วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

INSET ปลื้มขายไอพีโอ 146 ล้านหุ้นเกลี้ยง นักลงทุนมั่นใจเป็นหุ้น Growth Stock

On October 1, 2019

นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นไอพีโอของบริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 146 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.69 บาท รวมเป็นเงินมูลค่า 392.74 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 27, 30 กันยายน และ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก มียอดจองซื้อหุ้น IPO เข้ามาเต็มทั้งจำนวน ถือว่าประสบความสำเร็จ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อธุรกิจของ INSET

“การจองซื้อหุ้นไอพีโอของ INSET ประสบความสำเร็จและมีกระแสตอบรับดีมากๆ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ INSET ที่ถือเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีการให้บริการที่ครบวงจรในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต อย่างไรก็ตาม การระดมทุนในตลาดทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้ INSET แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ราคาไอพีโอที่ 2.69 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับการลงทุนในระยะยาว” นายเล็กกล่าว

ทั้งนี้ หุ้น INSET เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 8 ตุลาคม 2562 นี้ โดยอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า INSET

นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการขยายธุรกิจ เช่น โครงการก่อสร้างโครงข่ายท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 และโครงการวางระบบเครือข่ายรวมถึงอุปกรณ์ WiFi (โครงการ  Google Station) รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และมีความมั่นใจว่าหลังจากการเสนอขายหุ้นจะทำให้มีศักยภาพในการประมูลในโครงการขนาดใหญ่ หนุนการเติบโตในอนาคตอีกด้วย

“การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของบริษัทในการเติบโตในอนาคต อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรและคู่ค้า ผลักดันรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตให้กับนักลงทุน ที่สำคัญคือในปัจจุบันบริษัทมี Backlog ในมือมากถึง 2.7 พันล้านบาท เท่ากับมีฐานรายได้รอรับรู้เอาไว้แล้ว โดยจะรับรู้รายได้จากงานโครงการในระยะเวลา 2-3 ปีจากนี้ และรับรู้ recurring income อีกประมาณ 5 ปีจากนี้”

นายศักดิ์บวรกล่าวอีกว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการใช้ศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น เพื่อรองรับระบบเทคโนโลยีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงจากระดับ 4G เป็น 5G รวมทั้งในอนาคตจะมีการพัฒนาตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับสถานการณ์กระแสโลกในปัจจุบัน

อนึ่ง INSET มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจ  3 ประเภท ประกอบด้วย ธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Data Center & Information Technology Infrastructure) ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคม (Telecommunication Infrastructure) และธุรกิจงานซ่อมบำรุงและบริการ (Maintenance and Service) ด้านศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงโครงข่ายโทรคมนาคม


You must be logged in to post a comment Login