วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2567

“สื่อ สังคม การเมือง ศาสนา เศรษฐกิจไทย จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วแน่นอน” โดย พระพยอม กัลยาโณ

On November 11, 2020

ตอนนี้เศรษฐกิจ สังคม การเมือง มีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปมากมาย แม้กระทั่งทางศาสนาก็มีอะไรแปลกๆชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนการที่สื่อ “โลกวันนี้” อยู่มาได้ขนาดนี้ก็ต้องถือว่าเป็นพรต่อตัวเองพอสมควร มีสื่อมากมายที่เขาล้มหายตายจากกันไป ปิดกันไปมากแล้ว อาจจะเป็นด้วยภาวะเศรษฐกิจหรือข้อความเนื้อหาต่างๆไม่เร้าใจหรือถูกใจก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น แต่เมื่อสื่อ “โลกวันนี้” อยู่มาได้ถึง 21 ปีวันนี้ต้องถือว่าเป็นวัยสมบูรณ์แล้ว ถ้าเป็นผู้ชายเขาว่าวัยได้บวชแล้ว นั่นหมายความว่าได้อบรมบ่มเพาะมาถึง 21 ปีทีเดียว

สำหรับอาตมาถือว่าได้เกี่ยวข้องกับสื่อโลกวันนี้มายาวนานต่อเนื่อง ทำให้ได้ลับสมอง ทำให้มีโอกาสค้นคว้าศึกษาเรียนรู้ เพราะเดี๋ยวโดนถามกลัวจะตอบไม่ได้ ก็เลยคิดว่าถ้าเราโดนถามอย่างนี้ต้องหาข้อมูลอย่างนี้ ทำให้อ่านสื่อมากขึ้น ดูสื่อมากขึ้น และก็ได้นำมาใช้ประโยชน์

เมื่อก่อนอาตมามีเทปคาสเซ็ทออกไปคนก็ติด ฟังกันเยอะ แล้วหลังจากนั้นเทปคาสเซ็ทก็หมดวาระของมัน ต่อมาก็ถึงยุคแผ่นซีดี ยุคนั้นคนก็มีเครื่องเล่นซีดีบ้างไม่มีบ้าง แต่ตอนนี้โดยเฉพาะรายการ “กัลยาโณโอเค” ทำให้พระพยอมกับญาติโยมในประเทศไทยได้กระชับแน่นแฟ้นสนิทกันมากขึ้น เพราะสื่อโลกวันนี้ทำให้ช่องว่างระหว่างอาตมากับญาติโยม วัดกับโยมได้มีโอกาสใกล้ชิดกันที่จะได้ฟังข้อคิดสนิทใจต่างๆได้มาก เรียกว่าไม่แพ้ยุคเทปคาสเซ็ท ยุคซีดี

อาตมาถือว่าสื่อโลกวันนี้ได้ช่วยกระชับ ช่วยรับเป็นสะพานถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจ ความคิดเห็น ความคิดอ่าน ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนานถึง 21 ปี

เรียกว่าถ้าคู่ครองใดเขาอยู่ครองใจกันได้ 21 ปีต้องถือว่าเยี่ยมแล้ว ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้แต่งกันเขาว่าหม้อข้าวไม่ทันดำก็ไปแล้ว สื่อบางฉบับบางค่ายแผล็บเดียวไปก็มี แต่สื่อโลกวันนี้ต้องเรียกว่ามั่นคงยืนยงอยู่มาได้ และก็หวังว่าจะอยู่ได้ต่อไป จนกว่าพวกเราจะหมดลมหายใจทำกันก็แล้วกัน

ฉะนั้นก็ขอให้ญาติโยมได้ติดตาม อาตมาเองยังคิดไม่ถึงเลย ตอนไปบิณฑบาตหลายคนก็มาบอกว่าอ่านสื่อนี้ ฟังสื่อนี้ ได้ดูรายการนี้ ทำให้เราได้มีโอกาสคุ้นเคยสนิทสนม ภาษาศาสนาเขาเรียกว่าเป็น “วิสฺสาสปรมา ญาติ” ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างประเสริฐ ถือได้ว่าเราเป็นญาติทางธรรมกัน สนิทสนมกัน

