วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567

หาทางออกร่วมกัน / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On June 25, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

การถกเถียงเรื่องการประหารชีวิตนักโทษที่โหดเหี้ยมอำมหิตยังควรมีอีกหรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มเอ็นจีโอที่แสดงการคัดค้านโทษประหารชีวิต ถ้าถามญาติพี่น้องคนตายก็บอกว่าสมควรแล้ว แต่ถ้าถามญาติพี่น้องผู้กระทำผิดก็ไม่เห็นด้วย อย่างรายล่าสุดถือเป็นรายแรกในรอบ 9 ปีที่ถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาให้ตาย

เอาว่ามีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ไม่มีอะไรที่จะเห็นเหมือนกันทุกอย่าง แต่ก็มีคำถามว่าหลายคดีที่มีความรุนแรงโหดเหี้ยมอำมหิตทำไมไม่มีการประหารชีวิต เพราะเราก็ดูว่าอีกหลายคดีที่มีผู้กระทำความผิดอย่างโหดเหี้ยม อย่างคดีข่มขืนแล้วฆ่า ข่มขืนเด็กแล้วโยนทิ้งลงจากรถไฟ หรือคดีฆ่าหั่นศพ

บางคนทำผิดและเพิ่งออกจากคุกได้ไม่กี่วันก็ก่อคดีอีก ทำให้คนดี คนบริสุทธิ์ ต้องตายเพราะคนเลว คนชั่วเหล่านี้ เราออกกฎหมายให้กับคนชั่วดีเกินไปหรือไม่ ถ้ากฎหมายดีกับคนชั่วเกินไป คนชั่วก็กำเริบเสิบสาน ย่ามใจ แล้วใครจะรับประกันว่าจะไม่ทำชั่วอีก

ถ้าเอ็นจีโอเสนอแนวทางแก้ไขได้ก็แนะนำมา รัฐบาลหรือกรมราชทัณฑ์อาจจะทำตามก็ได้ ไม่ใช่แค่ออกมาต่อต้านคัดค้าน เพราะไม่มีอะไรรับประกันสันดานคน พระพุทธเจ้าตรัสว่าเราฝึกบุรุษที่ควรฝึกได้ ที่ฝึกไม่ได้ก็เป็นอาหารเต่า อาหารปลาไป

เรื่องสันดานจะเป็นสายเลือดหรืออะไรก็แล้วแต่ เป็นสัญชาตญาณของความเลวที่เกาะกินจนไม่มีความดีเหลืออยู่เลย อย่างนี้จะทำอย่างไร เราต้องปกป้องและห่วงคนดีก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้คนดีต้องตายเพราะคนชั่ว 2-3 รายก่อน บางคนติดคุกมาตั้งแต่เด็ก ติดคุกหลายครั้งหลายรอบ ออกมาก็ทำชั่วกับคนอื่นอีก ก่อคดีไม่หยุด อย่างนี้จะทำอย่างไร เราต้องปกป้องคนส่วนมากที่เป็นคนดี ต้องไม่ให้คนแค่หยิบมือเดียวมาทำชั่ว มาสร้างปัญหา สร้างความเดือดร้อนให้คนส่วนใหญ่ แค่งบประมาณที่ดูแลคนพวกนี้ที่ล้นคุกก็มากมายแล้ว

ประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีอาชญากรรมมากประเทศหนึ่งในโลก แล้วจะมาบอกว่าประเทศเราล้าหลังกว่าประเทศอื่น เพราะเขาเลิกการประหารชีวิตแล้ว ต้องมาพูดความจริงกันเรื่องอาชญากรที่ทำผิดทำชั่ว ทำผิดซ้ำซาก ประเทศอื่นเขามีอาชญากรน้อยกว่าเรา มีนักโทษในคุกน้อยกว่าเรา คุกเขาไม่ล้นอย่างเรา เรายังยึดว่า “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง” หรือจะให้อโหสิกรรมกันอย่างเดียว แล้วใครจะรับประกันว่าคนชั่วจะไม่ก่อกรรมใหม่อีก กำเริบเสิบสานอีกถ้าผ่อนผันลดโทษ

คุกยุคก่อนไม่เคยมีแบบนี้ สมัยคุกขี้ไก่ เกาะตะรุเตา ไปอ่านประวัติศาสตร์จะเห็นว่าเขาลงโทษสาหัสสากรรจ์อย่างไร ตอกเล็บ บีบขมับ ตัดมือ ยุคนั้นคนเข็ดหลาบพอสมควร แต่ยุคนี้ออกจากคุกมาไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายเลย บางคนได้รับอภัยโทษก็ย่ามใจ ทำผิดอีก เราจะทำอย่างไรกับคนชั่วเหล่านี้ถ้าไปทำร้ายคนดี ยิ่งเป็นลูกคนเดียวและเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ครอบครัวเขา พ่อแม่เขาคงแทบขาดใจ จึงต้องคิดให้ดี โดยเฉพาะลูกคนเลวที่ทำให้ลูกคนดีเขาตาย ถ้าลูกตัวเองถูกฆ่าจะคิดอย่างไร

นี่ไม่ได้ต่อว่าเอ็นจีโอว่าไม่ดี เพราะหลายเรื่องก็ทำดี คอยตรวจสอบถ่วงดุล แต่ถ้าค้านไปทุกเรื่องก็ไม่ใช่ถ่วงดุล แต่กลายเป็นถ่วงความเจริญ ช่วยคนชั่วแต่คนดีตาย ต้องร่วมกันคิดร่วมกันแก้ไข ไม่มีฝ่ายใดจะถูกทั้งหมดหรือผิดทั้งหมด สังคมต้องหาทางออกร่วมกันดีที่สุด

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login