วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ทษช.เปิดแนวคิด”เทคซิโนมิกส์”แก้ปัญหาเศรษฐกิจ

On January 29, 2019

ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวบนเวทีสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง “ต่อยอดความสำเร็จ พลิกฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อโอกาสใหม่ของไทยทุกคน” ว่า พรรค ทษช. คือการหลอมรวมของคนที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ เป็นเบ้าหลอมที่มีรากฐานมาจากพรรคการเมืองที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีตคือพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ที่มีหัวใจคือประชาชน ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวทันโลกด้วยปรัชญา ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ประชาชนจะกลับมามีกำลังซื้อ เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ผู้ประกอบการเข้มแข็ง ชุมชนปลอดภัยจากยาเสพติด คนไทยสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพถ้วนหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราทำได้ ทำมาแล้ว และจะขอทำต่อ ถึงแม้มีคนบางกลุ่มพยายามจะเอานโยบาย ทรท. ไปใช้ แต่ด้วยความไม่เข้าใจถึงหลักคิดและหลักปรัชญา ทำให้ผลลัพธ์ออกมาแตกต่างกัน เพราะคุณเป็นของเก๊ จึงได้แต่ลอกวิธีทำ แต่ไม่เข้าใจวิธีคิดที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง

ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะ 3 ด้านคือ 1.สงครามการค้าของประเทศมหาอำนาจ เพราะไทยต้องพึ่งพาการส่งออกเกือบร้อยละ 80 2.สงครามด้านเทคโนโลยี ที่ไทยยังตามประเทศอื่นไม่ทัน 3.ความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ และรัฐบาลทหารที่ทั่วโลกไม่ยอมรับ เป็นรัฐบาลที่มีปมด้อย เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ได้รับการยอมรับ มีอะไรก็เอาไปแบให้เขาเพียงเพื่อขอให้ได้ถ่ายรูปกับเขาด้วย

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า คนไทยกว่าครึ่งประเทศมีรายได้เฉลี่ยคนละ 6,500 บาทต่อเดือน มีรายจ่ายเฉลี่ยต่อครอบครัวเดือนละประมาณ 21,000 บาท เกษตรกรในยุค คสช. ราคาพืชผลตกต่ำ ธ.ก.ส. ระบุว่าหนี้เสียเกษตรกรเพิ่มขึ้นเกือบ 44% ส่วนค่าแรงปรับขึ้นเพียงครั้งเดียวไม่ถึง 30 บาท ส่วนผู้ประกอบการ SME ที่มีมากกว่า 3 ล้านราย กลับมีประสิทธิภาพในการส่งออกไม่ถึง 40,000 ราย ทั้งหมดคือรากฝอยทางเศรษฐกิจ เป็นคนตัวเล็กถูกลืมที่ไม่มีใครดูแล ทั้งที่คนเหล่านี้สร้างรายได้เข้าประเทศเกือบครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ และนี่คือความเจ็บปวดของประชาชนที่ถูกรัฐบาล คสช. กดทับ และบริหารนโยบายที่ผิดพลาดมาตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า คสช. คิดไม่ได้ ทำไม่เป็น ดังนั้น ทษช. จะคิดใหม่ ทำใหม่ สานต่อระบบเศรษฐกิจแบบคู่ขนาน โดยเน้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

ร.ท.ปรีชาพลกล่าวอีกว่า ทษช. จะใช้วิธีคิดแบบ “เทคซิโนมิกส์” (Techsynomics คือ Technology sync Economics) เราจะสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยด้วยระบบโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยจะนำเอาเทคโนโลยีมาต่อยอดเศรษฐกิจทั้ง 2 ระดับคือ ระดับบนและระดับล่าง เพื่อสร้างโอกาสให้คนไทย และทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น ซึ่งวิธีคิดแบบเทคซิโนมิกส์สร้าง 5 โอกาสใหม่ให้กับคนตัวเล็กๆคือ

