วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

“ธนาธร”รับว่าที่ส.ส.ถูกทาบทามยันไม่มีใครย้ายข้างแปรขั้ว

On March 29, 2019

ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ อาคารไทยซัมมิท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ถูกจับจ้องว่าจะมีงูเห่า ว่า ยอมรับว่า ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่โดนทาบทามจริงด้วยการให้ผลประโยชน์ต่างๆ แต่เชื่อว่า ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่เป็นกลุ่มคนที่รวมตัวกันด้วยความเชื่อและความฝันเดียวกันไม่ใช่กลุ่มคนที่รวมตัวกันเพราะอยากจะมีตำแหน่งทางการเมืองหรือผลประโยชน์ทางการเงิน จึงเชื่อมั่นว่า ว่าที่ ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ทุกคนจะยืนหยัดในหลักการที่เราร่วมก่อร่างสร้างพรรคนี้มาด้วยกัน และมั่นใจว่า ส.ส. พรรคอนาคตใหม่จะไม่มีใครย้ายข้างแปรขั้ว

นายธนาธร กล่าวว่า จำนวนของว่าที่ ส.ส. ที่โดนทาบทามนั้น เชื่อว่าสื่อมวลชนเองก็ทราบอยู่แล้ว ตนไม่จำเป็นต้องพูด แต่ยืนยันว่ามีการพูดคุยและให้ข้อเสนอจริง เนื่องจาก ส.ส. ของพรรคได้มีการแจ้งข้อมูลเข้ามาที่ส่วนกลาง ซึ่งการดำเนินการขั้นแรกจะรวบรวมข้อมูลเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนจะดำเนินการต่อไปอย่างไรนั้นจะนำไปหารือในการอบรมว่าที่ ส.ส. ใหม่ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 30-31 มี.ค.นี้ ที่จ.ชลบุรี ซึ่งต้องยอมรับว่า ว่าที่ ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมดไม่มีใครเคยเป็นส.ส.มาก่อน แม้การโหวตในสภาจะเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. จะทำอย่างไรไม่ให้มีการแตกแถวก็จะต้องไปอบรมถึงขอบเขตอำนาจหน้าที่ ไทม์ไลน์ที่จะเกิดขึ้น ระยะเวลาที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไปจนถึงการประชุมสภา จะต้องทำอะไรบ้างบทบาทของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร รวมถึงจะพูดคุยมาตรการในการทำงานร่วมกันให้เป็นปึกแผ่น เพื่อให้ความฝันของพรรคเป็นจริงนั้นคือการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.และการนำพาประเทศไทยไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้

เมื่อถามว่า การทาบทามเป็นแค่เพียงการโหวตนายกรัฐมนตรี หรือให้ไปร่วมทำงาน นายธนาธร กล่าวว่า มีหลายรูปแบบ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนและเรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับชื่อเสียงผู้สมัครแต่ละคน จึงขออนุญาตไม่ลงรายละเอียด ทั้งนี้คงไม่เหมือนพรรคเพื่อไทยที่จะให้ผู้สมัครเขียนใบลาออกล่วงหน้า เพราะเชื่อมั่นว่าพรรคของเรายึดมั่นด้วยอุดมการณ์ยึดโยงด้วยความคิด

นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ระบุว่า อยากให้หยุดวาทะกรรมฝั่งเผด็จการและฝั่งประชาธิปไตยนั้น ว่า พรรคที่นำเสนอแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีที่มาจากผู้ยึดอำนาจจากประชาชน พรรคที่ตั้งขึ้นมาโดยมีชื่อสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ยึดอำนาจมาจากประชาชนไม่ให้เรียกว่าสืบทอดอำนาจ ไม่ให้เรียกว่าพรรคที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาธิปไตยก็ไม่ทราบว่าจะเรียกว่าอะไรเช่นกัน

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่บ้างหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ได้คุย ก็อยากคุยกับอยู่เพราะคิดถึง

ทั้งนี้นายธนาธร เปิดเผยว่า ในเดือน เม.ย.พรรคอนาคตใหม่จะจัดคาราวานขอบคุณประชาชน ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยวันที่ 1-2 เม.ย. จะขึ้นขบวนรถแห่ขอบคุณประชาชนในภาคตะวันออก ประกอบด้วย จ. ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สมุทรปราการ จากนั้นวันที่ 3 เม.ย. ขอบคุณประชาชนในพื้นที่กทม. ทั้งสาม 10 เขตเลือกตั้ง ส่วนในวันที่ 6-7 เม.ย. ขอบคุณประชาชนในจ.ปริมณฑล ได้แก่ ปทุมธานี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม และสัปดาห์ถัดไปจะขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนในจังหวัดภาคกลาง

