วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

“วิษณุ”ชี้กกต.มีอำนาจวินิจฉัยยุบพรรคแต่ไม่ถึงที่สุดอาจต้องไปจบที่ศาล

On February 11, 2019

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้วินิจฉัยการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถูกต้องหรือไม่ ว่า คำร้องที่ว่าพรรค พปชร. เสนอถูกต้องตามข้อบังคับของพรรคหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่พรรค พปชร. ต้องตอบ เพราะข้อบังคับเป็นสิ่งที่สมาชิกพรรคต้องทำ ไม่เกี่ยวกับคนนอก และเป็นเรื่องที่พรรคต้องชี้แจงหากมีการร้องขอ นายกฯไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่พรรคเสนอมา ส่วนคำร้องที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าของสื่อนั้น เป็นเรื่องที่ กกต. ต้องดำเนินการ หาก กกต. ไม่ติดใจและเห็นว่าไร้สาระก็จบไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต. มีอำนาจวินิจฉัยคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯของพรรคการเมืองหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า มี แต่เมื่อวินิจฉัยแล้วถึงที่สุดหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อาจต้องไปศาลหากมีคนไม่พอใจ แต่ถ้าพอใจก็จบ ส่วนจะไปศาลไหนนั้น อยู่ที่เหตุผลในคำวินิจฉัยของ กกต. ว่าใช้เหตุผลอะไร หากเป็นคำวินิจฉัยที่เกี่ยวกับคุณสมบัติ เป็นการทั่วไปที่ไม่ได้อ้างอิงศาลรัฐธรรมนูญ ให้ไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ถ้าเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญให้ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ

“เป็นไปได้อย่างไรที่ กกต. จะไม่มีอำนาจชี้ เพราะทั้งผู้สมัคร ส.ส. และผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯมีเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามที่ กกต. ต้องพิจารณา ในกฎหมายเขียนไว้ชัดว่า กกต. มีเวลาในการพิจารณาคุณสมบัติเพื่อวินิจฉัยทั้งหมดว่าใครคุณสมบัติผ่านหรือไม่ผ่าน” นายวิษณุกล่าว

เมื่อถามว่าหาก กกต. มีมติเบื้องต้นให้ยุบพรรค ทษช. ระหว่างนั้นพรรค ทษช. ยังสามารถหาเสียงได้อยู่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เมื่อ กกต. วินิจฉัยออกมา พรรคการเมืองต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัย กกต. เว้นแต่พรรคจะไปร้องให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว

ต่อข้อถามว่าขณะนี้มีกรรมการบริหารพรรค ทษช. ลาออก หากมีการยุบพรรค ทษช. ตามที่มีการร้อง กรรมการคนดังกล่าวจะมีความผิดด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ผมไม่ทราบว่ามีการลาออกจริงหรือไม่ แต่ถ้าความผิดอันเนื่องมาจากการกระทำที่สำเร็จไปแล้วคงไม่พ้นหรอก แต่หากมีการลาออกไปก่อนที่ ทษช. จะมีมติเสนอชื่อนายกฯก็ดูจะเบาไปมาก ซึ่งที่สื่อถามเป็นเรื่องสมมุติ ผมก็ตอบตามที่สื่อสมมุติ”

เมื่อถามว่าถ้าคนนอกพรรคมีส่วนต่อการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค ทษช. ในการเสนอชื่อผู้ที่พรรคจะเสนอให้เป็นนายกฯจะมีความผิดหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นะผิดมาก ไม่สุ่มเสี่ยง แต่เลยคำว่าเสี่ยงไปแล้ว”

เมื่อถามถึงการปฏิบัติตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถสวมเสื้อที่มีสกรีนชื่อพรรค พปชร. ได้หรือไม่ทั้งในและนอกเวลาราชการ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าในเวลาคงไม่สมควร แต่ถ้านอกเวลาราชการตนเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่เรื่องนี้ขนาดนายกฯยังไม่สงสัย เราไม่ควรไปสงสัย ถ้าสงสัยก็สงสัยได้เยอะ เช่น สวมเสื้อกล้ามได้หรือไม่ สวมเสื้อทหารได้หรือไม่ เรื่องนี้ยังไม่เกิด ยังไม่ได้ทำ และอาจไม่ได้คิดที่จะทำด้วย เพราะฝ่ายกฎหมายของนายกฯก็ให้คำแนะนำไปอยู่แล้วว่านายกฯควรต้องระมัดระวังเรื่องอะไรบ้าง

เมื่อถามว่านายกฯสามารถหารือกับแกนนำพรรคในเรื่องนโยบายหรือแนวทางการหาเสียงได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้ารู้แน่ชัดว่ามาหารือเรื่องนี้ก็ตอบเลยว่าไม่ได้ แต่เวลาที่เขามาพบกันก็อย่าไปคิดว่าเขามาหารือกันเรื่องนี้ เพราะอาจจะมาหารือกันเรื่องอื่น เรื่องบ้านเมืองเป็นเรื่องที่ใครต่อใครสามารถคุยกันได้ และคนทำงานด้วยกันอาจจะต้องพูดคุยกันบ้าง แต่ถ้าตั้งหลักกันว่ามาคุยเพื่อวางแผนเรื่องการหาเสียงหรือนโยบายพรรคมันไม่ได้ เรื่องเหล่านี้นายกฯรู้ตัวอยู่แล้วว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ และท่านคงระมัดระวังตัวเองอยู่แล้ว


You must be logged in to post a comment Login