วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

ปอกเปลือกฝรั่ง

On January 14, 2022

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  14 ม.ค.  65)

ก่อนยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ  ศูนย์กลางความเจริญทางวิชาการและอารยะธรรมที่สำคัญของโลกอยู่ที่อิรักและอาณาจักรอันดะลุสที่มุสลิมสร้างขึ้นในสเปน แต่หลังจากยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ  ศูนย์กลางความเจริญได้ย้ายมาอยู่ในยุโรป

เมื่อเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 18  เครื่องจักรไอน้ำทำให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆในยุโรปโดยเฉพาะในอังกฤษมีเครื่องจักรที่สามารถผลิตสินค้าได้เกินความต้องการภายในประเทศ จึงต้องระบายสินค้าออกไปต่างประเทศ  เรือกลไฟและรถไฟได้ช่วยทำหน้าที่ระบายสินค้าจากยุโรปไปสู่ประเทศต่างๆและนำทรัพยากรจากประเทศอื่นๆกลับมาเช่นกันซึ่งทำให้การล่าอาณานิคมเกิดขึ้นตามมา

เพื่อระบายสินค้าที่ผลิตได้เกินความต้องการภายในประเทศ  อังกฤษและชาติอื่นๆในยุโรปจำเป็นต้องสร้างดีมานด์จากต่างชาติให้มากขึ้น ชาติยุโรปจึงให้ทุนแก่นักศึกษาในชาติต่างๆไปศึกษาต่อขั้นสูงในยุโรปและสนับสนุนนักศึกษาเหล่านี้ให้กลับไปเป็นผู้ปกครองประชาชนตามแนวความคิดตะวันตก

ในประเทศแถบเอเชีย เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย  ชาติตะวันตกพยายามที่จะทำให้ผู้คนหันมาใช้วิถีชีวิตตามวัฒนธรรมตะวันตกเพื่อบริโภคสินค้าจากตะวันตก  แต่ความพยายามของชาตินักล่าอาณานิคมต้องประสบกับการต่อต้าน เพราะชาวตะวันออกรู้สึกว่าถึงแม้ตัวเองจะใช้ชีวิตตามวิถีตะวันตก  แต่ชาวตะวันตกก็ยังคงเหยียดชนชาติอื่นว่าต่ำต้อยด้อยค่ากว่าตนและไม่ยอมรับวัฒนธรรมของชาวตะวันออก

มหาตมะ คานธี เป็นคนหนึ่งที่รู้ซึ้งถึงทัศนคติของชาวตะวันตกเมื่อเขาไปศึกษาที่อังกฤษและทำงานเป็นทนายในอาฟริกา แม้เขาจะแต่งตัวใส่สูทผ้าขนแกะที่ทอจากโรงงานในเมืองแมนเชสเตอร์และผูกเน็คไทเหมือนชาวอังกฤษ  แต่เขาก็ยังถูกชาวผิวขาวเหยียดผิวชังพันธุ์

เมื่อเขากลับมายังอินเดียที่อยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ  เขาเริ่มรณรงค์ให้ชาวอินเดียรักษาวัฒนธรรมและภาษาของชาวอินเดียไว้ เขาถือว่าถ้าคนอินเดียแต่งตัวเหมือนชาวอังกฤษและพูดภาษาอังกฤษ  วัฒนธรรมของคนอินเดียก็จะหมดไป เขาละทิ้งเสื้อสูทแบบตะวันตกและหันมาทอผ้าเพื่อนุ่งห่มตามแบบอินเดียเพื่อเป็นการต่อต้านวัฒนธรรมตะวันตกแบบอหิงสาและได้รับการสนับสนุนจากชาวอินเดียที่เลื่อมใสในตัวเขา

Mother about to start a family holding her stomach

แค่เพียงเท่านี้  ความต้องการผ้าขนสัตว์เพื่อการตัดสูทในอินเดียก็ลดลง ส่งผลสะเทือนถึงโรงงานผลิตผ้าขนสัตว์ที่เมืองแมนเชสเตอร์ในอังกฤษบ้างไม่มากก็น้อย

ในอินโดนีเซียที่ตกเป็นอาณานิคมของฮอลันดาก็มีการต่อต้านความพยายามของชาวดัทช์ที่ต้องการจะทำให้ชาวอินโดนีเซียหันมารับวัฒนธรรมตะวันตกโดยใช้โรงเรียนและคณะมิชชันนารี

อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ที่ชาติตะวันตกทำกับตุรกีด้วยการทำลายวัฒนธรรมอิสลามทำให้มุสลิมชาวอินโดนีเซียได้รับบทเรียน  องค์กรอิสลามที่สำคัญในอินโดนีเซียได้ตั้งรับการรุกรานทางวัฒนธรรมโดยรณรงค์ให้ชาวอินโดนีเซียรักษาการแต่งกายประจำชาติไว้  และหากใครแต่งตัวแบบตะวันตก เช่น ใส่กางเกงแบบฝรั่ง จะถูกตราหน้าว่าเป็น “นัศรอนีย์” (ชาวคริสเตียน)

มีนักศึกษาบางประเทศได้ทุนไปเรียนในยุโรปและเห็นว่าลัทธิชาตินิยมทำให้บางชาติอย่างเช่นเยอรมนีมีความเข้มแข็ง เมื่อกลับมาประเทศของตัวเองและได้เป็นผู้นำ เช่นในรัสเซีย ปัญญาชนที่นิยมยุโรปมองเห็นว่าการไว้เคราเป็นความล้าหลังเมื่อเปรียบเทียบกับชาวเยอรมันที่ไม่ไว้เครายังเจริญก้าวหน้าได้ จึงสั่งให้ทหารและเจ้าหน้าที่รัฐบาลเลิกไว้เครา

ลัทธิชาตินิยมได้ถูกนำมาใช้ในประเทศไทยเช่นกันเมี่อนักศึกษาที่จบมาจากยุโรปได้ขึ้นเป็นผู้นำและใช้นโยบาย “มาลานำชาติไทย” โดยส่งเสริมให้คนไทยใส่หมวกตามแบบตะวันตก เลิกนุ่งกางเกงแพรหรือโจงกระเบนและหันมาใส่ผ้านุ่งหรือนุ่งกางเกงแบบตะวันตก

ไม่เพียงเท่านั้น  นโยบายรัฐนิยมที่พยายามจะทำให้คนไทยทุกคนนับถือศาสนาเดียวกันยังก่อให้เกิดปัญหาความไม่สงบขึ้นในภาคใต้ที่ยังไม่จบจนถึงทุกวันนี้


You must be logged in to post a comment Login