1.โอกาสใหม่ของภาคการเกษตร ในระดับบน จะเชื่อมเกษตรกรเข้าสู่ตลาดโลกโดยอาศัยกลไกตลาด และการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เพื่อดึงราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้น ในระดับล่าง จะยกระดับราคาสินค้าเกษตรภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง พัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้เป็นการเกษตรแบบแม่นยำที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเพิ่มราคาขาย และจะต่อยอดด้วยการแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลกผ่านระบบ E-Commerce

2.โอกาสใหม่ของภาคแรงงาน โดยจะย้ายแรงงานจากภาคเกษตรและอุตสาหกรรมมาสู่ภาคบริการ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวให้สามารถขยายตัวได้ถึง 6 ล้านล้านบาทในปี 2571 ตามที่ธนาคารโลกคาดการณ์ไว้ และจะยกระดับฝีมือทักษะแรงงานเพื่อให้คนไทยเป็นนายหุ่นยนต์ ควบคู่ไปกับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอย่างเป็นธรรม สอดคล้องกับค่าครองชีพ

3.โอกาสใหม่ของภาคบริการ โดยจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้เชื่อมต่อการท่องเที่ยวจากทุกจังหวัดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านและทั่วโลก ส่งเสริมให้คนไทยสร้างแอพพลิเคชั่นที่เป็น One Stop Service ซึ่งให้ข้อมูลครอบคลุมการท่องเที่ยวทั้งระบบ

4.โอกาสใหม่ของผู้ประกอบการรายย่อย โดยจะสร้างพันธมิตรทางการค้ามาเสริมสร้างศักยภาพ SME ไทยให้ขยายธุรกิจสู่เวทีโลก จะส่งเสริมให้ SME ไทยแปรรูปสินค้าทางการเกษตรให้เป็นที่ต้องการของตลาดโลกยุคใหม่ เปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทุนเพื่อให้ง่ายต่อการทำธุรกิจ ขยายโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้น และพัฒนาช่องทางการค้าขายออนไลน์ ส่งตรงสินค้าถึงลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

5.โอกาสใหม่ของเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยจะสร้างถนนดิจิทัลพาดผ่านหน้าบ้านคนไทยทั้ง 67 ล้านคน ให้คนไทยใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่นี้ในการทำมาหากินและอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน, สร้างระบบเครือข่ายพี่เลี้ยง Thailand Startup Networking (TSN) เพื่อผู้ประกอบการใหม่ ด้วยการเข้าถึงความรู้ใหม่ เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุน ให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจ และเติบโตในโลกแห่งการแข่งขัน และสร้าง Platform E-commerce แบบอาลีบาบาหรืออเมซอน ที่เป็นของคนไทยเอง

“มั่นใจว่าแนวคิดแบบเทคซิโนมิกส์จะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจ สร้างโอกาสใหม่ให้กับคนไทยให้กลับมาอยู่ดีกินดีและมีความสุข พร้อมก้าวไปกับโลกที่เปลี่ยนแปลง และพร้อมจะเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย ทุกคะแนนของ ทษช. คือตัวชี้ขาดว่าประเทศชาติจะเดินไปข้างหน้า คว้าโอกาสภายใต้ระบอบประชาธิปไตย หรือจะเจ็บปวดและจมปลักอยู่ในวังวนแห่งความล้าหลังต่อไป พอกันทีกับรัฐบาล คสช. และความสงบแบบไร้อนาคต เราจะเลือกอยู่กับรัฐบาลเผด็จการ หรือเลือกรัฐบาลที่เป็นมืออาชีพด้านเศรษฐกิจมาบริหารประเทศ ในสถานการณ์วิกฤตนี้ ผมมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยยามนี้มีแต่คนเรียกหา ทษช. มาแก้ไข วันนี้ ทษช. พร้อมรับใช้คนไทยแล้ว และ 4 ปีที่ผ่านมาต้องขอบคุณ คสช. ที่หาเสียงให้เราครับ” ร.ท.ปรีชาพลกล่าว


You must be logged in to post a comment Login