- ต้องไม่ไปเป็นทุกข์แทนรัฐบาลPosted 2 hours ago
- จุดติดไม่ง่ายPosted 3 days ago
- อย่าลงโทษมนุษย์มากเลยPosted 4 days ago
- สงสารสัตว์โลกที่ก่อสงครามPosted 5 days ago
- มนุสสเปโตPosted 6 days ago
- ผู้ใหญ่ไม่รังแกเด็กPosted 1 week ago
- ควรเลือกวิธีอื่นที่ดีกว่านี้Posted 1 week ago
- ทำสติให้มั่นคงPosted 2 weeks ago
- บทเรียนPosted 2 weeks ago
- หลบฉาก – เก็บแต้มPosted 2 weeks ago
ร.พ.ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล นำร่องนโยบาย 5G แห่งชาติ
วิกฤติ Covid-19 ทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและเกิดผลกระทบครั้งยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการแพทย์ ซึ่งจำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดซึ่งอาจเกิดการผันผวนได้อยู่ตลอดเวลา โดยการเตรียมพร้อมด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม เพื่อรองรับระบบ 5G ที่กำลังจะเปิดใช้ในประเทศไทยเร็วๆ นี้ โดยโรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จะเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทยนำร่องนโยบายการใช้ 5G แห่งชาติ
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มีพันธกิจหลักอยู่ 3 ประการ คือ การบริการผู้ป่วย การศึกษา และการวิจัย โดยร้อยละ 85 ของรายได้ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มาจากการให้บริการผู้ป่วยของโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งหากรายรับในส่วนดังกล่าวประสบปัญหา จะส่งผลกระทบถึงการศึกษา และการวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ตามไปด้วย เราจึงจำเป็นต้องมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้สามารถบริหารจัดการพันธกิจต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลศิริราชได้มีการริเริ่มแอปพลิเคชัน Siriraj Connect เพื่อรองรับการบริการผู้ป่วยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ให้ได้รับบริการอย่างทั่วถึงผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวก ตั้งแต่เรื่องการตรวจสอบและยืนยันสิทธิ ส่งเอกสารรับรองสิทธิ ชำระเงิน ทำบัตรผู้ป่วยใหม่ เลื่อนนัดผู้ป่วย ปรับปรุงข้อมูลผู้ป่วย พบแพทย์ออนไลน์ บริการส่งยาทางไปรษณีย์ ติดต่อบริจาค รวมทั้งสามารถชมคลิปรายการ “พบหมอศิริราช” ตลอดจนค้นหาเส้นทางไปยังสถานที่ตรวจผ่านระบบ GPS ในแอปพลิเคชัน Siriraj Connect
“เรื่องคุณภาพเป็นเรื่องที่เราเน้นมากที่สุด เมื่อ 5G เข้ามา เราจะไม่ได้ทำเพื่อศิริราชเท่านั้น แต่เราจะทำให้กับประเทศชาติถึง 9 โครงการ ให้แล้วเสร็จภายใน3 ปี ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจในการยกระดับคุณภาพการบริการให้ดีขึ้น ปลอดภัย รวดเร็ว สะดวกสบายยิ่งขึ้น และที่สำคัญสามารถพร้อมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะเกิดการระบาดที่รุนแรงมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ โดยจะมีการใช้ประโยชน์จาก AI หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” มาช่วยในการรักษา และมีการต่อยอดเพื่อใช้ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่พื้นที่ห่างไกล รวมทั้งสร้างนวัตกรรมขึ้นเองในอนาคต ซึ่งบางโครงการได้มีการเริ่มดำเนินการ และส่งผลออกมาให้เห็นบ้างแล้ว เพื่อสนองบทบาทในการเป็นที่พึ่งพิงของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งบางโครงการได้มีการเริ่มดำเนินการ และส่งผลออกมาให้เห็นบ้างแล้ว โดยผ่านการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์ โดยคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งขาติที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน” ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา กล่าวทิ้งท้าย
สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210
You must be logged in to post a comment Login