เขาบอกว่าถึงเราจะอยู่ห่างกัน แต่มีความใกล้ชิดทางจิตใจ ทางรับรู้ระบบประสาท ก็กลายเป็นญาติเป็นมิตร เป็นสหายธรรม เป็นกัลยาณมิตรได้ เป็นมิตรเป็นสหายอย่างดี ดีกับหลักธรรมดีกว่าไปดีอย่างอื่น เพราะฉะนั้นก็ขอให้เราอยู่กับสื่อโลกวันนี้กันต่อไป เพื่อจะได้เจริญปัญญายิ่งๆขึ้นไป

กลับมาที่เรื่องที่ว่า “ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” .. ประเทศไทยนั้นไม่เหมือนเดิมอย่างไรบ้าง ต้องบอกว่าเยอะเลย เอาแค่การเมืองก็น่าจะเปลี่ยนแน่ ระบบระบอบอะไรต่างๆที่กำลังเรียกร้องให้ปรับปรุงปฏิรูป ถ้าปฏิรูปแล้วอย่างไรก็คงไม่เหมือนเดิม ขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี บางทีอะไรที่ปฏิรูปได้ ที่ทำได้ ก็คงต้องมีการแก้ไขกัน

ที่ไม่เหมือนเดิมไปแล้วแน่นอนก็คือระบบเศรษฐกิจ การที่จะมากินอยู่หรูหราฟู่ฟ่าอย่างคำที่ว่า “กินหรูอยู่แพง สำแดงตนเป็นคนหัวนอก” คงทำไม่ได้อีกแล้ว อย่าว่าแต่เมืองไทยเลย ตอนนี้เมืองนอกก็จะไปไม่รอดเหมือนกัน อย่างเศรษฐกิจอเมริกาถึงแม้จะได้ประธานาธิบดีคนใหม่แล้วก็ยังไม่แน่ว่าเศรษฐกิจประเทศไทยเราจะพ่วงท้ายไปกับเขาด้วยหรือเปล่า เพราะเราก็ยังถูกแซงชั่นอะไรต่อมิอะไร เศรษฐกิจยามนี้รับรองโงหัวขึ้นยาก ต้องลำบากกว่าเก่าแน่นอน

การเมืองทำท่าจะลำบากเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะปรองดองได้หรือเปล่า ปรองดองหรือเปราะบางยังไม่แน่ แต่มองดูแล้วคงยาก เพราะต่างคนต่างตั้งแง่ สังคมการเมืองนั้นต้องเปลี่ยนแน่นอน สังคมศาสนาถ้าได้ดูข่าวที่ออกมา ทั้งการบวชแบบล้นเกิน พระไม่ทำหน้าที่ของพระ นี่ก็ชัดเจนแล้ว

ส่วนเด็กไทยแน่นอนว่าต้องไม่เหมือนเก่า อาตมาเองได้สังเกตว่าเด็กเขาไปเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ลามกบ้าง ปัญญาวุธบ้าง มีทั้งด้านดีและด้านร้าย ถ้าเป็นใฝ่ปัญญาเขาก็ไปรุ่งเลย ถ้าเป็นใฝ่ต่ำก็ลำบาก

ถ้าเขาใฝ่รู้เขาไปโลดเลยในทางความรู้ สมองติดปีกเลย แต่ถ้าเขาใฝ่ต่ำเขาก็จะใจแตก เสียผู้เสียคน จนเกิดข่าวที่เราไม่นึกว่าสังคมเปลี่ยนไปขนาดนี้ได้ไง

ขนาดที่เดี๋ยวนี้เด็กผู้หญิงไปนอนกับผู้ชายแล้วบอกว่าได้แต้ม ถ้านอนซ้ำคนเดิมแต้มไม่ขึ้น แล้วมีการเอามาอวดกันว่าได้คนนั้น ได้คนนี้ ได้คนโน้น

ต่างกับสมัยเดิม สมัยก่อนจะคิดว่าเสียไปกับเขาแล้วนะ แต่ตอนนี้กลับบอกว่าได้เขาแล้วนะ นี่เรียกว่าเปลี่ยนไหมล่ะประเทศไทย ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยมี

แล้วก็ไม่เคยมีหรอกที่วัดได้กฐินตั้งแปดแสนแล้วไม่รับ บอกว่ายังไม่ครบล้าน แบบนี้ในอดีตไม่เคยมี ประเทศไทยเปลี่ยนไปมากๆ เปลี่ยนอย่างชนิดฟ้ากับเหวเลย

แต่เอาล่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอให้คนไทยตั้งท่ารับให้ดีก็แล้วกัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ขอให้เราตั้งมั่นและมีสติอยู่ตลอดเวลาก็แล้วกัน

 

เจริญพร

 


You must be logged in to post a comment Login