วันพฤหัสที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

กกต.ขู่โกงเลือกตั้งตกเก้าอี้และถูกฟ้องเรียกชดใช้10ล้าน

On February 26, 2019

ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานเปิดการประชุมอบรมเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนหรือไต่สวนในการดำเนินคดีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซักซ้อมทำความเข้าใจให้เจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวนมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน โดยนายอิทธิพรกล่าวตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้เป็นครั้งแรกหลังรัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลบังคับใช้ ดังนั้น กกต. จึงต้องเตรียมความพร้อมให้เจ้าพนักงานเข้าใจในอำนาจหน้าที่ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม มีคุณภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

“ขอให้เจ้าพนักงานยึดมั่นในความเป็นกลาง กล้าหาญ ไม่หวั่นไหวต่อแรงกดดันหรืออิทธิพลใดๆ แม้จะเจออิทธิพลแต่ขอให้เชื่อมั่นในอิทธิพร เชื่อมั่นในเจตนารมณ์ของกฎหมาย และยึดหลักนิติธรรม ความเที่ยงธรรม ความชอบธรรม เป็นหลักในการทำงาน เพื่อให้ทุกท่านทำงานอย่างมั่นใจ เป็นที่รักและนับถือจากทุกฝ่ายและทุกคน” นายอิทธิพรกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ในอดีตคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 200 สำนวน ศาลสั่งยกคำร้องไป 180 เรื่อง แต่การสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีการเลือกตั้งครั้งนี้มีออพชั่นเพิ่มขึ้น มีทั้งกฎหมายคุ้มครองพยาน และสินบนรางวัลจูงใจให้ประชาชนนำเงินซื้อเสียง 1,000-2,000 บาทมาแลกเงินแสน ตลอดจนอำนาจในการส่งสำนวนไต่สวนไปให้อัยการดำเนินคดีอาญาได้เลยโดยไม่ต้องไปแจ้งความที่ สน. เท่ากับว่าคดีจะเสร็จสิ้นภายใน 3-5 เดือน นอกจากนี้กฎหมายยังให้ถือสำนวนไต่สวนของ กกต. เป็นหลักในการแจกใบเหลืองและใบแดงของศาล หรือให้ศาลสั่งจ่ายค่าเลือกตั้งโดยไม่ต้องย้อนไปฟ้องแพ่ง หากผู้ชนะการเลือกตั้งถูกศาลตัดสินว่าทุจริตและสั่งให้เลือกตั้งใหม่ ภายในเวลา 6 เดือนจะตกจากเก้าอี้ ส.ส. กลายเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา ต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง 10 ล้านบาท

“ขณะนี้เรื่องร้องเรียนส่วนใหญ่ที่เข้ามายัง กกต. เป็นเรื่องการทำลายป้าย ซึ่งเป็นความผิดฐานทำลายทรัพย์ แต่มีแนวโน้มว่าการใส่ร้ายป้ายสีในโซเชียลมีเดียเริ่มแซงการหาเสียงรูปแบบเก่า ตรวจสอบไม่พบการโจมตีหรือป้ายสีกันในเวทีปราศรัย แต่ไปปรากฏในโซเชียลมีเดียแทน คาดว่าหลังการเลือกตั้งจะมีจำนวนคนที่ต้องถูกลากจากหน้าจอหรืออีพอร์ตส่งเข้าเรือนจำเป็นจำนวนมาก เพราะการใส่ร้ายป้ายสีมีโทษอาญา จำคุกหลายปี”

พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวอีกว่า เจ้าพนักงานสืบสวน สวนสวน และไต่สวน ทำงานด้วยความรวดเร็วฉับไว ลงโทษได้ทันที ไม่มีคดีค้าง เพราะหลังเลือกตั้ง ส.ส. จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นตามมา พูดได้ว่าปี 2562 เป็นปีแห่งการเลือกตั้ง กลุ่มภารกิจสอบสวนต้องทำงานควบคู่ไปกับกลุ่มบริหารจัดการเลือกตั้ง การสอบพยานต้องทำเร็ว แต่ต้องไม่ทิ้งหลักการสอบสวนให้ปราศจากข้อสงสัย สรุปคือต้องเร็วและละเอียด อย่างไรก็ตาม ขอให้เน้นไปที่พยานเอกสาร บัญชีหัวคะแนน หรือมือแจกเงินประจำตำบล หมู่บ้าน ต้องหมายหัวไว้ได้ล่วงหน้า เราจะไม่ปล่อยให้คนทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเข้าไปนั่งในสภา

นอกจากนี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ยังให้สัมภาษณ์ว่า สำนักงาน กกต. ได้จัดส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรไปยังสถานทูตและสถานกงสุลที่มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิไปหมดแล้ว ส่วนการเตรียมการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มีนาคมนี้ได้เตรียมพร้อมแล้วทั้ง 385 หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า โดยมีการประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่ออำนวยความสะดวกหน้าหน่วยเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการจราจร การรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนในหน่วยเลือกตั้งจะมีการจัดสถานที่โดยจะแบ่งเป็นภาคและกระจายเป็นแต่ละจังหวัดและเขต เพื่อให้ประชาชนสะดวกในการใช้สิทธิ มั่นใจว่าผู้มาลงทะเบียนกว่า 2.6 ล้านคน จะมาใช้สิทธิทั้งหมด เพราะเป็นการยื่นความจำนงมาขอใช้สิทธิเอง แต่ถ้าไม่มาใช้สิทธิในวันที่ 17 มีนาคมจะไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมได้ และต้องเสียสิทธิบางประการ เช่น ไม่สามารถเข้าชื่อถอดถอนผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือสมัครกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้น

พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวต่อว่า ขณะนี้สำนักงาน กกต. จะเริ่มทยอยส่งหนังสือแจ้งเจ้าบ้านไปยังครัวเรือนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมเป็นต้นไป โดยหนังสือดังกล่าวจะมีรายละเอียดของผู้สมัคร พรรคการเมือง นโยบายของพรรคการเมืองในเขตเลือกตั้งของเจ้าบ้าน เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งศึกษาประกอบการตัดสินใจลงคะแนน ขณะเดียวกันบางจังหวัดจะส่งเอกสารแจ้งเจ้าบ้านเพื่อให้ทราบข้อมูลว่าจะต้องไปใช้สิทธิหน่วยเลือกตั้งที่เท่าไร และเลขลำดับการใช้สิทธิ


You must be logged in to post a comment Login