วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

อย่ารับใช้ไสยศาสตร์

On January 21, 2022

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 21ม.ค.  65)

และแล้วประเทศไทยระหว่างพุทธศาสตร์กับไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ หมอดูอะไรต่างๆเป็นของคู่กับสายเลือดไทยเกิดขึ้นบ่อยๆที่โน้น ที่นี่ ที่นั่น เดี๋ยวก็ดับไป แต่แล้วมันสวนทางกันแบบที่ว่า เวลาเกิดขึ้นต่างจังหวัด คนกรุงเทพฯจะแห่ไป เหมือนจตุคามรามเทพ หรือไอ้ไข่อะไรพวกนี้ แต่เวลาเกิดชานเมืองหรือใกล้กรุงเทพฯ คนต่างจังหวัดก็จะแห่เข้าไป เลยกลายเป็นเรื่องคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า เป็นเรื่องทำให้ไม่รู้ว่า จะลงจุดไหนที่จะเรียกกันว่า เราจะได้อยู่กันอย่างฉลาดรอบรู้ ไม่ถูกสิ่งที่เรียกกันว่า ลึกลับ

หรือเราไม่ค่อยจะเอาหลัก แต่ไปเอาฤทธิ์ ซึ่งสมเด็จพระพุทธโกศาจารย์ อดีตพระธรรมปิฎก ท่านก็จะบอกว่า คนไทยสนเรื่องหลักน้อย แต่ฤทธิ์ต้องการเยอะ อย่างที่เมืองนนท์เราเนี่ย ถ้าหลวงพ่อปัญญาอยู่ก็คงจะจัดการก่อนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แต่เดี๋ยวนี้ พศ.ก็ไปแล้ว สั่งให้ระงับก็ต้องถือว่า ไว เรียกว่า พศ.นนท์ไว ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้บานปลาย กลายเป็นเรื่องงมงาย เชื่อง่าย เชื่อดาย ถ้าเป็นของดีจริง เจมเสร็จ ทำไมต้องรีบล้างออก

การล้างออก แปลว่า เอาไว้มันจะเลอะ คนอื่นเขามองดูจะรู้สึกว่า ทำไมหน้าไปเลอะเปรอะอย่างนั้น คนเรานี่แปลก หน้าตาผิวพรรณสะอาดดีๆ สักบ้าง โพกโน้นแปะนี่เข้าไปบ้าง จนกระทั่งมอมแมมไปเลย แทนที่จะสะอาด สว่าง สงบ ที่เป็นแนวทางของพุทธแท้ ถ้าสปรกเลอะเทอะ ก็ไม่ใช่แนวทาง แต่นี่ก็มามีตรงที่ว่า วันหนึ่งทำ 2 คน แล้วทำไมเอาเวลาไปช่วยคนเยอะๆไม่ดีหรือ เช่น ไปเจิมกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรฯ ให้เกษตรได้รุ่งโรจน์

ไหนบอกว่า เจิมแล้วค้าขายจะดี การงานจะดี เศรษฐกิจ ค้าขาย เงินทองจะไหลมาเทมา ถ้าเป็นอย่างนั้นจะมาเสียเวลาทำคนสองคนทำไม ก็ไปทำทีเดียวที่กระทรวงใหญ่ๆ และเจ้ากระทรวงก็ควรจะจับลูกน้องแต่ละแผนกที่ตรงกับสรรพคุณที่ต้องการที่เขาแอบอ้าง นี่บอกแล้วว่า ถ้าเป็นยุคพระเจ้าอโศก พระพวกนี้เหลือไม่เท่าไร พระเจ้าอโศกจัดการไป 400-500 รูป ถ้าเป็นรัชกาลที่ 3 ก็จะมีเรื่องสักหน้าสักอะไรกันในเรื่องทำไม่ถูก ไม่ดี

เอาล่ะ สรุปแล้วโยม อย่าเป็นคนมโนอะไรไปง่ายๆ ให้สมองติดเครื่องกรองสักนิดหนึ่ง ถ้าของดีทำไมรีบล้างออก 2.ถ้าของดี คนข้างวัดทำไมไม่เอาดีก่อนคนอื่น ไปให้นครปฐม ราชบุรี เหนือ อีสาน ใต้ ไปเอาไปก่อนทำไม คนเมืองนนท์ก็ไม่ได้แตกตื่นเท่าไร มีผู้หญิงรายหนึ่งบอกว่า มาจากนครปฐม ดูเถอะ เวลาเกิดเรื่องของขลังศักดิ์สิทธิ์ชานเมือง คนต่างจังหวัดก็ไหลเข้ามา เวลาเกิดเรื่องที่ต่างจังหวัด ของขลังศักดิ์สิทธิ์ คนกรุงเทพฯ ปริมณฑลก็จะแห่ไปวนเวียนกันอยู่อย่างนี้

เราดูเถอะเรื่องนะหน้าทองลงเนี่ย อาตมาคิดว่า ชีวิต 72 ปี ไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ครั้ง ที่เจอข่าวแบบนี้ แต่สักพักหนึ่งก็จางหายไป อันอื่นก็มาเกิดใหม่ ชดเชยทดแทนกันอยู่อย่างนี้ เกิดๆ ดับๆ ลงท้ายเสื่อมหมด ไม่มีหลัก มีเกณฑ์ แต่ที่แน่ที่สุดหัวใจเศรษฐีที่พระพุทธเจ้าสอน คือ การขยันหาทรัพย์ และทรัพย์ที่หามาแล้วต้องรักษาให้ดี อย่าให้พวกหวย การพนัน มันเอาไปแล้ว คบเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตรชี้แต่ขุมทรัพย์ ไม่พาไปผลาญทรัพย์

สุดท้ายจ่ายทรัพย์ ซื้ออะไรก็ตามต้องให้มันติดบัญชี อย่าจ่ายเกินรายรับ นี่แหละชัวร์ที่สุด เป็นหลักที่เป็นอมตะ นิรันดร์ตลอดกาล แต่ถ้าเจิมแล้วร่ำรวย มั่งมี ศรีสุข ค้าขายดี ก็บอกแล้วไง ไปเจิมที่กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ เกษตรกรจะได้มั่งคั่ง ร่ำรวย ดีกว่าทำวันละ 2 คน อาตมาคิดถึงเมืองไทยเรานี่ บวชมาแล้วไม่เรียนพุทธศาสตร์ แต่ไปเรียนไสยศาสตร์ ตั้งแต่เณรแอ บวชมาก็ไปเรียนไสยศาสตร์กับเขมร

ตอนนี้เป็นยังไงเณรแอ ก็แบบเดียวกันนี่ ทำเสน่ห์ แต่แล้วก็เป็นเสนียดมากกว่าเป็นเสน่ห์ ต้องระวังกันหน่อยชาวพุทธเรา พระเจ้าพระสงฆ์ก็เหมือนกัน รับใช้พระพุทธเจ้าเถอะ อย่าไปรับใช้ไสยศาสตร์ เป็นพุทธศาสตร์ให้เต็มตัวเถอะจะดีแน่นอน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login