วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567

พศ.ยุครุ่งอรุณของธรรมะ

On August 28, 2019

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 28 ส.ค. 62)

เมื่อเร็วๆนี้ทราบข่าวว่าคณะผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นำโดยนายณรงค์ ทรงอารมณ์ นายจีรวิชญ์ นิยมธรรม รอง ผอ.พศ. นายประพันธ์ ตั้นวัฒนา นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้ตรวจการ พศ. พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พศ. เข้าร่วมโครงการ “เข้าวัด ทำดี วันธรรมสวนะ” เพื่อให้ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พศ. เป็นแบบอย่างในการเข้าวัดทำบุญในวันธรรมสวนะหรือวันพระ ที่วัดปุรณาวาส ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

นายณรงค์บอกว่า โครงการนี้จะดำเนินการต่อไปตลอดช่วงเข้าพรรษานี้เพื่อให้เป็นที่รู้จัก และ พศ. จะเป็นต้นแบบในการนำข้าราชการเข้าวัดทำบุญในวันพระให้กับหน่วยงานอื่นๆด้วย นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะเผยแพร่งานคณะสงฆ์ให้ประชาชนได้รับรู้มากขึ้นผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ เพราะที่ผ่านมาคณะสงฆ์ได้ทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนมาโดยตลอด ยกตัวอย่างเช่น โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 โครงการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อปต.) เป็นต้น แต่ยังขาดการประชาสัมพันธ์เท่าที่ควร ดังนั้น พศ. จะเข้ามาช่วยในด้านการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น

นอกจากนี้ในเดือนกันยายนนี้ พศ. จะเริ่มโครงการสภากาแฟ พศ. เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้บริหาร ข้าราชการ พศ. ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการในช่วงเช้าเวลา 07.00-08.00 น. ในลักษณะของสภากาแฟ เพื่อให้ผู้บริหารได้รับฟังปัญหาและความเห็นของข้าราชการ พศ. เป็นการเปิดโอกาสให้ข้าราชการ พศ. ได้เสนอมุมมองการทำงานของคนรุ่นใหม่อีกด้วย

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ต้องเรียกว่า พศ. เริ่มขยับตัว โดยการนำผู้บริหารและข้าราชการไปวัด ทำบุญ ฟังธรรมในวันธรรมสวนะหรือวันพระ ซึ่งเมื่อก่อนนี้ประเทศไทยทำบุญกันในวันพระ ต่อมาจัดกันในวันอาทิตย์แล้วก็หยุดหายกันไป แต่ถ้า พศ. เริ่มทำขึ้นจะได้เป็นแบบอย่างแก่ข้าราชการหน่วยอื่นๆ จะได้ลดข้อครหานินทาเรื่องปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน คนเราถ้าได้เจริญในข้อต่อไปนี้แล้ว เขาบอกว่าชาติก็จะเจริญไปด้วยคือ 1.เจริญกาย การได้ฟังธรรม ได้รู้วิธีการบริหารร่างกาย การนอนถ้านอนเป็น หลับด้วยอานาปานัสสติ ร่างกายก็จะฟื้นตัว แข็งแรง กระปรี้กระเปร่าได้ง่ายขึ้น

2.เจริญศีล เจริญธรรม ถ้าข้าราชการได้เจริญศีล เจริญธรรม ทุจริตคอร์รัปชันก็จะลดลง และ พศ. ที่มีปัญหาที่ผ่านมาเรื่องเงินทอน เปลี่ยนมาเป็นต้นแบบในการเข้าวัด ฟังเทศน์ ฟังธรรม จะได้นำหลักธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้าไปเผยแผ่ และจะทำงานเพื่อเผยแผ่ศาสนาให้ประชาชนเข้าถึงหลักธรรมมากขึ้น

ก็ต้องถือว่าเป็นความคิดที่ดีงาม และขอให้ทำตลอดไป หรืออย่างน้อย 3 เดือน ต้องทำอย่างจริงจังเคร่งครัด เป็นต้นแบบ เป็นตัวอย่าง อย่าไปเข้าวัดทำบุญเฉยๆ ต้องฟังเทศน์ ฟังธรรม น้อมนำเอาหลักธรรมคำสอนมาด้วย ไปวัดที่มีพระนักเทศน์ นักสอน นักบรรยายธรรม จะได้แตกฉาน อาจจะระงับปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เงินทอนได้บ้าง

3.เจริญจิต ถ้าจิตมีอานุภาพจะไม่ถูกความโลภเผาให้จิตอ่อนไหวไปกับเรื่องงก เรื่องความต้องการมั่งมี เอารวยแต่ไม่เอาเลิศ อันนี้สำคัญมาก ที่แล้วๆมาคนเราตะกละหิวแต่เรื่องเศรษฐีเงินทอง ไม่คิดถึงเรื่องเศรษฐีความดี เศรษฐีบารมี เห็นข่าวการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของคณะรัฐมนตรีที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่าตัวเลขกระฉูดไปไม่ใช่น้อย ถ้าได้เจริญจิตให้จิตมีอานุภาพก็จะระงับอารมณ์ต้องการอย่างไม่มีขอบเขต

นี่ถ้าไม่เกิดทุจริตคอร์รัปชันใน พศ. จนเป็นที่ฉาวโฉ่ ถ้า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการ พศ. ไม่ได้เข้ามา ไม่รู้ว่าจะเป็นแดนสนธยา โกงกินกันขนาดไหน ก็ต้องถือว่า เมื่อดีมาขับไล่ไม่ดี ร้ายผ่านไป ดีมาแทน จะทำให้พระศาสนามั่นคง ยั่งยืน อยู่เป็นที่พึ่งของสัตว์โลกต่อไป และความเจริญปัญญาจะเอาชนะความลุ่มหลงในเนื้อหนัง ในอะไรต่างๆ

ยุคนี้เรียกว่ารุ่งอรุณของธรรมะจะกลับมา จะสว่างกระจ่างแจ้งด้วยปัญญาคือ รู้เท่า รู้ทัน รู้แก้ รู้กันสันดานโกงได้อย่างแยบยลด้วยโยนิโสมนสิการ ถ้าฟังธรรมแล้วเอาไปใคร่ครวญ หวังว่าการเข้าวัดในวันพระ ฟังเทศน์ ฟังธรรม ทำบุญกัน คนที่คิดจะไปทำบุญ คิดจะช่วย จะให้ ย่อมไม่ห่างศีล ห่างธรรม จะทำให้ชีวิตมีแต่เรื่องดี

เพราะฉะนั้น ดีกับรวย ดีเลิศ ดีประเสริฐสุด กับรวยเฮงซวย ที่รวยแล้วโกง รวยแล้วไปพบกับคำว่ารวยผิดปกติ ต้องถูกยึดทรัพย์กันไปหลายรายแล้ว ดังนั้น ต้องให้เกิดปัญญา ดวงตาเห็นธรรม อย่าเห็นแก่การจะมีเงิน มีทอง มีข้าวของ ไม่เห็นภาวะเปรตที่เกิดขึ้นในจิตใจ เป็นเรื่องที่ต้องขออนุโมทนากับรองผู้อำนวยการและผู้บริหาร พศ. เป็นอย่างยิ่ง

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login