วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

ระลึกถึงสตรีที่เชื่อมั่นในพระเจ้า

On July 15, 2022

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  15 ก.ค. 65)

อับราฮัมพานางฮาการ์และทารกน้อยอิสมาอีลเดินทางรอนแรมจากแผ่นดินกันอานผ่านทะเลทรายที่ร้อนระอุมายังหุบเขาบักก๊ะฮฺตามคำบัญชาของพระเจ้าโดยมีเสบียงติดตัวมาเท่าที่จะหาได้ในท้องถิ่น  ใครเปิดแผนที่ดูเส้นทางจากแผ่นดินกันอานหรือปาเลสไตน์มาถึงเมืองมักก๊ะฮฺจะรู้ว่าระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร

เมื่ออับราฮัมเดินทางมาถึงหุบเขาบักก๊ะฮฺที่เต็มไปด้วยโขดหินและปราศจากผู้คน  พระเจ้าได้บัญชาเขาให้ทิ้งภรรยาและลูกเล็กไว้ที่นั่น  นี่เป็นการทดสอบอันยิ่งใหญ่สำหรับอับราฮัมผู้เป็นพ่อที่วิงวอนต่อพระเจ้าให้ประทานลูกเพื่อสืบสานความศรัทธาของเขา  แต่เมื่อพระเจ้าให้ลูกชายแก่เขาแล้ว พระองค์จึงต้องการทดสอบว่าเขารักสิ่งใดมากกว่ากัน ครอบครัวหรือพระเจ้า 

ด้วยความเป็นพ่อ  อับราฮัมห่วงใยครอบครัวของเขาโดยเฉพาะลูกน้อย  แต่ด้วยความเป็นนบีที่มีความศรัทธากล้าแกร่งจนพระเจ้าให้ฉายาเขาว่า “มิตรสนิทของพระเจ้า”  เขาจึงต้องตัดใจเดินจากครอบครัวของเขามาโดยไม่หันหลังกลับมามองเพราะเกรงว่าความสงสารภรรยาและลูกจะทำให้ความศรัทธาในพระเจ้าของเขาสั่นคลอน

ถ้าใครเป็นภรรยาที่ถูกสามีทอดทิ้งในสภาพเช่นนี้คงตกใจและโกรธสามีแน่นอน นางฮาการ์ก็เช่นกัน  นางไม่นึกว่าจะต้องมาเจอสภาพเช่นนี้  นางเดินตะโกนตามหลังอับราฮัมว่าจะทิ้งนางและลูกน้อยให้อดตายกระนั้นหรือ  แต่ไม่ว่านางตะโกนเรียกอย่างไร  อับราฮัมก็ไม่หันหลังกลับมามอง  ในที่สุด นางจึงถามอับราฮัมว่าเหตุผลที่เขาทิ้งนางไปเพราะพระเจ้าบัญชาใช่ไหม

เมื่ออับราฮัมตอบว่า “ใช่”  นางฮาการ์จึงกล่าวว่า “ถ้าเป็นบัญชาของพระเจ้า  เธอก็จงทำตาม พระเจ้าจะคุ้มครองดูแลฉันและลูกน้อยเอง”  ทั้งสองจึงจากกันไปด้วยดี

เมื่ออับราฮัมจากไปไม่กี่วัน  เสบียงและน้ำที่เตรียมมาได้หมดลง  ทารกอิสมาอีลส่งเสียงร้องเพราะความหิวกระหาย  นางฮาการ์ผู้เป็นแม่จึงต้องหาน้ำและอาหารให้ลูกและตัวเอง  นางเดินขึ้นไปบนเนินเขาเตี้ยๆลูกหนึ่งโดยหวังว่าจะได้น้ำและอาหารจากกองคาราวานที่อาจผ่านมา  แต่เมื่อนางไม่เห็นสิ่งใด นางจึงจ้ำฝีเท้าไปยังเนินเขาอีกลูกหนึ่งด้วยความหวังเดียวกัน 

เมื่อไม่เห็นวี่แววของสิ่งที่นางหวัง นางก็ยังไม่หมดความพยายาม เพราะนางเชื่อมั่นว่าถ้าพระเจ้าสั่งสามีของนางให้นำนางและลูกน้อยมาไว้ที่นี่ พระเจ้าต้องคุ้มครองดูแลนางและลูก  นางเดินไปเดินมาระหว่างเนินเขาสองลูกนี้ถึงเจ็ดเที่ยวด้วยความหวังเพียงอย่างเดียวคือน้ำและอาหารเพื่อลูกน้อยของนาง

ในที่สุด  เมื่อนางได้ยินเสียงร้องของลูกน้อย นางจึงรีบลงมาดูลูกของนาง  เมื่อมาถึง นางพบว่าที่พื้นทรายปลายเท้าของลูกน้อยอิสมาอีลมีน้ำผุดขึ้นมาไม่หยุด นางจึงนำหินมาก่อเป็นคันกั้นน้ำและร้องว่า “ซัมซัม” ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่น แปลวา หยุดไหลๆ 

ซัมซัมจึงเป็นแหล่งน้ำแห่งแรกในหุบเขาบักก๊ะฮฺ  เมื่อมีน้ำ ชีวิตก็อยู่รอดและมีชีวิตอื่นๆตามมา หุบเขาบักก๊ะฮฺกลายเป็นจุดแวะพักเติมน้ำของกองคาราวานที่ผ่านไปผ่านมาและมีคนเริ่มเข้ามาอาศัยจนกลายเป็นเมืองมักก๊ะฮฺในปัจจุบัน

น้ำซัมซัมเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานแก่นางฮาการ์ผู้ศรัทธาและเชื่อมั่นไว้วางใจในพระองค์  แม้เวลาผ่านไปสามพันกว่าปี  น้ำซัมซัมยังคงไหลหล่อเลี้ยงผู้ทำพิธีฮัจญ์นับล้านคนทุกปี  และเพื่อเป็นการระลึกถึงความเชื่อมั่นศรัทธาและความไว้วางใจในพระเจ้า  การเดินจ้ำฝีเท้าไปมาระหว่างเนินเขาสองลูกที่มีชื่อเรียกในปัจจุบันว่า “เศาะฟา” และ “มัรฺวะฮฺ” จึงเป็นส่วนหนึ่งของพิธีฮัจญ์ที่ผู้ทำฮัจญ์ต้องปฏิบัติ


You must be logged in to post a comment Login