คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 13 พ.ค. 63)
มีข่าวความเคลื่อนไหวของนักศึกษาว่า จะออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังเจ้าโรคไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งการเมืองนอกสภาหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตัดสินใจไม่ยอมต่ออายุ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ที่จะครบกำหนด 31 พ.ค. ที่อาจส่งผลให้การเมืองนอกสภาฯ กลับมาขยับได้อีกรอบ
โดยเฉพาะมีการคาดหมายและประเมินกันทางการเมืองว่า ถึงเวลานั้น แฟลชม็อบ-นักศึกษา ที่เคยพรึ่บกันหลายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ภายใต้การชูสโลแกน ไม่เอารัฐบาลท่านนายกฯพล.อ.ประยุทธ์และผลักดันให้แก้ไขรัฐธรรมนูญจะกลับมาอีกรอบ ซึ่งดูได้จากความเคลื่อนไหวเมื่อวันเสาร์ที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า เครือข่ายจัดตั้งแฟลชม็อบดังกล่าว ได้ประกาศจัดตั้ง เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ คนป.
แม้ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นระบบ เพราะคงรอให้สถานการณ์โควิดคลี่คลายลงเสียก่อน แต่ก็แสดงท่าทีทางการเมืองไว้แล้วถึงความเห็นต่อรัฐบาลชุดนี้ เช่น ระบุว่าการแก้ปัญหาโควิดของรัฐบาล ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างร้ายแรง นักวิเคราะห์การเมืองเห็นแบบนี้แล้ว คาดการณ์ได้ว่า การเคลื่อนไหวของแฟลชม็อบ-นักศึกษา น่าจะกลับมาอีกรอบยามเมื่อวิกฤติโควิดคลี่คลาย
งานนี้ต้องเรียกว่า กองทัพของนักศึกษาเริ่มขยับเขยื้อน แต่ไม่สงสาร ไม่เห็นใจก็ไม่ว่าน่ะ แต่นี่ใจดำจะออกมาไล่กันอีกหรือ ยังไงขอให้บ้านเมืองหมดเคราะห์ หมดโศก หมดเวร หมดกรรม อย่าให้มีคำว่า พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก เรามีความเสียหายในบ้านเมืองเกิดขึ้นแต่ละครั้งเสียหายอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ม็อบเสื้อเหลือง เสื้อแดง
แต่ตอนนี้ไม่มีเสื้อแดงมาไล่รัฐบาลอะไรก็แล้วแต่ ขณะนี้ไม่มีใครคิดที่จะไล่ท่านนายกรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ แต่เกิดมีนักศึกษาคิดจะไล่ท่านนายกรัฐมนตรี จะเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่กัน ยังไงขอให้มันเลยๆไปสักพักได้หรือไม่ ให้ลืมปากอ้าปาก เพราะตอนนี้การค้า การขาย เศรษฐกิจมันทรุดหายระเนระนาด ดูแล้วความเสียหายจำนวนมหาศาล เรียกว่า เป็นล้านๆจากวิกฤตเจ้าไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่น้อย
แต่ถ้าหากว่า มีเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในทำนองที่ทำให้ชาติบ้านเมืองเกิดความปั่นป่วน มีการปราบปรามนักเรียน นักศึกษาอย่างรุนแรง หรือนักศึกษาขับไล่อย่างรุนแรง เรียกว่า แรงมา แรงไป ประเทศหมดแรง ประชาชนเดือดร้อน ยุ่งยาก ลำบากสาหัสสากรรจ์ เพราะฉะนั้น ขอให้เราได้คิด ยั้งคิด อย่าเพิ่งทำอะไรให้มันวิปริต วิปลาสในตอนนี้เลย ปล่อยให้ชาติบ้านเมืองได้ฟื้น ผู้บริหารประเทศได้มีสมาธิ อย่าขู่ อย่ากวน อย่าป่วน อย่าปั่นอะไรกันขึ้นมาให้มันยุ่งยาก
ช่วงนี้ เราก็หวังกันว่า อะไรๆจะเดินหน้า การค้าต่างๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ของกิน ของใช้อื่นๆ พวกก่อสร้าง ถึงแม้ว่า จะไม่กระทบ แต่อย่าให้สิ่งเหล่านี้มันยับเยินมากไปกว่านี้เลย มันควรที่จะหยุดยั้ง ลืมตาอ้าปากมาให้โอกาสกับประเทศชาติได้ฟื้นตัว ได้เดินหน้า การค้า การขายสะดวก ไม่มีอะไรที่จะมาซ้ำเติมให้ชาติบ้านเมืองต้องยุ่งเหยิงก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
อาตมาก็หวังว่า การที่นักศึกษาจะชุมนุมก็สามารถชุมนุมได้ ไม่มีใครจะขวาง จะขัด แต่ว่า ชุมนุมแล้วจะเกิดสงบหรือเกิดวิบัติ เกิดความขัดแย้งรุนแรงหรือว่า มันจะสงบราบรื่นอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าท่อน้ำเลี้ยงหรืออะไรต่างๆนาๆจะขนกันมากิน มาใช้ในช่วงชุมนุมกันอย่างไร แต่หวังว่า คงไม่มีถึงลักษณะเหมือนท่อน้ำเลี้ยงเหมือนม็อบเสื้อเหลือง เสื้อแดง ซึ่งช่วงนั้นท่อน้ำเลี้ยงที่ให้การสนับสนุนเยอะมาก
แล้วใครที่คิดจะเป็นท่อน้ำให้ใครชุมนุมยึดถนนหนทาง การค้า การขาย จราจรติดขัดวุ่นวาย ยุ่งยาก ลำบาก ยังไงถ้าคิดจะไล่ท่านนายกรัฐมนตรี แล้วมองใครหรือยังที่จะมาแทนที่ช่วงนี้สักนิดหนึ่ง ยังไงเขาบอกว่า อย่าให้สิ้นงาฆ่าโคทึก พอสิ้นศึกฆ่าขุนพล เรียกว่า สู้ศึกโควิดมาแทบแย่ พอโควิดตาย ขุนพลน่าจะได้เป็นฮีโร่ แต่กลับมาถูกขับไล่ มันแลดูยังไงๆชอบกลเหมือนกันนะ
ก็ลองคิดกันดูให้ดี คิดว่า ถ้าเขาไม่สมควรเป็นอย่างที่แล้วๆมาก็อย่าไปทำให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเหตุการณ์เดือนตุลาฯหรือพฤษภาทมิฬ เสียชีวิตกันไปมากมาย อาตมาหวังว่า คราวนี้คงทำให้เกิดสติปัญญาและเกิดความรอบคอบและจบลงด้วยดี
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login