หยุดเกลียดชัง

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 27 ก.พ. 62)

การสร้างความสามัคคีปรองดองถือเป็นความผิดหวังมากว่า 4 ปี เพราะทุกคนรอคอยอยากให้บ้านเมืองมีความสงบสุขจริงๆ ไม่ใช่เงียบสงบหรือเงียบสงัดเพราะอยู่ภายใต้การรัฐประหาร แต่ความขัดแย้ง ความเกลียดชังยังคงอยู่เหมือนขณะนี้

ความสามัคคีต้องเกิดจากความจริงใจของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นประชาชน นักการเมือง หรือผู้มีอำนาจ ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่าง ความสามัคคีปรองดองจะเกิดได้ก็เมื่อมีความเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ

การเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้เห็นความล้มเหลวในเรื่องความสามัคคีปรองดองชัดเจน พรรคการเมืองแยกเป็น 2 ฝ่ายชัดเจน ประชาชนยังเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างไม่ลืมหูลืมตา เชื่อโดยไม่สนใจความจริงหรือเหตุผล แต่ละพรรคก็งัดปมด้อยของอีกฝ่ายมาโจมตี

แต่ยังมีบางคนที่พยายามลดละเลิกความเกลียดชังเป็นตัวอย่าง ก็น่าปลื้มใจชื่นใจ อย่างอดีตพุทธะอิสระประกาศถอนฟ้องหมิ่นประมาทเจ้าคุณประสาร ความโกรธแค้นหมองใจก็ยุติ ซึ่งคนไทยทุกคนน่าเอาเป็นตัวอย่าง เพราะหากคนไทยมีความปรองดอง บ้านเมืองก็จะเดินหน้าและมีความเจริญก้าวหน้า ยิ่งประเทศไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีก็ไม่ยากที่จะเดินไปข้างหน้า ขอเพียงให้มีความปรองดอง ไม่คิดแบ่งฝ่ายแบ่งพวก ไม่มีเรื่องสี ความเห็นที่แตกต่างกันถือเป็นเรื่องธรรมดา อยู่ร่วมกันได้ หากกฎหมายเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ

ไม่มีใครอยากเห็นบ้านเมืองมีความขัดแย้งกันรุนแรงเหมือนที่ผ่านมา ม็อบเต็มถนน ปิดล้อมสถานที่ราชการ เศรษฐกิจก็ทรุด การทำมาหากินก็ทรุด ประชาชนก็ลำบาก

การเลือกตั้งต้องเลิกใส่ร้ายป้ายสี ไม่ใช้อารมณ์ อย่าหลงในอำนาจ ช่วยกันรักษาความสงบ บ้านเมืองก็จะดีขึ้นเอง การลงทุนจะกลับมา การค้าขายก็จะดีขึ้น นักท่องเที่ยวก็อยากจะมาเที่ยว ความสามัคคีปรองดองจึงมีความสำคัญ เราไม่ขัดข้องหมองใจกัน ไม่มีความเกลียดชัง สามัคคีก็จะเกิด ความประเสริฐความร่มเย็นของชาติบ้านเมืองก็จะกลับมา ประชาชนก็จะอยู่ดีกินดี มีความสุข หยุดเกลียดหยุดชัง หยุดสร้างความร้าวฉาน หันหน้ามาสมัครสมานสามัคคีกันดีกว่า

เจริญพร  

You must be logged in to post a comment Login