- กฎแห่งกรรมไม่หมดอายุPosted 23 hours ago
- อย่าหัวชนฝาPosted 2 days ago
- เปลี่ยนเป็นตลาดการค้าไวๆPosted 3 days ago
- มนุษย์เกิดมิคสัญญีที่ใจPosted 4 days ago
- ระวังเพื่อความปลอดภัยPosted 5 days ago
- ขอให้ฮึดสู้Posted 1 week ago
- สยบพวกอันธพาลให้ได้Posted 1 week ago
- อย่าทำอะไรมักง่ายPosted 1 week ago
- ผ้าเหลืองห่อเปรตPosted 2 weeks ago
- จงตั้งใจเรียนเพื่อพ่อแม่Posted 2 weeks ago
จิตแพทย์ห่วงเด็กไทยติดเกมอันดับต้นๆของโลกหนักสุดตายคาจอ
นพ.ยงยุทธ์ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ อดีตนายกสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกได้จัดภาวะติดเกมเป็นหนึ่งโรคทางจิตเวชที่ต้องได้รับการรักษา หรือเรียกว่าภาวะเสพติดพฤติกรรม ประเทศไทยจัดเป็นประเทศที่มีปัญหาเด็กติดเกมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เพราะพ่อแม่ขาดความเข้าใจ เลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์มือถือ ให้เล่นเกมเพื่อจะได้อยู่นิ่งๆและอยู่ในสายตา พอมากเกินไปทำให้เด็กมีปัญหาการติดเกม เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะวัยรุ่นชาย ทั้งนี้จากข้อมูลมีเด็กที่เข้ารับการปรึกษาปัญหาติดเกมอายุน้อยสุดอยู่ในวัยอนุบาล
“การติดเกมมีผลกระทบกับสุขภาพคือ 1.เสียสายตา 2.อ้วนมากเพราะขาดการเคลื่อนไหว 3.มีปัญหาสุขภาพจิต ไม่สื่อสาร ไม่เข้าสังคม หนีปัญหา พอเกิดปัญหาก็หนีไปหาเกม และที่หนักมากคือการติดเกมหนักไม่ยอมกินยอมนอน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ สูญเสียเกลือแร่และความสมดุลของร่างกาย ทำให้เกิดภาวะช็อก เสียชีวิตคาจอ ยิ่งถ้ามีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ถือว่าอันตรายเพิ่มขึ้นอีก”
นพ.ยงยุทธ์กล่าวอีกว่า ขอให้ผู้ปกครองเอาใจใส่บุตรหลาน ยึดหลัก 3 ต้อง 3 ไม่คือ 1.ต้องกำหนดเวลาเล่นไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน 2.ต้องตกลงโปรแกรมและเลือกประเภทเกมให้ลูก เช่น เกมบริหารสมอง ลดเกมที่เสี่ยงความก้าวร้าวอย่างการฆ่ากันยิงกัน พ่อแม่ต้องอยู่ด้วย 3.ต้องเล่นกับลูก เพื่อสอนให้คำแนะนำกันได้ ส่วน 3 ไม่ ได้แก่ 1.พ่อแม่ไม่เล่นเป็นตัวอย่าง 2.ไม่เล่นในเวลาครอบครัว และ 3.ไม่เล่นในห้องนอน
You must be logged in to post a comment Login