- อย่าใช้วิชามารPosted 2 days ago
- ต้องทบทวนให้ดีPosted 2 days ago
- นายจ้าง-ลูกจ้างต้องเอื้อกันPosted 3 days ago
- เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปPosted 4 days ago
- รับผลกรรมที่ได้กระทำPosted 6 days ago
- อีกไม่นานต้องจบPosted 1 week ago
- มาสนใจกีฬาให้ยาบ้าหายไปPosted 1 week ago
- ฝึกต้อนรับให้ดีจะมีสิ่งที่ดีPosted 2 weeks ago
- ต้องกวาดล้างสิ่งสกปรกPosted 2 weeks ago
- อย่าเอายศไปทำความอัปยศPosted 2 weeks ago
“อลงกรณ์”เชื่อหลังเลือกตั้งดัชนีคอร์รัปชันไทยดีขึ้น
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าววันนี้ (30 ม.ค.) กรณีอันดับความโปร่งใสของประเทศไทยลดลง 2 อันดับ จนตกมาอยู่อันดับที่ 99 จาก 180 ประเทศว่า สาเหตุที่ประเทศไทยมีอันดับลดลงในด้านความโปร่งใสเพราะระบบถ่วงดุลตรวจสอบภายใต้ข้อจำกัดของรัฐบาลปัจจุบันทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่เชื่อมั่นว่าภายหลังการเลือกตั้ง ดัชนีซีพีไอ (CPI) ซึ่งเสมือนปรอทวัดการคอร์รัปชันของประเทศไทยจะดีขึ้น โดยเฉพาะสภาผู้แทนราษฎรและสื่อมวลชนจะมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน
“ปัญหาคอร์รัปชันเป็นปัญหาที่สะสมหมักหมมมานาน สะท้อนจากอันดับและคะแนนตามดัชนีซีพีไอสอบตกต่อเนื่องมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา จำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายและมาตรการขั้นเด็ดขาดนอกเหนือจากระบบตรวจสอบเดิม ด้วยเหตุนี้พรรคประชาธิปัตย์จึงได้ประกาศหลักการประชาธิปไตยสุจริตหรือการเมืองสีขาวเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมืองมิติใหม่อย่างแท้จริง โดยจะมีกลไกอย่างน้อย 4 มาตรการในการทำสงครามปราบคอร์รัปชัน ได้แก่ 1.แก้ไข พ.ร.บ.ศาลอาญาคดีทุจริตฯให้ครอบคลุมคดีทุจริตทางการเมือง 2.ตรากฎหมายว่าด้วยการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและส่วนรวม (กฎหมาย 3 ชั่วโคตร) เพื่อจัดการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง 3.ขจัดการผูกขาดทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นต้นตอหนึ่งของการคอร์รัปชัน 4.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและสื่อมวลชนในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชัน”
นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า ในแต่ละปีประเทศต้องสูญเสียงบประมาณแผ่นดินหลายแสนล้านบาทสังเวยให้กับการทุจริตและประพฤติมิชอบ ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องถือเป็นวาระแห่งชาติในการร่วมกันทำสงครามปราบคอร์รัปชัน ทั้งภาครัฐ ภาคการเมือง ภาคเอกชน และภาคประชาชน
You must be logged in to post a comment Login