วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

จีนซื้อบ้านในไทยเป็นอันดับหนึ่งในโลก

On January 29, 2019

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th) เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจล่าสุดเมื่อปี 2561 ของ Juwai เว็บไซต์ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของจีนพบว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา คนจีนนิยมซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากที่สุดในโลก (https://bit.ly/2Hzv9cv) จากที่เมื่อปี 2559 คนจีนนิยมซื้อในไทยเป็นอันดับที่ 6 (https://bit.ly/2vZLalT) และขยับขึ้นมาเป็นที่ 3 ในปี 2560 (https://bit.ly/2MBaqE4) ทั้งนี้ลำดับที่ 1-10 ในปี 2561 เป็นดังนี้

อันดับที่ 1 คือ ไทย อันดับที่ 2-10 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ อังกฤษ เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ สาเหตุที่ไทยขยับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งก็เพราะ 1. ไทยไม่มีการจำกัดราคาขั้นต่ำในการซื้อ ต่างจากมาเลเซียที่ต้องซื้อในราคาไม่ต่ำกว่า 8-16 ล้านบาท แล้วแต่บริเวณ ราคาบ้าน-ที่ดินและห้องชุดในไทยราคาถูกกว่ามาก 2. สามารถได้กรรมสิทธิ์ ไม่ใช่การเช่าระยะยาวเช่นในจีนหรือเวียดนาม 3. ไม่มีการเก็บภาษีซื้อ อย่างในสิงคโปร์ ต่างชาติมาซื้อต้องเสียภาษี 20% ฮ่องกงเก็บ 30% เป็นต้น แต่ในไทย โดยเฉพาะในอีอีซี ยังไม่ต้องเสียภาษีอีกต่างหาก 4. ไม่มีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและภาษีมรดก แต่ไทยมีการตราพระราชบัญญัติของภาษีทั้งสองนี้ แต่แทบไม่มีผลบังคับใช้จริง 5 ไม่มีข้อห้ามให้ต่างชาติซื้อได้แต่บ้านมือหนึ่งเยี่ยงในออสเตรเลีย เพราะหากจีนหรือต่างชาติใดซื้อบ้านมือสองได้ด้วย ก็อาจทำให้ราคาบ้านขึ้นกระฉูด 6. ไม่มีข้อห้ามต่างชาติซื้อบ้านเยี่ยงนิวซีแลนด์ ซึ่งแม้คนจีนจะชอบนิวซีแลนด์ แต่ปัจจุบันนี้มีข้อห้ามมากมาย ทำให้คนจีนไม่สามารถซื้อบ้านได้อีกต่อไป
จีน
ด้วยเหตุนี้คนจีนจึงเบนเข็มมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยและทำให้ไทยติดอันดับหนึ่งของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ของจีน ผลดีที่เกิดขึ้นประการหนึ่งก็คือบริษัทพัฒนาที่ดินไทยมีตลาดกว้างมากขึ้น ในขณะที่คนไทยไม่มีกำลังซื้อกระทั่งห้องชุดราคาถูก จน บมจ.แอลพีเอ็นดีเวลลอปเมนท์ หันไปสร้างห้องชุดราคาปานกลางแทน แต่ได้คนจีนมาซื้อ ทำให้สัดส่วนผู้ซื้อของบริษัทมหาชนบางแห่งสูงขึ้นถึง 40% บริษัทมหาชนหลายแห่งจีงมีกำไรสุทธิหลักหักค่าใช้จ่ายสูงถึง 20-30% หรือบางแห่งสูงกว่านั้น

แต่ผลลบประการหนึ่งก็คือ ประชาชนทั่วไปจะต้องซื้อบ้านในราคาแพงขึ้นจากผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน เพราะกำลังซื้อที่เพิ่มเข้ามาจากประเทศจีนและประเทศอื่น จนวันหนึ่งอาจเกิดภาวะที่ราคาบ้านแพงเกินกว่ากำลังซื้อของประชาชนทั่วไปเช่นที่เคยเกิดขึ้นในไต้หวันเมื่อสิบกว่าปีก่อน อีกอย่างการซื้อขายทรัพย์สินในประเทศไทยโดยคนต่างชาติ ไม่ต้องเสียภาษีซื้อ แทบไม่ต้องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือภาษีมรดก ทำให้ประเทศไทยไมได้อะไรเท่าที่ควรจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคนต่างชาติ

ผู้ที่มีความสุขกับการซื้อทรัพย์ของคนจีนก็คือบริษัทพัฒนาที่ดิน สถาบันการเงิน บริษัทปูน บริษัทเหล็ก แต่ประชาชนแทบไม่ได้อะไรมากนัก


You must be logged in to post a comment Login