วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

วิกฤต-วิปริต

On May 1, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 1 พ.ค. 63)

พิษเศรษฐกิจทำให้ทั่วโลกและประเทศไทยได้รับผลกระทบตกต่ำกันไป ยิ่งมาเจอเจ้าโควิด-19 เศรษฐกิจออกฤทธิ์ ออกเดช อาละวาด เรียกว่า กิจการต่างๆหลายอย่างถูกปิดไป เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หลายฉบับ แม้กระทั่งผู้ประกอบการปากกาเลเซอร์ที่เราเคยใช้มาหลายสิบปียังต้องปิดกิจการชั่วคราว เพราะไม่มียอดสั่งซื้อ หรือก่อนหน้านี้มีฟิล์มสีโกดักอะไรต่างๆที่มีพนักงานเป็นแสนคนใครจะนึกว่า ปิดหมด

รวมแล้วต้องบอกว่า ตอนนี้บริษัทห้างร้านบางอย่างปิดตัวตายไปแล้ว ปิดผสมโรงไปกับเคอร์ฟิวหรืออะไรที่ไม่ควรให้หยุดแต่ก็ต้องหยุดไปซะแล้ว เรียกว่า ผีซ้ำด้ำพลอย พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรกซัดกระหน่ำ สิ่งต่างๆ ซึ่งเราไม่เคยคิดว่า มันจะมาถึงขั้นนี้ โดยธรรมชาติมาแต่ก่อนนั้นไม่มีเจ้าโควิดนี่ เศรษฐกิจก็เริ่มแย่กันมาแล้ว แต่พอมาเจอเจ้าโควิดทำให้หนักไป 2 เท่า 3 เท่า เลยต้องเศร้าจากวงการทิ้งกันไป ลูกน้องพนักงานต้องลำบาก ลำบน

วันนี้ อาตมาเพิ่งได้รู้ข่าวว่า สาหัสที่สุดก็เห็นจะเป็นวัดขาดแคลน ไม่นึกเลยว่า เจ้าความแห้งแล้งนี่ มีพระวัดหนึ่งที่โคราช เจ้าอาวาสมีพระลูกวัดหลายองค์ เมื่อขาดน้ำบิณฑบาตไม่ค่อยได้ เจ้าอาวาสเลยบอกพระลูกวัดว่า จะไปไหนซักพักกันหน่อยได้มั้ย จะไปอยู่ในเมือง ในกรุงเทพฯ ก่อนได้มั้ย แล้วเมื่อเศรษฐกิจอะไรปรกติ ค่อยกลับมา

ต้องเรียกกันว่า ความฝืดเคือง ขัดสน ได้ลามมาถึงในวัด ในวา ห้างร้าน บริษัทอาชีพต่างๆ เรียกว่า สาหัสสากรรจ์ ที่จริงเราว่าเจ้าโควิด-19 แรงๆ แต่แล้งก็หนักหนา จะครั้นความแห้งแล้งโถมมาแล้วโดนพายุมากระหน่ำ ทำให้บ้านเรือนพังกันไปหลายหลัง รัฐบาลจะเอาเงินมาเยียวยาทุกอย่างคงจะไปไม่รอด และเงินเยียวยาเป็นเงินตาย ไม่มีเงิน เขาเรียกว่า ผลผลิต มีแต่ประทังชีวิต ผลผลิตไม่มี ต้นไม้ไม่ตาย แต่ร่อแร่ ใบแห้ง ใบเหี่ยว ไม่ตาย แต่มันให้ผลผลิตไม่ได้

เพราะต้นมันเหี่ยวแห้งเกือบจะตาย ไม่ตายแล้ว มันจะให้ผลิตผลอะไรขึ้นมาได้ อันนี้เป็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า คงจะอยู่กันลำบาก สาหัสแน่ๆ เพียงแต่ว่า เราจะประทังกันอย่างไร ช่วยเหลือกันอย่างไร เอาล่ะ อาตมาเห็นคนไทยก็ยังดี พอถึงคราวคับขันก็ช่วยเหลือเจือจางกัน ตอนนี้วัดที่บางใหญ่ เจ้าคณะอำเภอท่านก็ฉลาด เงินพระเมื่อก่อนที่จะเกิดเจ้าโควิดนี่ ตั้งเป็นเหมือนกองทุน กองกลางชุบชีวิตยามตกอับ แจกข้าวสาร แจกข้าว แจกของเลี้ยงดูกันตามยถากรรมว่าอย่างนั้นเถอะ แต่ก็มีคนโชคดีที่มีทุนสำรองไว้

