- เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปPosted 15 hours ago
- รับผลกรรมที่ได้กระทำPosted 2 days ago
- อีกไม่นานต้องจบPosted 5 days ago
- มาสนใจกีฬาให้ยาบ้าหายไปPosted 6 days ago
- ฝึกต้อนรับให้ดีจะมีสิ่งที่ดีPosted 7 days ago
- ต้องกวาดล้างสิ่งสกปรกPosted 1 week ago
- อย่าเอายศไปทำความอัปยศPosted 2 weeks ago
- แนะพระอย่าลืม 4 รักPosted 2 weeks ago
- ยิ้มไว้ไม่ทุกข์สนุกดีPosted 2 weeks ago
- กวาดล้างพวกขี้เหล้า-เมายาPosted 2 weeks ago
“ไส้ติ่ง”เล็กพริกขี้หนูแต่อันตรายถึงชีวิต
คอลัมน์ : โลกสุขภาพ
ผู้เขียน : คณะศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระรามเก้า
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 20-27 ธันวาคม 2562)
“ปวดท้องมากขนาดนี้เป็นไส้ติ่งหรือเปล่า” เราอาจเคยได้ยินคำถามแบบนี้กันมาบ้างเมื่อตัวเราเองหรือคนที่อยู่ข้างๆเรามีอาการปวดท้องมากๆ แต่อาการปวดท้องเป็นอาการเบื้องต้นของหลายๆโรค แล้วอาการแบบไหนถึงจะเป็นอาการปวดท้องไส้ติ่ง ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ “ไส้ติ่ง” อวัยวะเล็กๆแต่อันตรายมากหากไส้ติ่งแตก
ไส้ติ่ง เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของทางเดินอาหารที่อยู่บริเวณท้องด้านล่างขวาติดกับลำไส้ใหญ่ ไม่ได้มีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย แต่หากเกิดการอุดตันแล้วละก็…เรื่องใหญ่ เพราะจะเกิดการอักเสบจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยอาการปวดท้องจากไส้ติ่งจะปวดท้องมาก เริ่มแรกอาจปวดเป็นพักๆรอบสะดือคล้ายโรคกระเพาะหรือท้องเดิน อาจจะเข้าห้องน้ำบ่อยแต่ถ่ายไม่ออก หรือบางคนอาจมีอาการท้องเดินร่วมด้วย อาการปวดถึงแม้จะกินยาแก้ปวดอะไรก็ไม่หาย ต่อมาอีก 3-4 ชั่วโมง อาการปวดจะย้ายมาที่ท้องน้อยข้างขวา ลักษณะปวดเสียดตลอดเวลา ต้องนอนนิ่งๆ หากเคลื่อนไหวตัวจะทำให้ปวดมาก
ผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และมีไข้ต่ำๆ บางคนถ้าเป็นมากต้องนอนงอขาตะแคงไปข้างหนึ่ง หรือเวลาเดินต้องเดินตัวงอจึงจะรู้สึกสบายขึ้น อาการจะเป็นอยู่นับชั่วโมงถึงหลายวัน บางคนอาจมีอาการปวดท้องน้อยด้านขวาโดยไม่มีอาการอื่นนำมาก่อนเลยก็ได้จนนำไปสู่ภาวะไส้ติ่งแตกในที่สุด ดังนั้น ผู้ป่วยโรคไส้ติ่งอักเสบควรรีบไปพบแพทย์ เพราะหากเข้าสู่ระยะรุนแรงไส้ติ่งอาจแตกได้ภายใน 48-72 ชั่วโมง ซึ่งจะต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ การเกิดไส้ติ่งอักเสบเป็นภาวะทางการแพทย์ที่รุนแรงจากไส้ติ่งซึ่งเป็นอวัยวะขนาดเล็กคล้ายนิ้วมือติดอยู่กับลำไส้ใหญ่เกิดการบวมและอักเสบ โดยสาเหตุของไส้ติ่งอักเสบยังไม่แน่ชัด แต่พบว่าส่วนมากแล้วไส้ติ่งเกิดการอักเสบเมื่อมีเศษอาหารหรืออุจจาระอุดอยู่ในไส้ติ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ไส้ติ่งอักเสบได้รวดเร็วและแตกได้ง่ายขึ้นด้วย
โดยวิธีการรักษาไส้ติ่งในปัจจุบันสามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง ซึ่งเป็นการผ่าตัดโดยการเจาะผิวหนังเป็นรูเล็กๆเพื่อสอดกล้องและเครื่องมือผ่าตัดเข้าไปในช่องท้อง โดยรอยแผลจะมีขนาดเล็กประมาณ 1-2 เซนติเมตร ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดโดยเห็นภาพที่ชัดเจนผ่านจอภาพ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว เนื่องจากแผลมีขนาดเล็ก แต่การจะเลือกใช้วิธีการผ่าตัดส่องกล้องหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของโรค ความรุนแรง ความเสี่ยง โดยประเมินจากสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วโรคที่เกิดในช่องท้องสามารถผ่าตัดส่องกล้องได้ รวมถึงโรคไส้ติ่งอักเสบด้วย
You must be logged in to post a comment Login