วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

เลือกครีมกันแดด สู้แดดสงกรานต์

On April 9, 2021

คอลัมน์ : เปิดโลกสุขภาพ

ผู้เขียน : ดร.พญ. พลินี รัตนศิริวิไล

แพทย์ประจำศูนย์ผิวพรรณและความงาม ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผมร่วงและเวชศาสตร์ชะลอวัย

โรงพยาบาลพญาไท 1

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 9-16 เม.ย. 64)

เราพร้อมแค่ไหนในการป้องกันแสงแดดช่วงสงกรานต์ แสงแดดเป็นสาเหตุของความหมองคล้ำ กระแดด รอยดำ ฝ้าตื้น ฝ้าลึก รวมถึงผิวแก่ก่อนวัย และการโดนแดดจัดจนผิวแดงไหม้ลอกซ้ำๆยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย

การป้องกันแสงแดดที่ดีที่สุดคือการเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจ้าโดยตรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างเวลา 10 โมงเช้าถึง 4โมงเย็นซึ่งมีรังสียูวีสูง (สูงสุดช่วงเที่ยงถึงบ่ายโมง) แต่หากเลี่ยงไม่ได้การหลบแดดใต้ต้นไม้ใหญ่ การถือร่มบังแดด การใส่เสื้อผ้าแขนยาวกางเกงขายาว การใส่แว่นกันแดดชนิดกรองรังสียูวี รวมถึงการเลือกใช้ครีมกันแดดก็เป็นทางเลือกเพื่อปกป้องผิวหนังเราจากปัญหาผิวดังกล่าว

การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม อย่างแรกควรพิจารณาค่าการกันแดด โดยมีค่ามาตรฐานของครีมกันแดดที่ใช้กันคือ spfเป็นตัวเลขแสดงค่าเป็นจำนวนเท่าของเวลาที่ผิวทนทานต่อการแดงจากรังสีUVB สำหรับคนผิวขาวมากอาจทนต่อแดดได้เพียง 5 นาทีก่อนจะเริ่มแดงเมื่อทาครีมกันแดด spf15 ในปริมาณเหมาะสม (2 มิลลิกรัม/ตารางเซนติเมตร) จะสามารถทนทานต่อการแดงจากรังสีUVBได้นาน 15 เท่าของผิวธรรมชาติของคนนั้น คือ 15×5=75 นาทีนั่นเอง การทากันแดด  สำหรับในชีวิตประจำวันแนะนำให้ใช้ ครีมกันแดดที่มี spf15 หรือมากกว่า และเพิ่มเป็น spf30 สำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วน รังสีUVA ซึ่งเป็นสาเหตุความคล้ำและเสื่อมของเซลล์อันเป็นสาเหตุของความแก่เหี่ยวย่น มีการใช้ค่า PA+, PA++, PA+++ แสดงถึงการปกป้องจากการหมองคล้ำของผิว หากอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานแนะนำเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่าPA++ ขึ้นไป

ดร.พญ. พลินี รัตนศิริวิไล

ครีมกันแดดที่ดีควรมีคุณสมบัติในการป้องกันทั้ง UVA และ UVB เรียกว่า “broad spectrum” และเพื่อให้ได้ค่าการกันแดดตามที่ระบุจะต้องทากันแดดในปริมาณ 2 มิลลิกรัม/ตารางเซนติเมตร หรือประมาณอย่างง่ายคืออย่างน้อย 1 ช้อนชาต่อพื้นที่ทั่วใบหน้า หรือ 1 แก้วช็อตสำหรับทาทั้งตัว สำหรับบางคนที่รู้สึกเหนอะหนะง่ายเมื่อใช้ครีมกันแดดเนื้อครีมหรือโลชั่น อาจลองพิจารณากันแดดชนิดที่เป็นเนื้อเจล เนื้อเหลว หรือแบบสเปรย์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการกันแดดที่ดีเช่นกัน ทั้งนี้อาจระวังเพิ่มในเรื่องการระคายเคืองและควรทาให้ทั่วสม่ำเสมอ หรืออาจใช้เทคนิกการทาแล้วปล่อยแห้งจึงทาทับจนได้ปริมาณที่ต้องการก็ได้

ครีมกันแดดทุกชนิดค่าการแดดลดลงเมื่อเหงื่อออกหรือโดนน้ำ ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกาให้ระบุครีมกันแดดที่ยังคงคุณสมบัติกันน้ำหลังจากแช่ในน้ำผ่านไป 40 นาที ว่าเป็น water resistant และเกิน 80 นาทีเรียกว่า very water resistant ทั้งนี้สารกันแดดใช้เวลาในการเกาะตัวเป็นฟิล์มกันน้ำบนผิวหลังจากทาแล้วอย่างน้อย 30 นาที และควรทาซ้ำทุกสองชั่วโมงเนื่องจากคุณสมบัติการกันแดดจะค่อยๆลดลงหลังจากทา

การเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่มีคุณสมบัติในการกันแดดแตกต่างกันโดยพบว่าผ้าที่เนื้อทอแน่นหนาสีเข้มมีคุณสมบัติในการกันแดดดีกว่าผ้าทอหลวมหรือผ้ายืด สีอ่อน เมื่อผ้าเปียกมักมีคุณสมบัติการกันแดดลดลง ผ้าบางชนิดมีการออกแบบให้กันแดดมากขึ้นโดยการเคลือบสารที่สะท้อนหรือดูดซับรังสีUV โดยผ้าที่ออกแบบและมีการทดสอบว่ากันแดดได้มีค่าการปกป้องเรียกว่า UPF (UV protection factor) โดย UPF 15-24 คือกันได้ดี 25-39 คือกันได้ดีมาก และ 40-50 คือกันได้ยอดเยี่ยม

สรุปง่ายๆสำหรับการสู้แดดช่วงสงกรานต์

1) มองหาครีมกันแดดที่มีคำว่า broad spectrum

2) ถ้าว่ายน้ำหรือเหงื่อออก มองหาคำว่า water resistant

3) ทาก่อนออกแดดหรือลงน้ำอย่างน้อย 30 นาที

4) ใช้ปริมาณอย่างน้อย 1 ช้อนชาต่อการทาทั่วใบหน้า หรือ 1 แก้วช็อตสำหรับทาตัว

4) ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง

5) เลี่ยงแดดช่วงแดดแรง ใส่หมวกกางร่ม สวมใส่เสื้อผ้ากันแดด

ขอให้ทุกคนฝ่าแดดเล่นสงกรานต์กันอย่างมีความสุขค่ะ


You must be logged in to post a comment Login