วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

ตำรวจต้องเร่งท่าทีใหม่

On October 24, 2022

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 24 ต.ค.  65)

เมื่อรัฐบาลประกาศว่า จะเอาจริง คุมเข้มอาวุธปืน ในที่สุดเราคงเห็นข่าวลูกเขยฆ่าพ่อตาและน้องเมียอย่างชนิดที่ไม่ได้เหลือความสะทกสะท้านเกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองที่ว่า ประกาศทำสงคราม ทำอะไรก็ตาม พวกนี้ไม่ได้คร้ามเกรงเลย แล้วยังมีการให้สัมภาษณ์ว่า จะมาตามเก็บญาติที่เหลืออีก ขู่เมีย ขู่สารพัด จนกระทั่งมันมาถึงจุดหนึ่งที่เรียกกันว่า ความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ เมื่อเขามาแจ้งว่า มันขู่อย่างนั้น อย่างนี้ ก็ไม่ได้ตามมาป้องกันอะไรเลย

ไม่ได้ติดตามตัวคนร้ายที่มาขู่ว่า จะฆ่ายกครัว ที่จริงถ้าขู่อย่างนี้แล้วเนี่ย มันต้องมีการส่งคนประกบติดตาม ไอ้นี่ออกไปไหน ไปทำไม ไปทำอะไร จะได้ต้องแบบไม่ให้คลาดสายตา เวลามาทำอะไรจะได้สกัดกั้น มิฉะนั้น จะกลายเป็นเรื่องเปิดช่องให้ผู้ร้ายได้ช่องก่ออาชญกรรมจนในที่สุดเราก็ต้องมาสูญเสียคนดีๆไป ที่จริงแล้ว แม่ยายที่รู้ว่า ลูกเขตจะมาอย่างนี้ก็เสียดายไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาดัก มาดู ถ้าตำรวจเอาใจใส่นิดหนึ่งเชื่อว่า อาจจะไม่ต้องเสียเลยซักศพเดียว

เขาอาจจะเป็นศพโดยไม่ต้องเสียเวลาจับ ไม่ต้องเสียข้าวสุก ข้าวสารอะไรในคุกอีก อันนี้มันเป็นสิ่งที่ต้องบอกกันว่า เราถ้ายังไม่มีพื้นฐานในการเข้มจริงๆหรือไม่ได้เข้มแต่นโยบายประกาศพูดบอก แต่แล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นบทพิสูจน์ว่า ทำได้สำเร็จ ทำได้จริง นอกจากบอกว่า จะเอาจริง จะทำสงคราม คำว่า ถอดรหัส ถอดบทเรียนก็ไม่รู้กี่ถอดแล้วก็ยังทำกันอยู่ โดยเฉพาะงานนี้พ่อตาก็ร้องไห้เป็นวรรค เป็นเวร แต่ว่า ได้แต่ร้องไห้ ไม่คิดแก้ไขป้องกัน มันก็ลำบาก

ที่จริง พอรู้ว่า มันจะมาก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจระวัง มีอะไรที่สามารถยับยั้งมันได้บ้าง นี่ปล่อยให้มันเก็บไปอย่างลอยนวล ยังมีอาการบอกว่า ถ้าเจอตำรวจ ถ้ารู้ว่าเป็นตำรวจก็จะสู้ แต่เผอิญไปเจอดาบตำรวจที่ไม่ได้ใส่เครื่องแบบ เลยไม่รู้ เลยล็อกจับตัวได้ เนี่ยมันเป็นเรื่องที่น่าอเนจอนาถใจ แล้วยังไปดักที่ศาลาวัดเพื่อจะดูว่า ญาติของเมียใครจะมาอีกก็จะยิงอีก มันอำมหิตโหดร้ายอย่างนี้ ใครทำใครก่อน เรามักจะให้ผู้ร้ายทำก่อน

ถ้าตำรวจทำก่อนหลายๆครั้งเข้า มันก็ไม่มีใครกล้าที่จะอยากจะทำ ก็หวังว่า อีกไม่นานคงจะได้ถึงขั้นตามที่ผู้ใหญ่ ตำรวจใหญ่คนหนึ่ง บอกว่า ต่อแต่นี้จะต้องเอาผิดตำรวจ ถ้าเขามาบอกเหตุแล้วไม่หาทางป้องกันเลย อันนี้น่าจะถึงเวลาแล้วล่ะ คำโบราณบอกว่า “กันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วมันแก้ไม่ทัน” ไป 2 ศพแล้ว มาแก้ทีหลังมันก็ไม่ทัน ถึงจับได้ก็สายเสียแล้ว หวังว่า ไม่ทำให้คำว่า สายเสียแล้ว ไปซะแล้ว ตายซะแล้ว มาเก็บศพ มาตอนเห็นศพแล้วไม่ได้เห็นคนร้าย กว่าจะเห็นเขาก็หนีไปไกล

ก็หวังว่า ต่อแต่นี้ไปน่าจะได้เกิดมาจากการกันๆไว้ดีกว่าแก้ เอาจำนวนคนเท่าไร ถ้ากันอยู่ได้รายสองรายมันจะเป็นต้นแบบ ตัวอย่างที่รายอื่นๆจะต้องทำบ้าง โรงพักนี้ทำได้ โรงพักโน้นทำได้ สถานีตำรวจนั้น ตำรวจโน้นได้ทุกที ไม่ใช่บอกแล้วก็เฉย ไอ้คำว่า บอกแล้วเฉย ตำรวจต้องเริ่มปรับปรุงได้แล้ว ไม่งั้นก็จะเป็นจ่าเฉยที่เขาปั้นรูปไว้ตามจราจร จ่าเฉยเป็นรูปปั้นเพื่อหลอก แต่นี่อยู่เฉยๆแต่กินเงินเดือนนี่ซิ มันเจ็บปวดน่ะ ขอฝากบอกว่า รีบเร่งท่าทีซะใหม่

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login