วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

วัดสร้างสุข / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On May 22, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ช่วงนี้มีข่าวดีสำหรับศาสนาเมื่อมหาเถรสมาคม (มส.) มีโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข พัฒนาวัดด้วย 5 ส. หวังให้วัดกลับมาเป็นศูนย์กลางของชุมชน สร้างสุขให้กับประชาชนและสังคม เป็นโครงการร่วมกับมหาวิทยาลัยสงฆ์และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยร่วมมือกันผลักดันให้สังคมเกิดความสุข ความเจริญ ความก้าวหน้า พระพุทธศาสนาก็จะเข้มแข็ง เป็นการกระตุกศรัทธาประชาชนกลับมาใหม่ ไม่ให้ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายเอือมระอาศาสนา ร่วมกันพัฒนาศาสนาให้มั่นคงถาวร ไม่ปล่อยให้ทรุดโทรมจมดิ่ง ต้องฟื้นฟู ต้องทะนุบำรุงปรับปรุงแก้ไข

ถ้าเป็นไปได้ก็น่าอนุโมทนา คณะสงฆ์ก็จะเป็นที่พึ่ง ให้ข้อคิดและหลักธรรมคำสอน ไม่ปล่อยให้ประชาชนหมดศรัทธาในศาสนา ถ้าประชาชนไม่ศรัทธาก็เหมือนกลียุคทุกข์เข็ญอย่างใหญ่หลวง จึงต้องมาฟื้นฟูทำนุบำรุงให้ศาสนาก้าวหน้ามั่นคงถาวรเจริญรุ่งเรืองต่อไป ไม่ปล่อยให้ศาสนาทรุดโทรมต่ำตมจนดึงไม่ขึ้น ปลุกไม่ฟื้น ตื่นไม่ได้ หลับใหล อย่างนี้ก็แย่

ดังนั้น เมื่อมีแนวความคิดดีๆอย่างนี้ก็จะทำให้เกิดหลักเกณฑ์ให้ชาวพุทธรู้สึกอุ่นใจว่าศาสนาของเราจะไม่สูญสลายหมดอายุไปตามที่ลือที่อ้างกัน เมื่อศาสนาพลิกฟื้นก็จะทำให้เกิดความเจริญ ถือเป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนากับการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวของมหาเถรสมาคมที่ไม่ปล่อยให้ศาสนามีปัญหา ตกต่ำ ยุ่งยาก ฝืดเคือง สับสน

ศาสนาจะเจริญได้ต้องมี 2 หลักคือ 1.จิตใจแน่นอน เป็นที่พึ่ง และ 2.เศรษฐกิจของประชาชนหรือชาวพุทธต้องดีด้วย อย่างที่บอกว่าศาสนิกชนศาสนาใดอยู่ในภาวะฝืดเคือง ขัดสนข้นแค้น ศาสนิกชนนั้นจะค่อยๆถอยห่างศาสนาและเสื่อมศรัทธาศาสนาของตนเอง เหมือนรัฐบาลใดถ้าปล่อยให้ประชาชนอดอยากข้นแค้น แน่นอนว่าต้องถอนตัวและอยู่ไม่ได้

เพราะฉะนั้นเรื่องการจะทำให้ศาสนามั่นคงยั่งยืนก็ต้องทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของศาสนิกชนเป็นสุขและมั่นคงถาวรด้วย เรื่องเศรษฐกิจและจิตใจจึงต้องไปด้วยกัน จะบอกว่าทำจิตใจให้ดี แต่เขาอดเขาหิว ไม่มีอะไรจะกิน ก็คงจะดียาก เรื่องเศรษฐกิจจึงต้องมาผนวกกันด้วย เอาเรื่องสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ นี่แหละให้เป็นหลักให้ได้ แล้วเขาก็จะฟื้น และศาสนาก็จะมั่นคงถาวร

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login