วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

สหรัฐลุยสันติภาพตะวันออกกลาง

On September 28, 2018

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวระหว่างพบกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทานยาฮู ของอิสราเอล นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติว่า เป็นความใฝ่ฝันของเขาที่จะหาทางออกสันติยุติความขัดแย้งที่ไม่สามารถบรรลุได้ในรัฐบาลสหรัฐที่ผ่านๆมา และจะเสนอแผนดังกล่าวได้ภายใน 2-4 เดือนนี้ เขาสนับสนุนการตั้งรัฐปาเลสไตน์เคียงข้างรัฐอิสราเอลเพราะเชื่อว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด เขามั่นใจว่าจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น และฝันไว้ว่าจะสามารถทำได้ก่อนหมดวาระดำรงตำแหน่งสมัยแรกในเดือนมกราคม 2564 นายแจเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยของเขาในฐานะที่ปรึกษาอาวุโสในทำเนียบขาวซึ่งรับผิดชอบเรื่องแผนสันติภาพตะวันออกรักอิสราเอล แต่ก็จะให้ความเป็นธรรมกับปาเลสไตน์ เขามั่นใจเต็มเปี่ยมว่าปาเลสไตน์จะกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาในเร็วๆนี้

ด้านนายริยาด อัล มาลิกี รัฐมนตรีต่างประเทศปาเลสไตน์ กล่าวหลังพบกับตัวแทน 40 ประเทศที่นิวยอร์ก แต่ไม่มีตัวแทนจากสหรัฐว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เลือกใช้คำเอาใจอิสราเอล ทั้งที่ควรพูดให้ชัดเจนว่าการตั้งรัฐปาเลสไตน์เคียงข้างรัฐอิสราเอลจะต้องเป็นไปตามพรมแดนก่อนสงคราม 6 วันปี 2510 และเยรูซาเล็มตะวันออกคือดินแดนที่ถูกยึดครอง ไม่ใช่ดินแดนของอิสราเอล คำพูดของผู้นำสหรัฐจะต้องทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขาต้องการให้เกิดสันติภาพในตะวันออกกลางอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์พบกับตัวแทนรัฐบาลสหรัฐมาแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ครั้ง และรู้ว่าสหรัฐแค่ต้องการเปิดฉากสงครามกับปาเลสไตน์เพื่อให้เกิดความเสียหายมากที่สุดเท่านั้น

กระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางชะงักเมื่อปาเลสไตน์ฉีกข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐเมื่อปีก่อน ประท้วงที่ผู้นำสหรัฐประกาศย้ายสถานทูตสหรัฐในกรุงเทลอาวีฟไปนครเยรูซาเล็ม อันเป็นการรับรองว่านครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงตามที่อิสราเอลกล่าวอ้าง

ด้านประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา กล่าวในที่ประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่า พร้อมหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้กล่าวหาว่าสหรัฐอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยโดรนสังหารระหว่างพิธีสวนสนามในกรุงคารากัสเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวข่มขู่ด้วยการเผยว่าการใช้กำลังทหารเป็นทางเลือกหนึ่งในการตอบโต้เวเนซุเอลาซึ่งประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง เขากล่าวในการประชุมยูเอ็นว่า การจัดการเวเนซุเอลาเป็นไปได้ทุกทาง และเคยกล่าวเช่นกันว่ายินดีพบหารือกับนายมาดูโร ทางด้าน 6 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา แคนาดา ชิลี โคลอมเบีย ปารากวัย และเปรู ต่างเรียกร้องให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ดำเนินคดีนายมาดูโรในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ


You must be logged in to post a comment Login