วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

“อลงกรณ์”เชื่อหลังเลือกตั้งดัชนีคอร์รัปชันไทยดีขึ้น

On January 30, 2019

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าววันนี้ (30 ม.ค.) กรณีอันดับความโปร่งใสของประเทศไทยลดลง 2 อันดับ จนตกมาอยู่อันดับที่ 99 จาก 180 ประเทศว่า สาเหตุที่ประเทศไทยมีอันดับลดลงในด้านความโปร่งใสเพราะระบบถ่วงดุลตรวจสอบภายใต้ข้อจำกัดของรัฐบาลปัจจุบันทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่เชื่อมั่นว่าภายหลังการเลือกตั้ง ดัชนีซีพีไอ (CPI) ซึ่งเสมือนปรอทวัดการคอร์รัปชันของประเทศไทยจะดีขึ้น โดยเฉพาะสภาผู้แทนราษฎรและสื่อมวลชนจะมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน

“ปัญหาคอร์รัปชันเป็นปัญหาที่สะสมหมักหมมมานาน สะท้อนจากอันดับและคะแนนตามดัชนีซีพีไอสอบตกต่อเนื่องมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา จำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายและมาตรการขั้นเด็ดขาดนอกเหนือจากระบบตรวจสอบเดิม ด้วยเหตุนี้พรรคประชาธิปัตย์จึงได้ประกาศหลักการประชาธิปไตยสุจริตหรือการเมืองสีขาวเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมืองมิติใหม่อย่างแท้จริง โดยจะมีกลไกอย่างน้อย 4 มาตรการในการทำสงครามปราบคอร์รัปชัน ได้แก่ 1.แก้ไข พ.ร.บ.ศาลอาญาคดีทุจริตฯให้ครอบคลุมคดีทุจริตทางการเมือง 2.ตรากฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและส่วนรวม (กฎหมาย 3 ชั่วโคตร) เพื่อจัดการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง 3.ขจัดการผูกขาดทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นต้นตอหนึ่งของการคอร์รัปชัน 4.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและสื่อมวลชนในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชัน”

นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า ในแต่ละปีประเทศต้องสูญเสียงบประมาณแผ่นดินหลายแสนล้านบาทสังเวยให้กับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องถือเป็นวาระแห่งชาติในการร่วมกันทำสงครามปราบคอร์รัปชัน ทั้งภาครัฐ ภาคการเมือง ภาคเอกชน และภาคประชาชน


You must be logged in to post a comment Login