วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

“ภูมิใจไทย”ชู”กัญชาเสรี”เชื่อปลดหนี้ภายใน10ปี

On January 28, 2019

ที่พรรคภูมิใจไทย มีการเสวนาเรื่อง “โอกาสของกัญชาไทย มิติเศรษฐกิจและการแพทย์” โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ นพ.สมยศ กิตติมั่นคง ผู้เขียนหนังสือ “กัญชา คือยารักษามะเร็ง” และนายบัณฑูร นิยมาภา หรือ “หมอตู้” ปราชญ์ชาวบ้านด้านกัญชา ร่วมเสวนา โดยวงเสวนาต่างเห็นพ้องให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เพื่อให้กัญชาไทยสามารถปลูกได้อย่างเสรี หลังจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์และเปิดโอกาสให้เฉพาะหน่วยงานรัฐและเอกชน แต่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงได้ วงเสวนาเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมศักยภาพด้านอื่นของพืชกัญชา เพราะหากเปิดให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้อย่างเสรี กัญชาจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สามารถแก้ปัญหาความยากจนของคนไทย และเชื่อว่าภายในระยะเวลา 5-10 ปี จะทำให้เกษตรกรไทยปลดหนี้ เพราะกัญชาสายพันธุ์ไทยถือว่ามีคุณภาพดีเป็นอันดับ 1 ของโลก และสภาพภูมิประเทศของไทยเอื้ออำนวยต่อการปลูกกัญชา จึงมีความฝันว่าอยากเห็นประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกัญชาโลก

โดยนายศักดิ์สยามกล่าวสรุปว่า กฎหมายที่ สนช. ให้ความเห็นชอบนั้นยังมีข้อจำกัด เอื้อให้บริษัทที่มีความพร้อม ขณะเดียวกันประเทศไทยมีปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรู้เรื่องกัญชา จึงควรเปิดกว้างให้คนไทยเข้าถึงกัญชาอย่างแท้จริง ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยเรื่องสิทธิบัตรกัญชาที่กระทรวงพาณิชย์ได้ให้บริษัทต่างชาติที่จดทะเบียนในประเทศไทยยื่นจดสิทธิบัตรกัญชาและสารสกัดจากกัญชาเป็นจำนวนหลายราย ซึ่งขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากพืชกัญชายังเป็นยาเสพติดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ดังนั้น บริษัทดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิยื่นสิทธิบัตรดังกล่าว โดยในวันที่ 29 มกราคมนี้ เวลา 13.30 น. ตนจะทำหนังสือและมอบหมายให้นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ไปยื่นเรื่องคัดค้านการจดทะเบียนสิทธิบัตรกัญชาและสารสกัดจากกัญชาถึงนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ยกเลิกคำขออันไม่ชอบด้วยกฎหมายเสียทั้งหมด และหากยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการเรื่องนี้ภายใน 7 วัน ทางพรรคภูมิใจไทยจะฟ้องดำเนินคดีตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ

นายศักดิ์สยามกล่าวต่อว่า สิทธิบัตรกัญชาควรเป็นของคนไทยทั้งประเทศ โดยรัฐบาลต้องเป็นผู้รับจดสิทธิบัตร ดังเช่นแคลิฟอร์เนียโมเดลที่ประชาชนมีสิทธิถือครองกัญชาจำนวน 6 ต้นต่อครอบครัว ในราคาต้นละประมาณ 30 บาท โดยไปขอจากรัฐบาล ซึ่งมีการประเมินว่า กัญชา 1 กิโลกรัม มีราคา 70,000 บาท เมื่อ 1 ครอบครัวปลูก 6 ต้น ก็จะมีรายได้ 420,000 บาทต่อปี แต่หากผู้ใดประสงค์จะดำเนินการในเชิงพาณิชย์ รัฐบาลต้องมีการเปิดประมูลเช่นเดียวกับการประมูลคลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ผลประโยชน์ตกแก่ประเทศ โดยขณะนี้พรรคภูมิใจไทยได้ร่างกฎหมายแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ 2522 เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีสาระสำคัญคือให้มีการปลูกกัญชาได้เสรี ซึ่งหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นแกนนำรัฐบาลก็จะผลักดันกฎหมายดังกล่าวทันที หรือหากไม่ได้เป็นแกนนำ พรรคไหนที่จะชวนพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลต้องรับนโยบายดังกล่าวด้วย ถ้าไม่รับเราก็ไม่ร่วม

“มีคนกังวลว่ากัญชาจะมอมเมาคนไทย แต่จากการเสวนาวันนี้ทำให้เห็นว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เหล้ากับเบียร์อันตรายยิ่งกว่า เพราะกัญชาไม่เคยทำร้ายใคร และเชื่อว่าเมื่อกฎหมายออกมาก็จะมีมาตรการควบคุมเป็นอย่างดี เมื่อแลกกับความคุ้มค่าของการมีกัญชาเสรีซึ่งจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจ รักษาความยากจน และเป็นสมบัติของคนทั้งประเทศ ดังสำนวน ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยจะทำให้หลังบ้านของทุกคนมีกัญชาเสรี” นายศักดิ์สยามกล่าว


You must be logged in to post a comment Login