- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 3 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 3 months ago
- โลกธรรมPosted 3 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 3 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 3 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 3 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 3 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 3 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 3 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 3 months ago
กระทรวงเกษตรฯ เปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2565 พร้อมปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งและภัยพิบัติทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2565 พร้อมด้วยผู้บริหารจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ณ สนามบินนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ โดยภายในงานมีการประกอบพิธีสงฆ์ การตรวจแถวชุดปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 9 ชุด ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการเครื่องบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จำนวน 7 ชุด ชุดปฏิบัติการเฮลิคอปเตอร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จำนวน 1 ชุด และชุดปฏิบัติการฝนหลวงของกองทัพอากาศ จำนวน 1 ชุด การแสดงบินหมู่ของเครื่องบินฝนหลวงและเฮลิคอปเตอร์ และการปล่อยขบวนคาราวานเครื่องบินฝนหลวงออกไปปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งแสดงถึงความพร้อมของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทุกหน่วยที่จะปฏิบัติภารกิจในปีนี้

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ด้วยในขณะนี้ หลายพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศเริ่มมีสถานการณ์ภัยแล้งเกิดขึ้น น้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่างๆ มีปริมาณน้ำเก็บกักลดลงตามลำดับ และในช่วงฤดูร้อนนี้ มีแนวโน้มของสถานการณ์การเกิดไฟป่า ปัญหาหมอกควัน และปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมไปถึงแนวโน้มการเกิดพายุลูกเห็บในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จัดทำแผนปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2565 ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการทั่วประเทศ โดยได้น้อมนำศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติการป้องกันและช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว

ด้าน นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2565 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง และสร้าง ความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้ การเติมน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่างๆ ของประเทศ ป้องกันการเกิดไฟป่าและบรรเทาปัญหาหมอกควัน รวมทั้งสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินเกณฑ์มาตรฐาน ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงประจำ 5 ภูมิภาค จำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่
– ภาคเหนือตอนบน ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ตาก
– ภาคเหนือตอนล่าง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.แพร่ และ จ.พิษณุโลก
– ภาคกลาง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.นครสวรรค์ และ จ.กาญจนบุรี
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.อุดรธานี
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.บุรีรัมย์
– ภาคตะวันออก ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.จันทบุรี
– ภาคใต้ ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
จัดตั้งฐานเติมสารฝนหลวง จำนวน 2 แห่ง ที่ จ.ขอนแก่น และ จ.ระยอง โดยใช้เครื่องบินกรมฝนหลวงและ การบินเกษตร จำนวน 24 ลำ และ ได้รับการสนับสนุนเครื่องบินกองทัพอากาศ ชนิด ALPHA JET จำนวน 1 ลำ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการจัดตั้งปฏิบัติการ ฝนหลวง จำนวน 4 หน่วยปฏิบัติการ เพื่อติดตามสถานการณ์และช่วงชิงสภาพอากาศในการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งและความต้องการน้ำในบางพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนืออีกด้วย



อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ และจะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งในด้านข้อมูลสภาพอากาศ ปริมาณน้ำ การวิเคราะห์-วิจัยข้อมูลต่างๆ เพื่อนำมาวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและพื้นที่การเกษตรให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด


ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร ขอรับบริการฝนหลวง หรือแจ้งข้อมูลความต้องการน้ำในพื้นที่ได้ทุกวันที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ อาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่ หรือทางช่องทางการติดต่อทาง เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Line Official Account Instagram Twitter : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100 นายสำเริง กล่าวทิ้งท้าย
You must be logged in to post a comment Login