วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567

อย่าเล่นของสูง

On May 12, 2022

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 12 พ.ค.  65)

พูดถึงบริษัทที่น่าสงสาร เพราะได้ทีมร่วมงานทำให้พัง คือ แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์หรือลาซาด้า ล่าสุดท่านพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก บอกว่า กองทัพมีจุดยืนในการปกป้อง เป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ทุกคนต้องเทิดทูน ปกป้อง และยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถือเป็นเรื่องปกติ

ผู้บัญชาการทหารบก บอกว่า เคยพูดแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน ว่าสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพ แต่ไม่ควรก้าวล่วงละเมิดสิทธิ เสรีภาพคนอื่น เหมือนเราที่ไม่อยากให้ใครก้าวล่วงสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของเรา เมื่อก้าวล่วงแล้วต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองกระทำ

“เอาตัวเราเป็นหลักว่าเราชอบหรือไม่ชอบ กับคนที่ยุ่ง ก้าวล่วง และลามปามเรา หรือกล่าวหาเรา หรือดูหมิ่น เหยียดหยาม โดยเฉพาะคนที่มีลักษณะพิการ ตามหลักสิทธิมนุษยชน นี่คือสิทธิ เสรีภาพตามหลักกฎหมายสากลทั่วโลก หากมีความเคลื่อนไหวหมิ่นสถาบัน เป็นเรื่องของทางกฎหมาย เรามีกฎหมายและหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่แล้ว หน่วยงานใดมีหน้าที่ด้านไหนที่จะช่วยกันปกป้องรักษาสถาบันหลัก ก็ดำเนินการตามกฎหมาย”พล.อ.ณรงค์พันธ์ว่าไว้

นั่น ต้องถือว่า เป็นจุดยืนของกองทัพที่จะต้องปกป้องสถาบัน ซึ่งพล.อ.ณรงค์พันธุ์ ยืนยันว่า จะไม่ทำการปฏิวัติรัฐบาลแน่นอน แต่เสนอว่า ทำใจให้สูงไว้ อย่าลบหลู่ ดูถูก อย่าล้อเลียน เป็นของเล่น นี่แหละ เขาเรียกว่า อย่าเล่นกับของสูง อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำหินแตก อย่าแยกแผ่นดิน โบราณก็มีการเตือนกันมาแล้ว

แต่น้องกระเทยนั่นไม่รู้ไปพลาดอย่างไร ก็ต้องรับกรรมไป ต้องตกงาน และทำให้บริษัทลาซาด้า พลอยลำบาก ทหารไม่ให้ขนผ่านเข้าค่าย เข้าเขตทหาร ซึ่งทหารต้องเรียกว่า มีประชากรทหารทั่วประเทศจำนวนมาก เมื่อลาซาด้าขายสินค้าให้ทหารไม่ได้ ทหารไม่ซื้อ ไม่ให้เข้า ให้ผ่าน ไม่ให้ขน ลาซาด้าก็ต้องเข้าสู่ขาลง นี่ยังไม่รวมประชาชนทั่วไปที่เทินทูนให้ความเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์

ด้วยการที่ไม่รู้จักคำว่า ที่สูง ที่ต่ำ พอไม่รู้ที่สูง ที่ต่ำ เวลาจะเดินนี่ มันมีที่ต่ำ เราไปก้าวสูง มันก็คว่ำเลย หน้าคมำ ต้องเรียกว่า ลาซาด้าหน้าคมำ เพราะทีมงานทำมา ศึกยิ่งกว่าขาลง ขาพับ ขาผ่อนไปเลย เพราะฉะนั้น คนเรานี่ถ้าไม่รู้ที่สูง ที่ต่ำ ไม่รู้ว่า อะไรควร อะไรไม่ควร เรื่องลาซาด้า ต้องถือว่า เป็นบทเรียนฮือฮามาก ซึ่งไม่แพ้กับข่าวพระบิดา ตอนนี้ประชาชนจ.ชัยภูมิ เพิ่งเริ่มตื่นตัว แต่งานนี้เขาบอกช้าไปหน่อย

ถ้าไวกว่านี้สักนิด ชาวชัยภูมิก็จะภูมิใจตัวเองมากกว่าที่จะมานั่งฟังเสียงบอกทำไมงี่เง้า งมงายกันอย่างนี้ แต่ชาวบ้านพวกนั้นเขาก็บอกคนที่มาอยู่เป็นคนจากที่อื่น ไม่ใช่คนแถวนั้นก็ว่ากันไป แต่ที่หนักใจก็คือว่า ถ้าเขาตรวจแล้วเป็นจริงมีเชื้อไวรัสอะไรอยู่ ถ้าเอาน้ำลายไปทากันยิ่งไปกันใหญ่เลย ท่านสาธารณสุขจังหวัดก็ออกมาแล้วว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปพินอบ พิเทา ไปเดินตามลัทธิประหลาดนี้

ดังนั้น ญาติโยมทั้งหลายอย่าปล่อยให้จังหวัดของตัวเองมีคนไปตั้งสำนักทำอะไรที่มันแผลงๆ แปลกๆ แต่สกปรก ต้องยอมรับว่า ลัทธิสกปรก ลัทธิต่างๆมันต้องดีงาม สว่าง สะอาด สงบ ของพระพุทธเจ้า 3 ส คือ สะอาด สงบ สว่าง นี่ซกมก สกปรก จะเป็นสำนักยังไง และการที่ผลิตสิ่งต่างๆในไปขายในท้องถิ่น และต่างถิ่น ตรงนี้น่ากลัว ผลิตไม่ได้มาตรฐาน สะอาดไม่พอนี่ ซึ่งสะอาดไม่พอนี่ยุ่งแน่ๆ เอาล่ะ ลาซาด้า และพระบิดา ทั้ง 2 กำลังอยู่ในชะตากรรมวิปฎิสาร คือ ต้องมาเสียใจต่อการกระทำของตัวเอง

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login