นอกจากนี้ นายธนาธร  ได้นำสื่อมวลชนไปยังบริษัท วี ลัค บริเวณชั้น 7 ซึ่งปัจจุบันปิดตัวลงไป โดยนายธนาธร กล่าวชี้แจงว่า บริษัท วีลัค มีเดีย มีธุรกิจ 2 ประเภท คือ ทำนิตยสารของตัวเอง คือ นิตยสาร Who และรับจ้างทำนิตยสารให้กับผู้อื่น คือ นิตยสาร จิ๊บจิ๊บ ของสายการบิน Nok air และ นิตรยสาร ของ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ ซึ่งธุรกิจทั้งหมด ผู้บริหารของบริษัท วี-ลัค เห็นความปั่นป่วนที่จะเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงตัดสินใจที่จะปิดตัวนิตยสาร Who ตั้งแต่ ปี 2559 ส่วนนิตยสารของบริษัท Nok air และ ธนาคารไทนพาณิชย์ นั้นปิดตัวลงตามสัญญาที่ทำไว้กับผู้ว่าจ้าง ตามลำดับ โดยฉบับสุดท้ายพิมพ์เมื่อเดือน ธ.ค.2561 พนักงานทั้งหมดถูกเลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. ขณะที่ผู้ถือหุ้นเองมีมติปิดกิจการไปแล้ว แสดงให้เห็นว่า เรื่องเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไร เพราะบริษัทกำลังจะปิดตัวอยู่แล้วในทางธุรกิจ ในส่วนของงบการเงินตั้งแต่ปี 2562 จะพบว่า บริษัทไม่มีรายรับใดๆ ทั้งสิ้นส่วนตัวผมเมื่อทราบเรื่องดังกล่าว จึงทำเรื่องขายหุ้นตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา

นายธนาธร กล่าวว่า บริษัทหยุดการปฏิบัติการไปตั้งแต่วันที่ 25พ.ย.2561 เรื่องการดำเนินเอกสารสำนักงานทั้งหมด ถูกโอนย้ายไปให้กับสำนักงานธุรการส่วนตัวของคุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เพื่อปิดบริษัท ส่วนเอกสารจะไปยื่น วันไหน กี่วันก่อนการเลือกตั้ง นั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของตน ซึ่งบริษัทที่ปิดตัวไปนานแล้ว ตนไม่ทราบว่าจะปกปิดข้อมูลไปทำไม ใครอยากสืบก็เชิญสืบต่อได้เลย และขอย้ำว่า การซื้อขายหุ้นกับการจดทะเบียนที่กระทรวงพาณิชย์ เป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งเขาไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำทุกครั้ง เพราะเขากำหนดให้ทำปีละครั้งก็ได้ หากเราตั้งใจจะทำตามกฎหมาย ก็สามารถทำได้ในช่วงเดือน พ.ค. แต่นี่เราทำก่อนเวลาที่เขากำหนดด้วยซ้ำ

“หากทุกคนติดตามดูจะเห็นได้ว่า ในวันที่ 19 มี.ค. ที่มีการประชุมผู้ถือหุ้น ช่วงเช้า ตัวผมอยู่จ.สุราษฏร์ธานี เพื่อช่วยผู้สมัครลงพื้นที่ ก่อนที่ตอนเย็น ผมจะเดินทางไปช่วยผู้สมัครลงพื้นที่ ที่จ.กระบี่ ก่อนจะกลับไปปราศรัยตอนค่ำที่จ.สุราษฎร์ธานีอีกครั้ง ขณะที่คุณวิ ภรรยาผมนั้นอยู่ที่บ้านทั้งวัน ซึ่งผมมีหลักฐาน หมายความว่าการประชุมผุ้ถือหุ้นวันที่ 19 มี.ค.นั้น มันเกิดขึ้นไม่ได้ ส่วนเอกสารจะไปยังไงนั้น ผมขอชี้แจงว่า หน้าที่ผมในฐานะผู้ถือหุ้น พอผมขายหุ้นเสร็จแล้ว การจะไปยื่นจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ นั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ของบริษัท ที่ทำหน้าที่ในการยื่นเอกสาร ซึ่งไม่ใช่ความรับผิดชอบของผม” นายธนาธร กล่าว


You must be logged in to post a comment Login