วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567

“สรรเสริญ”หวังบทเรียนอังค์ถัดรับมือปฏิวัติอุตสาหกรรมรอบ4

On September 7, 2019

ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการสัมมนาหัวข้อ “การค้า เทคโนโลยี และความตึงเครียดในอนาคต : โอกาสและภัยคุกคามไร้ขอบเขต” ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือไอทีดี เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมาว่า จะนำบทสรุปและมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆบนเวทีสัมมนามาสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ และนำมาช่วยผลักดันนโยบายสำคัญของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อาทิ การส่งออก การพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่ การพัฒนาภาคบริการ การหนุนการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) รวมถึงการคาดการณ์ผลกระทบต่อผู้บริโภคและผลจากสงครามการค้ายุคใหม่

1567810997980 ทั้งนี้ ดร.สรรเสริญ ร่วมกับ ดร.มูคิสะ คิทูยี เลขาธิการอังค์ถัด ร่วมเป็นประธานเปิดเวทีการประชุมทางวิชาการนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมวิชาการระดับภูมิภาคว่าด้วยการค้าและการพัฒนาประจำปี 2562 และเป็นการฉลองครบ 19 ปีไอทีดี ซึ่งเป็นเจ้าภาพ โดยมีผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆจากทั่วโลกมาร่วมสะท้อนประเด็นที่อยู่ในกระแสสำคัญของโลก อาทิ ความตึงเครียดทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศที่กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมกับแนวโน้มการอุบัติขึ้นของเทคโนโลยีและนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นมากมาย โดยอังค์ถัดและไอทีดีคาดหวังว่าผลจากเวทีสัมมนาจะกระตุ้นให้ประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียร่วมกำหนดแผนปฏิบัติการการค้าและการลงทุนเพื่อสนองตอบต่อโลกยุคใหม่และการพัฒนาที่ยั่งยืน
สำหรับสภาวะโลกปัจจุบัน ไอทีดีรายงานว่า โลกกำลังเผชิญกับกระแสโลกาภิวัตน์ที่รุนแรง (Hyper-Globalization) การปฏิวัติอุตสาหกรรมรอบที่ 4 (4th Industrial Revolution) การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) ซึ่งเป็นหนึ่งใน Mega Trends ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ และอาจส่งผลกระทบทางลบต่อสังคม เช่น เกิดความเหลื่อมล้ำและการว่างงานที่สูงขึ้น แต่ก็นับว่าเป็นช่องว่างเปิดโอกาสสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ด้วยเหตุนี้การเชื่อมโยงการค้า การลงทุน และการพัฒนาเข้าด้วยกันที่จะช่วยส่งเสริมให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้นั้น จะต้องอาศัยกระบวนทัศน์และระบบการคิดใหม่ทั้งในเชิงนโยบายและความร่วมมือภาคีเครือข่ายต่างๆ โดยสรุปสาระสำคัญในการสัมมนาทั้ง 4 ช่วงได้ดังนี้

ช่วงที่ 1 การเตรียมก้าวเข้าสู่ปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไร้การใช้ธนบัตร (Demonetized Economy) ที่ต้องมีการออกข้อกฎหมายให้รองรับ และต้องศึกษาหาแนวทางสำคัญในการควบคุมและกำกับดูแลด้านการเงินให้กับรัฐบาลอื่นๆต่อไปในอนาคต

ช่วงที่ 2 ปัญญาประดิษฐ์ AI ความท้าทายใหม่ในโลกแห่งอนาคตที่จะช่วยกำหนดทิศทางของพัฒนาการของเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน รวมถึงการพัฒนาต่างๆ เช่น ระบบการค้าพหุภาคี ความไม่เสมอภาคทางสังคม การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความวิตกกังวลว่าเราจะได้รับผลกระทบอย่างไรจาก AI

ช่วงที่ 3 สังคมอนาคตกับบริบทเทคโนโลยี ใครเป็นผู้กำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลง บทบาทของเทคโนโลยี ทั้งในเรื่องการสร้างงาน การให้สวัสดิการทางสังคม จนถึงคำถามสำคัญว่า เราจะต้องมีขีดความสามารถอะไรในยุคของ AI ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ๆ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ช่วงที่ 4 แบ่งปันมุมมองประสบการณ์กรณีตัวอย่างของการนำนโยบายด้านเทคโนโลยีและข้อกฎหมายมาใช้ เพื่อกำหนดนโยบายด้านการค้าและการพัฒนาของประเทศกำลังพัฒนา กรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ การประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลในการผลิตของภาคเกษตรและประมงที่ช่วยลดความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ ดร.สรรเสริญจะนำแนวคิดต่างๆมาช่วยเสริมนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ต่อไป


You must be logged in to post a comment Login