- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 3 months ago
- โลกธรรมPosted 3 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 3 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 3 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 3 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 3 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 3 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 3 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 3 months ago
ความขัดแย้งเป็นอุบาทว์โลก

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 8 มิ.ย. 63)
และแล้วความขัดแย้ง ความแบ่งใฝ่ฝ่าย ไม่สามารถจะหมดไปจากการเมืองในโลกหรือในประเทศไทยได้ ตอนนี้ถือว่า ฝ่ายค้านมีข่าวว่า พรรคแตกบ้าง ฝ่ายรัฐบาลโดยพรรคพลังประชารัฐก็มีความขัดแย้ง แตกแยก เช่นกัน เรียกว่า ความต้องการอยากได้อำนาจ ตำแหน่ง ผลประโยชน์ ซึ่งอำนาจ ตำแหน่ง ผลประโยชน์ เป็นของโปรด ขอมนุษย์ปุถุชนเป็นอย่างยิ่ง แต่คนที่หวังมรรคผลจะไม่มัวแต่จะหลงใหลได้ปลื้มไปกับคำว่า ได้ยศ อำนาจ ตำแหน่ง กลับมองดูว่า มันเป็นการลาภที่เป็นทุกขลาภ เป็นความวุ่นวาย ยุ่งยาก ลำบากมากกว่าสงบ
ตอนนี้ ข่าวแต่ละช่อง แต่ละฉบับ จับตาดูว่า ใครจะมา ใครจะไป บางคนก็บอกว่า มีชื่อแพล่มๆที่จะมาเป็นรัฐมนตรีที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีในเร็วๆนี้ ชื่อที่ออกมาเป็นชื่อที่ยี้มากกว่า ถ้ามาเป็นรัฐมนตรียี้มากๆ บ้านเมืองก็ต้องน่าเป็นห่วงว่า หวังว่า ถ้ายังเป็นอย่างนี้กันอยู่ ความเจริญก้าวหน้านำพาประเทศไปทัดเทียมเขาได้คงยาก เรียกว่า ยากกว่าหืดขึ้นคอ หรือเข็นครกขึ้นภูเขา มันไปยาก ไปลำบาก จะไปดี ไปเจริญ มองดูแล้ว มันไปยาก ไปลำบาก เพราะว่า ขัดแข้ง ขัดขา ขัดแย้ง
เรียกว่า ความขัดแย้งเป็นอุบาทว์ของโลกที่มนุษย์ที่ว่า ทำสงครามกันจนล้มหายตายจากก็เพราะคำว่า ขัดแย้ง และรู้สึกว่า ความขัดแย้งมันจะบานปลาย มันมากกว่าที่จะสงบเร็ว สงบไว ก๊กต่างๆก็พยายามสำแดงพลังว่า กลุ่มใครจะมีพลังมากกว่ากัน นักการเมืองรุ่นเก่า ก็ต้องเรียกกันว่า ความขัดแย้งสูงส่ง ท่านชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร์ บางทีท่านก็ไม่อยากจะว่าใครแรง แต่ว่าแล้วก็เหมือนมีดโกนอาบน้ำผึ้งปาดเข้าไป จะต้องเจ็บปวด แต่แล้วก็ไม่มีใครที่จะระวังตัว เผลอพูดอะไรไปอย่างชนิดที่ไม่รู้เตือนแล้วก็ไม่ค่อยฟัง ไม่ระวัง
ถ้าไม่ระวังก็ระวังจะพังกันไปง่ายๆ อย่าให้ต้องวุ่นวายกันมาก บางคนก็ยุ ถ้าวุ่นวายมากก็ให้ท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยุบสภา ถ้ายุบสภาเลือกตั้งกันใหม่ก็ต้องเรียกว่า เสียเงิน เสียทอง เสียของ เสียเวลา สู้เดินหน้าไปให้ดี ให้ได้ มันสู้แนวนี้ไม่ได้ เหตุมันเกิด คนเป็นต้นเหตุทำให้ต้องยุบ ต้องเลือกตั้งกันใหม่ไม่รู้จักจบสิ้น ตอนนี้ที่จริงแล้ว รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์น่าจะอยู่อย่างสบาย เพราะฝ่ายค้านทำอะไรไม่ได้เท่าไร เพราะพลังฐานฝ่ายค้านไม่ได้แน่น ไม่ได้เหนือ จำนวนส.ส.ก็ต่ำกว่าฝ่ายรัฐบาลแล้ว
จึงยากที่จะไปแตะต้องรัฐบาลให้เซ ให้ล้มได้ แต่รัฐบาลก็เรียกว่า ทำจนกระทั่งท่านดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกเบื่อ จะเบื่อการเมืองหรือไม่ อาตมาว่า ใครเบื่อการเมืองก่อนสบายก่อน แต่ถ้าเบื่อๆอยากๆก็ลำบากกันไปก่อน นี่แหละเรื่องการเมืองเสน่หา มันมีเสน่ห์จริงๆที่ทำให้คนอายุมาก อายุน้อยอะไรก็แล้วแต่ ยังทะเยอทะยาน ยังต้องการที่จะได้ยศ ตำแหน่ง อำนาจและผลประโยชน์อย่างชนิดไม่มีคำว่า เจียมตัว เจียมอะไรกัน
มีแต่จะเหลิงไหล เหลิงหลงวนไปวนมาอยู่ในนั้น ไม่คิดถอยออกไป คนก็ไปติดอก ติดใจ ทุกข์ก็ตามขยี้ ชีวิตเสียความสว่าง สงบ กลับกลายเป็นเรื่องหวังกิน กาม เกียรติ อะไรกันไป ซึ่ง 3 ก กิน กาม เกียรตินี่ พอมากๆก็โกงกัน กัดกัน ทะเลาะกัน 3 ส คือ สว่าง สะอาด สงบ นี่ ถ้าคนหันมาชื่นชอบ 3 ส เมื่อไร โลกทั้งโลกจะน่าอยู่กว่านี้เยอะ
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login