วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

กลุ่มเซ็นทรัลร่วมกับกทม. จัดงาน“แบงค็อก คาร์ ฟรี เดย์ 2019”

On October 3, 2019

บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด นำโดย สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา พร้อมด้วย สุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักนโยบายองค์การสัมพันธ์และภาพลักษณ์ ในฐานะภาคีหลักโครงการส่งเสริมการเดินทางอย่างยั่งยืน โดยมี สกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี จัดกิจกรรมปั่นจักรยานรณรงค์เนื่องในวัน “Bangkok Car Free Day 2019” หรือ วันปลอดรถสากล ภายใต้คำขวัญ “เดินทางร่วมกัน วันพาหนะส่วนรวม” นำพนักงานอาสาร่วมสร้างพลังมวลชนให้สังคมเห็นความสำคัญในการลดการใช้พลังงาน พร้อมมอบจักรยาน 200 คันให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ห่างไกล พร้อมทั้งมอบรถวีลแชร์และวีลแชร์ไฟฟ้าให้กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีขบวนจักรยาน 2,000 คัน ร่วมขบวนปั่นรณรงค์ รวมระยะทางทั้งสิ้น 10.19 กิโลเมตร จากหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก วาลเดอมาร์ ดูบันยอฟสกี้ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปแลนด์ประจำประเทศไทย และภริยา อีวา ดูบันยอฟสก้า, ซิลเวสเตอร์ บุช เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย, สมันตา เค. ชยสุริยะ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย, ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 และนางงามจาก Miss Universe Thailand นำโดย หนุ๋มหนิม-ณัฐวรรณ มัชฌิมวงศ์, บิว-ณัฏฐา ทองแก้ว, บีน่า-พิมพ์ณดา กิตติวิศาลวงศ์, ซาร่าห์-ดวงเดือน คอลลินส์, มะปราง-ณัฐณิชา ผ่องสุวรรณ และ แครอท-สาลิกา ฟอร์เมิร์ต พร้อมผู้แทนทางการทูตและหน่วยงานภาครัฐร่วมปั่นรณรงค์

2

สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า สำหรับงาน Bangkok Car Free Day 2019 ปีนี้นับเป็นปีที่ 5 ที่ทาง “กลุ่มเซ็นทรัล” ได้เข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในโครงการส่งเสริมการเดินทางอย่างยั่งยืน “Bangkok Car Free Day 2019” ร่วมกับ “สำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร” เครือข่ายพันธมิตรตามโครงการฯ ทั้งในภาครัฐและเอกชนมาโดยตลอด โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดปริมาณการใช้รถยนต์บนท้องถนน ลดปัญหาการจราจรติดขัด ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดปัญหามลพิษทางอากาศและเสียงจากยานพาหนะ รวมทั้งยกระดับคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น รวมทั้งในกิจกรรมวันนี้ จักรยานที่นำมาใช้รณรงค์ จำนวน 200 คัน จะมอบให้กับ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ห่างไกล พร้อมทั้งรถวีลแชร์และวีลแชร์ไฟฟ้า ให้กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อีกด้วย

3

ด้าน สุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักนโยบายองค์การสัมพันธ์และภาพลักษณ์ กล่าวว่า ภายใต้โครงการ “Central group love the earth” “บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล” เราได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยได้เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเชิญชวน คณะทำงานและพนักงานอาสากลุ่มเซ็นทรัลมากกว่า 250 คน พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐ และสถานเอกอัครราชทูต เหล่านางงามจากเวทีมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส เข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์ เพื่อสร้างพลังมวลชนให้สังคมเห็นความสำคัญในการลดการใช้พลังงาน อันเป็นนโยบายสำคัญที่คณะกรรมการบริหาร บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล ได้มอบหมายให้ถือปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน

5

สกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หลังจากที่ กทม. ได้ประสบกับปัญหาด้านการจราจรติดขัดรุนแรง เป็นผลอันเนื่องมาจากความต้องการในการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น และการเดินทางยังต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนบุคคลเป็นส่วนใหญ่ กรุงเทพมหานครจึงมุ่งหวังที่จะพัฒนาการเดินทางในกรุงเทพฯ และพื้นที่เกี่ยวเนื่องให้เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาระบบการจราจรและขนส่งอย่างยั่งยืน (Sustainable Transport) มาใช้รองรับปริมาณและความต้องการการเดินทางของชาวกรุงเทพฯ ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

4

ทางด้าน ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 กล่าวว่า เวลาอยู่ในกรุงเทพฯ จะใช้บริการรถสาธารณะเป็นหลัก เพราะหลังจากได้ตำแหน่งเรามีประสบการณ์ในการใช้รถยนต์ทำให้สัมผัสได้ว่ารถติดมาก และในกรุงเทพมหานครตนจะไม่ขับรถ และรู้สึกว่ามีทางเลือกในการเดินทางหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน และเรือ ซึ่งเวลาขึ้น BTS หรือ MRT ทำให้เรากำหนดเวลาเดินทางได้ แต่ส่วนตัวจะใช้รถเมล์และ MRT บ่อยที่สุด ในช่วงเวลาเร่งด่วนจึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาใช้บริการรถสาธารณะ โดยเฉพาะ MRT และ BTS แล้วคุณจะได้รู้ว่าใช้เวลาเดินทางน้อยกว่านั่งรถยนต์ส่วนตัวมาก และที่สำคัญคือทำให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการลดโลกร้อน และลดการใช้พลังงาน

7

สำหรับ บีน่า-พิมพ์ณดา กิตติวิศาลวงศ์ กล่าวว่า ด้วยความที่บ้านอยู่กลางเมือง จึงทำให้มีโอกาสใช้บริการรถสาธารณะบ่อยที่สุด และเหมาะสมกับตนเองที่สุด ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรถเมล์, รถไฟฟ้า และ รถไฟใต้ดิน ใช้ทุกประเภท ข้อดีของการใช้รถสาธารณะคือประหยัด ปลอดภัย และได้เป็นส่วนหนึ่งในการลดมลพิษ ง่ายๆ เลยคือถ้าจุดหมายปลายทางของเราสามารถเดินทางด้วย BTS, MRT ได้ หรือไปแค่ใกล้ๆ ก็ใช้รถเมล์หรือจักรยานแทนรถยนต์


You must be logged in to post a comment Login