วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

“ประยุทธ์”ยันไม่ลาออก ถ้าถูกทาบทามต้องอยู่ในบัญชีรายชื่อเท่านั้น

On January 29, 2019

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีการลาออกของ 4 รัฐมนตรีว่า เชื่อว่าการลาออกของ 4 รัฐมนตรีจะไม่ทำให้เกิดปัญหา รัฐบาลสามารถทำงานต่อไปได้ ซึ่งทั้ง 3 กระทรวงมีรัฐมนตรีช่วยว่าการอยู่แล้ว โดยต้องดูระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเดิมที่กำหนดไว้แล้วว่าหากรัฐมนตรีไม่อยู่ก็จะมีรัฐมนตรีรักษาการแทน หรือรองนายกฯที่กำกับดูแลเอง ขณะที่นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็มีนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้น จะทำงานโดยรัฐมนตรีที่รักษาการแทนและรองนายกฯที่กำกับดูแลอยู่ จึงไม่น่ามีปัญหากับการทำงาน เมื่อช่วงเช้าทั้ง 4 คนได้เข้ามาพบเพื่อลาออกเพื่อไปทำงานการเมือง ซึ่งตนไม่สามารถขัดข้องได้แม้จะเสียดายมากน้อยแค่ไหนก็ตาม เพราะที่ผ่านมาทุกคนช่วยทำงานมานาน และมีผลงานออกมาหลายเรื่อง อย่างไรก็ตาม ขออย่ากังวล ทุกอย่างยังทำงานได้ ไม่มีนโยบายปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงนี้อย่างแน่นอน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการตัดสินใจทางการเมืองว่า ย้ำว่าต้องให้พรรคการเมืองมาเชิญก่อน เมื่อเชิญแล้วต้องมีระยะเวลาในการศึกษานโยบายว่ามีความเป็นไปได้และรับได้หรือไม่หากตนจะไปร่วมงานทางการเมือง ในเมื่อทำมา 4-5 ปี รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ ต้องศึกษากฎหมายทุกตัว รวมถึงระเบียบการใช้จ่ายงบประมาณ การหารายได้รายจ่ายของรัฐบาลในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา การทำอะไรนอกเหนือจากนี้ต้องระวังข้อกฎหมายด้วย จึงขอเชิญชวนท่านที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินศึกษาเรื่องเหล่านี้ด้วย เพื่อทำนโยบายให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงกับประชาชนและประเทศชาติ

“หากพรรคการเมืองมาเชิญ ผมขอเวลาสักนิดในการพิจารณาว่าควรจะอยู่หรือไม่อยู่ ทำต่อหรือไม่ทำต่อ และทำอะไรมากน้อยแค่ไหน ยังมีเวลาที่ผมจะตัดสินใจ ซึ่งจะมีการเสนอชื่อนายกฯในช่วงวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์นี้ ผมก็จะพิจารณาในช่วงนั้น ก็จะรู้กันตอนนั้นว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ อย่าเพิ่งเร่งรัดผมมากนัก ขณะเดียวกันเรื่องบทบาทของผม ได้มอบหมายให้ที่ประชุมวันนี้ โดยขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย กฤษฎีกา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเยี่ยมประชาชน การประชุม ครม. นอกสถานที่ และการพูดในคืนวันศุกร์ ว่าทำได้มากน้อยอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางการเมืองต่อไปในการทำผิดกฏหมาย ซึ่งต้องรอบคอบในการตัดสินใจของผม รวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดียต้องถาม กกต. ว่าจะทำได้มากน้อยอย่างไร ซึ่งผมต้องระมัดระวังให้มากที่สุด ผมอยู่ในตำแหน่งนายกฯก็ต้องระวังระดับหนึ่ง ถ้าผมไปร่วมในรายชื่อของเขาหรือตอบรับขึ้นมาก็ต้องระวังอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งต้องไปหารือกัน ขอให้ช่วยมองด้วยว่าผมทำอะไรดีๆหรือเปล่า” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่าในช่วงวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์นี้จะเป็นช่วงเวลาที่พรรคการเมืองเสนอรายชื่อ จะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกฯและหัวหน้า คสช. หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ลาออกแล้วใครจะทำ ไม่ออก ยังเป็นนายกฯอยู่นี่แหละ กฎหมายไม่ได้ให้ออกก็ไม่ออก และตำแหน่ง คสช. เขาบอกให้อยู่ถึงเมื่อไร” ผู้สื่อข่าวตอบว่า เมื่อมีรัฐบาลใหม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “นั่นแหละ อย่ามาถามซ้ำ อย่างไรก็ตาม ในการตัดสินใจผมก็มีคำตอบของตัวเองอยู่แล้วว่าจะอยู่ไม่อยู่ มีคำตอบอยู่ในใจขั้นแรกอยู่แล้ว ซึ่งได้บอกไปแล้วว่าขอดูก่อน ดูนโยบายต่างๆว่าจะมีปัญหากับการเป็นนายกฯหรือไม่ เพราะผมคงไม่ออกจากนายกฯและหัวหน้า คสช. อยู่แล้ว ถ้าให้ระมัดระวังตัวเองก็คงไม่ต้องพูดอะไรเลย และการตัดสินใจผมก็ไม่ต้องปรึกษาครอบครัว เพราะเป็นเรื่องของผม แต่เชื่อว่าทุกคนเข้าใจสถานการณ์ของผมอยู่แล้ว และให้เกียรติซึ่งกันและกัน”

เมื่อถามอีกว่าหากตัดสินใจแล้ว อยู่ในบัญชีหรือนอกบัญชีนายกฯอะไรเสี่ยงกว่ากัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องอยู่ในบัญชี ไม่มีเป็นอย่างอื่น เดี๋ยวบอกเป็นนายกฯคนนอกคนในวุ่นวายไปหมด ถ้าจะอยู่ก็อยู่ในบัญชีเท่านั้น

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปทหารติดตามการลงพื้นที่หาเสียงของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกดั้งพรรคเพื่อไทย ว่า ทหารติดตามทุกพรรคอยู่แล้ว และรายงานให้ตนทราบมาโดยตลอด


You must be logged in to post a comment Login