วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

เครือข่ายวิชาชีพแพทย์ ยื่นหนังสือร้องพฤติกรรม “ส.ส. เอกภพ”

On September 16, 2022

17 เครือข่ายวิชาชีพแพทย์ เข้ายื่นหนังสือถึง ปธ.คกก.จริยธรรม ปธ.กมธ.สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ร้องพฤติกรรม ส.ส. เอกภพ ส่อขัดจริยธรรม ผิดกม. หลายข้อ โพสต์ข้อมูลเท็จ หมิ่นประมาท เสียดสี หนุนทำผิดกม.ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งข้อสงสัย เป็นหมอควรรู้หลักพื้นฐานระบาดทางการแพทย์ อันตรายบุหรี่ทุกชนิด แต่กลับหนุนกลุ่มอุตสาหกรรมยาสูบ มากกว่าปกป้องสุขภาพประชาชน

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2565 ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ประธานเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ พร้อมด้วยตัวแทน 17 เครือข่ายวิชาชีพแพทย์ร่วม 10 คน ได้ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการจริยธรรม และประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ร้องเรียน นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.เชียงราย มีพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ให้ข้อมูลสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า โจมตีการทำงานของนักวิชาการและเครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบ มีความผิดหลายข้อกฎหมาย 1.ผิดข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 มาตรา 4, 12 

2.ผิดมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 8, 15, 16 ซึ่งใช้บังคับส.ส. ด้วยตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 219 และประพฤติตนขัดต่อประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2564  ข้อ 10 (5) และ (9)

ศ.นพ.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า ส.ส.เอกภพ มีพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรมชัดเจนคือ 1.ให้ข้อมูลบิดเบือน เกินจริง เป็นเท็จ เช่น การให้สถิติคนใช้บุหรี่ไฟฟ้าของไทยโตขึ้น 4,500% ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดและมีผลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้คือธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า 2.แสดงความคิดเห็นในเชิงกล่าวหา หมิ่นประมาท เสียดสี ไม่เคารพสิทธิ เสรีภาพของผู้อื่น โดยกระทำต่อตัวแทนราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ ที่เข้าให้ข้อมูลการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพและติดตามการบังคับใช้กฎหมายด้านการสาธารณสุข ที่ส.ส.เอกภพ เป็นรองประธานอนุกรรมาธิการฯ ว่านำเสนอข้อมูลแบบมีอคติ จับแพะชนแกะ และมีผลประโยชน์ทับซ้อน 3.รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ซื่อสัตย์ สุจริต โดยส.ส.เอกภพ ให้กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) เข้าร่วมฟัง และซักถามผู้เข้าให้ข้อมูลในอนุกรรมาธิการฯ หลายครั้ง และโพสต์รูปภาพที่ตนเองและอนุกรรมาธิการฯ ถ่ายร่วมกับกลุ่มสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งควรรู้หรือรู้อยู่แล้วว่ามีความสัมพันธ์กับกลุ่มอุตสาหกรรมยาสูบ และถือเป็นการกระทำผิดต่ออนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกมาตรา 5.3 ที่ไทยได้ลงนามสัตยาบรรณไว้

​“ขอให้ประธานคณะกรรมการจริยธรรม เร่งพิจารณาและสอบสวนความผิดของ ส.ส.เอกภพ เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติของสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.เอกภาพ เป็นแพทย์ที่ควรมีความรู้ด้านระบาดวิทยาทางการแพทย์ โทษอันตรายของบุหรี่ทุกชนิดพอสมควร จึงควรที่จะรู้หลักการทางสถิติพื้นฐาน และปกป้องสุขภาพของประชาชน แต่กลับจงใจบิดเบือนเพื่อให้ข้อมูลเท็จ โดยใช้ช่องทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ใส่ร้ายเสียดสี หน่วยงาน อาจารย์แพทย์ ราชวิทยาลัยฯ ที่ทำงานขับเคลื่อนเรื่องการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 นอกจากนี้ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่สุดของการเป็น ส.ส. คือการสนับสนุนผู้ทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยโพสต์ยินดีให้คำปรึกษาแก่ผู้ถูกดำเนินคดีตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557” ประธานเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าว

ด้าน นพ.วันชาติ ศุภจัตุรัส ผู้อำนวยการสำนักงานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า มีหลักฐานชัดเจนว่ากลุ่มลาขาดควันยาสูบ เป็นสมาชิกขององค์กรเครือข่ายผู้บริโภคนิโคตินนานาชาติ (International Network of Nicotine Consumer Organizations: INNCO) และแกนนำของกลุ่ม ECST เคยเป็นกรรมการบริหารของ INNCO ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก Foundation for a Smoke Free World (FSFW) ซึ่งเป็นมูลนิธิที่จัดตั้งและได้รับเงินทุนสนับสนุนจากบริษัทบุหรี่ข้ามชาติ ฟิลลิป มอร์ริส ที่มีผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าที่กฎหมายประเทศไทยห้ามขาย แต่คณะอนุกรรมาธิการฯ ที่มี ส.ส.เอกภพ เป็นรองประธานอนุกรรมาธิการฯ กลับให้คนกลุ่มนี้เข้าร่วมประชุม และซักถาม ถือว่าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมาธิการฯ ไม่เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ มุ่งเน้นการศึกษาประเด็นบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไม่เป็นธรรม ไม่คำนึงถึงผลกระทบสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่อาจตกเป็นเหยื่อธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า

“สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ รู้สึกเป็นกังวลในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ต้องการเห็นสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะกรรมาธิการการสาธารณสุข ซึ่งเป็นเสาหลักด้านนิติบัญญัติ และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดและติดตามนโยบายด้านการสาธารณสุขของประเทศไทย มีการดำเนินการที่ขัดต่อจรรยาปฏิบัติที่ผู้แทนราษฎร พึงกระทำ และดำเนินการที่ขัดต่อพันธกรณีในฐานะรัฐภาคี ภายใต้กรอบอนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก อันจะนำไปสู่ความเสื่อมเสียชื่อเสียงของสภาผู้แทนราษฎร เป็นที่ครหาของนานาประเทศ” นพ.วันชาติ กล่าว


You must be logged in to post a comment Login