วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ไม่มีอะไรแน่นอน

On November 1, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

การแย่งชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเปิดหยั่งเสียงรอบแรกจากสมาชิกพรรคผ่านแอพพลิเคชั่นวันที่ 1-3 พฤศจิกายนนี้ ถึงตอนนี้ที่เคยมองกันว่า “อภิสิทธิ์” ชนะขาดชักไม่แน่เสียแล้ว ที่สำคัญความไม่แน่นอนนี้อาจกระทบไปถึงสัญญาลูกผู้ชายที่เคยพูดกันไว้ก่อนหน้านี้ทำนองว่าใครแพ้หยั่งเสียงรอบแรกจะถอนตัวไม่เข้าแข่งในการโหวตรอบสองในที่ประชุมใหญ่พรรควันที่ 11 พฤศจิกายน ซึ่งผลโหวตจะมีผลตามกฎหมาย การถอนตัวหรือไม่ถอนตัวของผู้แพ้โหวตรอบแรกจะมีผลต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างมาก ถ้าถอนตัวแม้จะมีรอยร้าวจากการแย่งชิงเก้าอี้แต่ยังอยู่ในจุดที่พอประสานกันได้ แต่หากไม่ถอนตัวพรรคแตกแน่นอน

ในช่วงที่คอการเมืองเทความสนใจไปที่เพลงแร็พ “ประเทศกูมี” ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะละสายตาจากการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอะไรที่ว่าแน่ก็อาจไม่แน่นอนเสียแล้ว

อย่างที่ทราบกันว่าการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะทำเป็น 2 ขยัก คือเปิดให้สมาชิกพรรคลงคะแนนเหมือนทำไพรมารีโหวตเบื้องต้นระหว่างผู้สมัครทั้ง 3 คน ระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายนนี้

เมื่อได้ผลโหวตจากสมาชิกพรรคในรอบแรกซึ่งไม่มีผลทางกฎหมายแล้ว จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 2 พ.ศ. 2561 ในวันที่ 11 พฤศจิกายน เพื่อให้สมาชิกที่เป็นอดีต ส.ส. ประธานสาขาพรรค อดีตประธานสาขาพรรค และตัวแทนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่พรรคส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง โหวตรอบสอง

ก่อนหน้านี้ผู้สมัครทั้ง 3 คนคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และนายอลงกรณ์ พลบุตร พูดจาทำนองเป็นสัญญาประชาคมว่าหากใครแพ้โหวตเบื้องต้นจะถอนตัวไม่เข้ากระบวนการโหวตจริงในการประชุมใหญ่ของพรรค

ช่วงหาเสียงก่อนหน้านี้หลายคนเชื่อว่านายอภิสิทธิ์คือเต็งหนึ่งที่จะได้นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคอีกสมัย และเป็นเต็งหนึ่งแบบคะแนนทิ้งผู้สมัครคนอื่นไม่เห็นฝุ่น เพราะเป็นคนที่ได้รับความนิยมในวงกว้างมากกว่าผู้สมัครชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคอีก 2 คน

แต่เมื่อดูจากการเคลื่อนไหวล่าสุดของนายอภิสิทธิ์แล้ว ทำให้มองเห็นว่าคำว่าเต็งหนึ่งที่คนอื่นยกให้อาจมีความไม่แน่นอน

ไม่แน่นอนถึงขนาดนายอภิสิทธิ์ต้องออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า

“ผมไม่ได้ทิ้งห่าง โปรดอย่านิ่งนอนใจ อยากได้อภิสิทธิ์เข้าเส้นชัย เป็นหัวหน้าพรรค ต้องขอสมาชิกพรรคทุกท่านช่วยลงคะแนนให้ผ่านแอพพลิเคชั่น”

นอกจากข้อความที่โพสต์แล้ว ยังขอให้สมาชิกพรรคลงทะเบียนแจ้งเบอร์โทรศัพท์และอีเมล์เพื่อให้ทีมงานส่งข้อความเตือนไม่ให้ลืมเข้าแอพพลิเคชั่นลงคะแนนให้นายอภิสิทธิ์อีกด้วย

มุมหนึ่งอาจมองได้ว่าเกิดความกังวลว่าสมาชิกที่ให้การสนับสนุนเห็นว่าคะแนนทิ้งห่างแล้วจะหลงลืมไม่ลงคะแนนให้ เพราะเชื่อว่าอย่างไรก็ชนะ

อีกมุมหนึ่งอาจมองได้ว่าเป็นความกังวลที่เกิดจากข้อมูลจริงว่าคะแนนไม่ได้ทิ้งห่างจากผู้สมัครคนอื่นอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจกัน

แม้แต่นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อนรักของนายอภิสิทธิ์ ยังต้องช่วยอีกแรงด้วยการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัวบอกเล่าถึงข้อดีของนายอภิสิทธิ์อย่างยืดยาว สรุปใจความที่ต้องการนำเสนอได้ว่าให้สมาชิกพรรคเลือกระหว่างคนที่มีอุดมการณ์ไม่สนับสนุนนายกฯคนนอกกับคนที่อาจนำพรรคเว้นวรรคจากอุดมการณ์นี้

ยิ่งหากมองผ่านความเห็นของผู้สนับสนุนนายอภิสิทธิ์อีกคนคือ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา และอดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่แสดงความกังวลว่าคะแนนจัดตั้งอาจทำให้การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งนี้มีผลออกมาอย่างที่ไม่ควรจะเป็น

เมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวทั้งหมด บวกกับการยืนยันกติกาเลือกหัวหน้าพรรคในที่ประชุมใหญ่วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ไม่ใช้หลักเกณฑ์ 1 คน 1 คะแนนเสียง แต่แบ่งคะแนนเป็นสัดส่วน โดยให้น้ำหนักไปที่อดีต ส.ส. มากถึงร้อยละ 70 อีกร้อยละ 30 เป็นของผู้มีสิทธิลงคะแนนอื่น ก็จะมองเห็นการต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคที่เข้มข้น เพราะในจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนประมาณ 302 คน จำนวนอดีต ส.ส. น้อยกว่าผู้มีสิทธิอื่นเกือบเท่าตัว

ประเด็นที่น่าจับจ้องมากที่สุดในตอนนี้คือ ผู้ที่แพ้โหวตรอบแรกจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศจะถอนตัวไม่เข้าชิงในการโหวตรอบที่สอง ซึ่งผลโหวตจะมีผลตามกฎหมายหรือไม่

ถ้าถอนตัวแม้จะมีรอยร้าวจากการแย่งชิงเก้าอี้แต่ยังอยู่ในจุดที่พอประสานกันได้ แต่หากไม่ถอนตัวพรรคแตกแน่นอน


You must be logged in to post a comment Login