วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

“อนุทิน”ชูพักหนี้กยศ.5ปี-ปลดผู้ค้ำประกัน-จ่ายภาษีเงินได้ประจำปีลดเงินต้น

On January 4, 2019

ที่ห้องประชุมชั้น 2 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รับความคิดเห็นและข้อเสนอจากนักเรียน นักศึกษา ผู้ที่จบการศึกษาแต่ไม่มีงานทำ และประสบปัญหาต่างๆจากการกู้ยืมเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ. ) เพื่อสนับสนุนนโยบายพักหนี้ กยศ. 5 ปี ปลดภาระผู้ค้ำประกัน ของพรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า ในการเลือกตั้งปี 2557 เราได้ชูนโยบายปลดหนี้ กยศ. แล้วให้มีการเรียนฟรี แต่ในปี 2562 เนื่องจากเราอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องการใช้งบประมาณของรัฐค่อนข้างมาก จะทำอะไรในรูปแบบประชานิยมไม่ได้ แล้วจะต้องมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์มาดูนโยบายต่างๆของพรรค ทำให้เราไม่สามารถเสนอนโยบายอะไรที่เขาอาจไม่เห็นด้วย เพราะจะถูกตีตกแล้วต้องเสียเวลาค่อนข้างมาก

นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายแก้หนี้ กยศ. ให้พักชำระหนี้ 5 ปี ไม่มีเบี้ยปรับ ไม่มีดอกเบี้ย ปลดผู้ค้ำประกัน ให้กับนักเรียน นักศึกษา ที่เป็นหนี้ กยศ. ซึ่งตนเห็นว่าเมื่อนักศึกษาเหล่านี้เรียนจบหางานทำได้จะผ่อนชำระตามความสามารถ และยังเห็นว่าควรให้การจ่ายภาษีประจำปีลดหนี้เงินต้นของ กยศ. ได้ ทั้งนี้ พรรคเห็นว่าการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษานั้นมีค่ากว่าดอกเบี้ยหรือเบี้ยปรับผิดนัด ดังนั้น จึงไม่ควรไปรีดเลือดจากปู ควรเปิดโอกาสให้พวกเขา และขอยืนยันว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยคือการพักหนี้ ไม่ใช่ยกหนี้อย่างแน่นอน เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2560 สำหรับสถานการณ์ลูกหนี้ กยศ. ปัจจุบันพบว่ามีผู้กู้ กยศ. 5 ล้านคน ปลดหนี้ไปแล้ว 8 แสนคน อยู่ในระบบกู้ กยศ. 3.5 ล้านคน และมีการฟ้องร้องดำเนินคดี 1.2 ล้านคน

“เมื่อเรียนจบเราก็จะมีกระดาษ 2 ใบ โดยใบที่ 1 คือใบปริญญาที่จะอยู่กับเราตลอดชีวิต และใบที่ 2 คือใบแจ้งหนี้ ซึ่งสามารถฆ่าเราในอนาคตได้ ถ้าคืนหนี้ไม่ได้สุดท้ายก็อาจนำไปสู่การล้มละลาย ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยต้องการตัดไฟแต่ต้นลม โดยจะมีการร่างกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการสนับสนุนการศึกษาให้เยาวชนแห่งชาติ เราตั้งใจพักหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน ไม่มีเบี้ยปรับ ก็อยากขอให้เยาวชนใฝ่ดี ขยันเรียน มีแผนในการวางอนาคต เมื่อเรียนจบทำงานก็เสียภาษี ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่าเป็นการผ่อนชำระหนี้ที่รัฐได้ลงทุนไป เราพร้อมสร้างถนนให้เดิน ซึ่งจะทำให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนใฝ่ดี ไปสวรรค์อย่าไปนรก” นายอนุทินกล่าว

ด้าน น.ส.พิมพ์รวี ผมป้อง อายุ 25 ปี ผู้กู้ กยศ. ที่จบการศึกษาแล้ว กล่าวว่า ตนเรียนจบมายังไม่มีงานทำ แต่ก็พบปัญหาว่า กยศ. มาติดตามหนี้ ซึ่งตนไม่มีเงินให้ ทำให้ดอกเบี้ยเพิ่ม โดยขณะนี้มีหนี้พร้อมดอกเบี้ยประมาณ 1.6 แสนบาท ยอมรับว่าเดือดร้อนมาก และต้องการให้พรรคภูมิใจไทยพักชำระหนี้ กยศ. 5 ปี รวมทั้งยกเลิกการคิดดอกเบี้ย เป็นต้น และเมื่อมีงานทำจะจ่ายภาษีและนำเงินมาใช้หนี้อย่างแน่นอน


You must be logged in to post a comment Login