วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ขจัดมารศาสนา

On December 12, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 12 ธ.ค. 61)

ไม่น่าเชื่อว่าคนที่บวชนานถึง 5 ปีแล้วยังทำตัวนอกรีตนอกรอย อย่างที่วัดย่านลาดพร้าวที่เป็นข่าวฉาวโฉ่ ตำรวจกองปราบฯจับพระ 2 รูปในกุฏิเพราะเสพยาบ้า และยังมีผู้หญิงอีก 2 คนอยู่ในกุฏิด้วย เรียกว่า “ผีเน่ากับโลงผุ” หญิงร้ายชายชั่ว มีท้องยังไปส่งอาหารให้คนโกนหัวห่มผ้าเหลือง ไม่ต้องออกบิณฑบาต ไม่เคยทำวัตรสวดมนต์ ไม่ลงอุโบสถ

เป็นการปล่อยปละละเลยการบริหารจัดการวัด เจ้าอาวาสคงลำบากใจ เพราะมีพระลูกวัดมากจนตรวจไม่ทัน วันปาติโมกข์ก็ไม่ได้นับว่าใครขาดบ้าง ถ้าไม่ดูแลก็เข้าภาษาโบราณที่เรียกว่า “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” ไม่ทำศาสนกิจอะไรที่สำคัญก็ต้องป่วยอาพาธ

ได้ดูประวัติก่อนบวชหรือไม่ เพราะก่อนบวชก็ค้ายา ติดยา เพราะฉะนั้นต่อไปนี้วงการศาสนาหรือพระควรตรวจสอบประวัติคนที่จะมาบวช หากเคยทำผิด ทำผิดอะไรมาแล้วกี่ปี ไม่ใช่เอายาบ้ามาเสพในกุฏิ ที่สำคัญเด็กวัดไม่รู้เรื่องเลยหรือ ใครเอาไปส่ง เจ้าหน้าที่สืบหาต้นตอได้ ยิ่งมีเรื่องผู้หญิงอีกมันยิ่งกว่าผีเน่ากับโลงผุ ตัวโง่ ตัวเลว ตัวแย่ยิ่งกว่าละคร ผู้หญิงก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำท่ากินก๋วยเตี๋ยวอร่อย

ทั้งที่ธรรมวินัยก็ระบุชัดเจนว่า ห้ามพระและผู้หญิงอยู่ในที่ลับ 2 ต่อ 2 นี่เข้าไปอยู่ในกุฏิไม่รู้กี่วัน กี่เดือน กี่ครั้ง ไม่มีใครรู้ ใครเห็นเลยหรือ เรื่องนี้ต้องขอบใจชาวบ้านที่ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองศาสนาเพื่อให้มั่นคงบริสุทธิ์ ให้พระยังเป็นพระที่กราบไหว้ได้ ไม่ให้พวกนอกรีตนอกรอยมาทำให้ศาสนามัวหมอง ไม่ให้วัดเสื่อมเสีย คนรอบวัดต้องเป็นหูเป็นตาให้ศาสนาด้วย เป็นตาสับปะรด ผู้บริหารวัดบางรูปก็น่าสงสาร อายุมาก ก็อย่าไปซ้ำเติมท่านเลย บางครั้งพระดีๆก็ไม่อยากเอาเรื่องเอาราว แต่มันเป็นเรื่องผิด

พวกทำลายศาสนาไม่ใช่แค่ให้สึก พ้นโทษมาก็ต้องไม่ให้แอบมาบวชใหม่ได้ ธรรมวินัยวิปริต การลงโทษทางอาญาก็ต้องทำ ปรับ จำคุกให้เข็ดหลาบ พวกคิดชั่วจะได้ไม่กล้าเข้ามา ฉุกคิดได้ว่าถ้าพลาดก็ต้องถูกลงโทษติดคุก ไม่ใช่แค่สึกและไม่มีคดีอะไรทั้งที่ทำลายศาสนา เหมือนทำลายสถาบันเบื้องสูงก็มีกฎหมายลงโทษหนัก จะมาตราอะไรก็ว่ากันไป ไม่งั้นคนทำเลวทำร้ายก็จะมีไม่หยุดหย่อน ก็หวังว่าทุกฝ่ายจะปรับปรุงแก้ไขให้พวกนอกรีตนอกรอยหลาบจำ

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login