงถูกเมียดึงหูถามว่ารีบไปงานศพพ่อหรือไง กลับมาบ้านแล้วยังต้องมานั่งฟังเสียงบ่นแทนเสียงเครื่องยนต์ตลอดทั้งคืนอีก

แม้การปฏิบัติตามกฎหมายและการปฏิบัติตามสำนึกแห่งความรักชีวิตของตัวเองและครอบครัวจะนำมาซึ่งผลดีแก่ตัวเองและส่วนรวม  แต่การปฏิบัติตามสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกัน  การปฏิบัติตามกฎหมายมิได้เกิดจากความเต็มใจ แต่ทำไปเพราะถูกบังคับ  หลายคนจึงละเมิดกฎหมายเมื่อเห็นว่าไม่มีเจ้าหน้าที่กฎหมายเฝ้าจับตามอง  แต่การทำตามจิตสำนึกนั้นทำไปโดยไม่มีกฎหมายคอยควบคุม

สังคมใดที่มีกฎหมายมากมายหลายฉบับแสดงว่าผู้คนในสังคมนั้นขาดความสำนึกในระเบียบวินัย เปรียบเหมือนฝูงควายที่ต้องใช้ไม้ตีเพื่อต้อนให้เข้าคอกหรือไม่แตกฝูง

หลายประเทศมีกฎหมาย  แต่ขาดสำนึกในการปฏิบัติตามกฎหมาย  ด้วยเหตุนี้ เมื่อผู้รักษากฎหมายย่อหย่อนในการบังคับใช้กฎหมาย  ผู้คนในสังคมก็มักจะละเมิดกฎหมาย

กฎของศาสนาก็ไม่ต่างไปจากกฎหมาย ความจริงแล้ว ก่อนที่โลกนี้จะมีรัฐบาลและรัฐสภาทำหน้าที่ออกกฎหมายควบคุมและจัดระเบียบสังคม  มนุษย์เคยใช้คำสอนของศาสนาในการจัดระเบียบตัวเอง ครอบครัวและสังคมมาก่อน และในกฎของศาสนามีการควบคุมมนุษย์สองทาง นั่นคือ การควบคุมด้านจิตวิญญาณด้วยความศรัทธาและควบคุมพฤติกรรมด้วยบทลงโทษหากล่วงละเมิดขอบเขต

นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมอิสลามจึงเน้นให้มนุษย์ดำเนินชีวิตด้วยความศรัทธาในพระเจ้า  ในทางปฏิบัติหมายความว่า สิ่งใดที่พระเจ้าสั่ง  จงทำตาม  สิ่งใดที่พระเจ้าห้าม จงละเว้น    ความศรัทธาเช่นนี้จะแปลงการงานในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นผลบุญ  เพราะพระเจ้าเป็นผู้ทรงยุติธรรม  พระองค์จะทรงตอบแทนการงานที่มนุษย์ทำตามคำบัญชาของพระองค์

แต่ความศรัทธามีขึ้นมีลง  ดังนั้น เพื่อรักษาระดับความศรัทธาไว้ให้มั่นคงสม่ำเสมอ  มุสลิมจึงถูกกำหนดให้ละหมาดวันละห้าครั้งเพื่อเตือนตัวเองให้ระลึกถึงพระเจ้า และถือศีลอดในเดือนรอมฎอนเพื่อฝึกการหักห้ามใจตัวเองมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุข

การทำกิจกรรมหรือการงานใดๆเพื่อผลประโยชน์ทางโลก  ผู้ทำย่อมได้ผลตอบแทนทางโลกตามเจตนา  แต่ถ้าใครทำการงานเดียวกันนั้นด้วยความสำนึกว่าพระเจ้าสั่งให้ทำ   คนที่ทำการงานนั้นจะได้รับผลบุญตั้งเริ่มลงมือทำและผลตอบแทนทางโลกที่จะติดตามมา เพราะการงานนั้นทำมาจากความศรัทธา

เช่นเดียวกัน  การงดเว้นจากสิ่งมึนเมาเพราะไม่มีเงินหามาเสพ หรืองดเว้นเพราะกฎหมายห้ามหรือกลัวการประณามจากสังคมรอบข้างเป็นแค่เพียงการห่างจากบาปชั่วคราวเพราะจำเป็น  แต่หากการงดเว้นจากอบายมุขด้วยความสำนึกว่าพระเจ้าเฝ้ามองดูอยู่และเกรงกลัวพระองค์  การงดเว้นนั้นจะได้รับผลบุญเป็นรางวัลตอบแทนจากการทำตามคำบัญชาของพระองค์

ความศรัทธาในพระเจ้าจึงมิใช่เรื่องงมงายไร้เหตุผลและไม่ทำให้ผู้ศรัทธาขาดทุนแต่ประการใด


You must be logged in to post a comment Login