ดังนั้นการบริหารชีวิต บริหารเศรษฐกิจจังหวัดอะไรก็ตาม บริษัทอะไรก็ตาม ถ้าตั้งกองทุน ซึ่งที่วัดสวนแก้วก็ตั้งกองทุนชุบชีวิตยามตกอับ ก็มีคนตกงานอะไรต่างๆมาพึ่งพึงกันเรื่อยๆ ต้องเรียกกันว่า ชีวิตดีขึ้นๆ ตกอับยามขัดสนฝืดเคืองข้นแค้นมากมาย ที่เรียกว่า อยู่กันไม่ได้ก็ลำบาก แต่ว่า คราวนี้เป็นผลดีก็ยังต้องนึกถึงความลักษณะประมาท เกินเล่น เกินเที่ยว เกินกินหรูอยู่แพง จะได้รู้ว่า การดำเนินชีวิตที่ไม่ถูกทางก็เป็นไปลักษณะคำว่า ชินแล้ว หลงไปแล้ว ยากที่จะกลับเนื้อ กลับตัว ทำให้ชีวิตเหมือนแต่ก่อนได้

ช่วงนี้มันกระหน่ำซ้ำเติมหลายด้าน จะเป็นภัยแล้ง จะเป็นโรคภัย หรือจะเป็นความวิปริตของมนุษย์ เรียกว่า ทั้งวิกฤตและวิปริต มีพฤติกรรมประหลาดๆ แปลกๆ ชอบความเสื่อม นิยมยาบ้า เหล้ายา ซึ่งเป็นของที่ไม่ได้สร้างสรรค์พัฒนาชีวิต มีแต่ทำให้ชีวิตตกต่ำจม แต่พวกนี้ก็โง่ ทำให้ชีวิตหลงผิด ทำผิด ติดเหล้า ติดยากันไป ติดอย่างชนิดที่เรียกกันว่า ขอเงินพ่อแม่ไม่ได้ก็ทุบตีเอา นี่มันวิปริต มีการพูดกันมานมนานแล้วว่า ถ้ายุคไหนสมัยใดมนุษย์ไร้ศีลธรรม ไม่ประกอบด้วยศีลธรรม วิกฤตต่างๆ โรคร้าย ข้าวของแพง ข้าวยากหมากแพง และฝนฟ้าแล้งกระหน่ำซ้ำเติมแทบทุกด้าย อยู่ยากลำบากมากขึ้น ข้นแค้นฝืดเคืองจนอะไรทั้งหมด

ทั้งหมด ทั้งสิ้นนี่ไม่ร้ายเท่ากับจนปัญญา ถ้าคนไม่จนปัญญา เหล้าและยาบ้าก็ขายไม่ได้ ที่มันยังขายได้ เพราะคนมันจนปัญญา อาตมาได้ยินคนหนึ่งมันได้เงิน 5 พันบาท มันก็ไปกินเหล้า เรียกว่า กินเหล้าอย่างสบายใจเลย มันบอกว่า อย่างดีก็คอไม่เป็นทองแดง ได้ดื่ม ได้กิน ได้ชิม พูดในลักษณะเสียดายเงินแทนรัฐบาล แต่อย่างว่า โชคดีก็ไปอยู่กับพวกเจ้าสัวที่ผลิตน้ำเมาร่ำรวยกันไปตามๆกัน เพราะคนจนปัญญาเลยทำให้คนรวย เจ้าสัวรวยสบายกันถ้วนหน้ากัน ขอฝากคนจนๆทั้งหลายไม่นึกถึงกระดูกสันหลังของชาติ ใครมันเอาเนื้อไปหมด พวกรับจ้าง กรรมกร ทำไมเลิกไม่ได้ เอาล่ะ ไม่มีขาย ไม่มีเงินซื้อ จะเลิกได้ หรือไม่ได้ก็ได้รู้เห็นดำ ดังนั้น คนที่ยังไม่ได้ติดก็ขอให้รักษาชีวิตให้หลุดจากของมึนเมา หลุดจากหนี้สิน หลุดจากความยากจน หลุดจากความโง่เขลาให้ได้ถ้วนหน้ากัน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login