วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

INSET เคาะราคาไอพีโอ 2.69 บาท เสนอขาย 27,30 ก.ย. และ 1 ต.ค.-เทรด 8 ต.ค.นี้

On September 25, 2019

นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นไอพีโอของบริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 146 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.69 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 27, 30 กันยายน และวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 8 ตุลาคม 2562 ในกลุ่มเทคโนโลยี โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า INSET

สำหรับการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 5 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด

ส่วนการกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอของ INSET ที่ระดับ 2.69 บาท/หุ้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่มีความเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากสะท้อนปัจจัยพื้นฐานของบริษัท โดยพิจารณาจากการเติบโตของรายได้และการทำกำไรต่อเนื่อง ฐานะทางการเงินมั่นคง ประกอบกับ Backlog มีมูลค่าสูงถึง 2.7 พันล้านบาท และปัจจัยสนับสนุนด้านภาพรวมนโยบายของภาครัฐเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมและคมนาคม

นางยอดฤดี สันตติกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน INSET มั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทุกประเภท เนื่องจากเป็นหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ขณะเดียวกัน INSET ดำเนินธุรกิจและให้บริการแบบครบวงจร ซึ่งแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง จึงมั่นใจว่าจะเป็นหุ้นที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างแน่นอน

นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการขยายธุรกิจ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างโครงข่ายท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 และโครงการวางระบบเครือข่ายรวมถึงอุปกรณ์ WiFi (โครงการ  Google Station) รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทต่อไป

“การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยรองรับโครงการลงทุนต่างๆทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงจะช่วยเพิ่มฐานทุนให้บริษัทมีศักยภาพในการเข้าประมูลงานในโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีโครงการในมือรอรับรู้รายได้ประมาณ 2.7 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทรักษาผลประกอบการให้อยู่ในระดับที่ดี สม่ำเสมอ และต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ยังไม่นับรวมโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาที่คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีอัตราการเติบโตของรายได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง” นายศักดิ์บวรกล่าว

อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2559-2561 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 451.36 ล้านบาท 530.29 ล้านบาท และ 1,007.12 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 43.14 ล้านบาท 63.91 ล้านบาท และ 94.56 ล้านบาท ตามลำดับ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และในงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2561 และปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 452.66 ล้านบาท และ 577.68 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจำนวน 31.18 ล้านบาท และ 46.57 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากรายได้จากธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รองลงมาเป็นรายได้จากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคม


You must be logged in to post a comment Login