วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ศีลธรรมนำเศรษฐกิจ / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On May 14, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ผลสำรวจของซูเปอร์โพลระบุว่า เศรษฐกิจประเทศไทยจะดีขึ้นได้ต้องมีการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย แต่ต้องไม่ใช่ประชาธิปไตยที่เว่อร์เกินไป หรือประชาธิปไตยสุดโต่งจนทำอะไรตามใจ ล้ำเส้นของกฎหมาย เศรษฐกิจก็อาจจะพังได้เหมือนกัน

ช่วงประชาธิปไตยเบ่งบานก็ต้องเคารพกฎหมายและธรรมเนียมปฏิบัติด้วย เพราะทุกครั้งที่ประเทศไทยมีประชาธิปไตยเบ่งบานก็มักจะเกิดม็อบมากมาย เอากฎหมู่มาใช้จนกฎหมายตายสนิท คิดแต่แย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ ประเทศก็วุ่นวาย

คราวนี้มาดูอีกมุมหนึ่ง ถ้าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้ว บ้านเมืองสงบสุข ไม่ลุกเป็นไฟ แต่มีม็อบยึดนั่นยึดนี่ ปิดนั่นปิดนี่จนป่นปี้วอดวาย ปิดสนามบินจนคนมากมายเดือดร้อน ขนส่งสินค้าไม่ได้ เสียหายมหาศาล อย่างนี้เศรษฐกิจก็พัง ก็หายนะ

หากมีประชาธิปไตยแล้วไม่เคารพกฎกติกา ไม่ยอมรับเสียงของประชาชน บ้านเมืองวุ่นวาย ต่างชาติเขาก็ไม่ชื่นชมเหมือนกัน แต่ถ้ามีการยึดอำนาจ มีระบอบเผด็จการ ทำให้ไม่มีม็อบหรือใครออกมาทำอะไรวุ่นวาย ก็เป็นความสงบที่คนไม่ชอบเช่นกัน เพราะเศรษฐกิจก็ถูกแอนตี้จากต่างชาติ

อะไรที่มันสุดโต่งเป็นสิ่งไม่ดีทั้งสิ้น ดังนั้น เศรษฐกิจจะดีหรือไม่อย่างไรก็อยู่ที่ปัจจัยทางการเมืองด้วย หากไม่ส่งเสริม ไม่สนับสนุน ไม่เป็นไปตามที่โลกยอมรับก็ไปได้ยากเหมือนกัน คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็เคยอยู่ในรัฐบาลชุดประชาธิปไตยเบ่งบาน อยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจบ้านเมืองเจริญเต็มที่ น่าจะรู้ดีว่าทำไมช่วงนี้เศรษฐกิจจึงตกต่ำและผลักดันให้เติบโตได้ยาก

ร้านค้าขายไม่ว่าเล็กหรือใหญ่เดือดร้อนไปทั่ว เศรษฐกิจมีปัญหามาหลายปีแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเพราะการเมืองอยู่ในระบอบเผด็จการ อีกเรื่องที่อยากให้คิดคือ ความไร้ศีลธรรม การประกอบอาชีพชั่วเต็มไปหมด อย่างข่าวปลอมของหรืออาหารเสริมหลอกลวง เครื่องสำอางเก๊ ต้องเอาตำรวจจำนวนมากไปตรวจค้นจับกุม ตำรวจ 700 นาย ต้องเสียเวลาไปเท่าไร เสียเบี้ยเลี้ยงวันละเท่าไร เงินภาษีประชาชนทั้งสิ้น

เรื่องผิดศีลผิดธรรม คิดชั่วต่างๆ ทำให้ประเทศชาติเสียหายไปมากมาย หลวงพ่อพุทธทาสบอกว่า ถ้าศีลธรรมนำเศรษฐกิจ เศรษฐกิจจะมั่นคง ประชาธิปไตยจะมั่นคง ประเทศชาติก็มั่นคง หากเอาเผด็จการนำเศรษฐกิจก็ลำบาก นอกจากจะเป็น “เผด็จการโดยธรรม” คือต้องมีธรรมาภิบาลเต็มที่ ทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่มีแต่คนวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายต่างๆนานา

ลูกหลานนักการเมืองขนยาเสพติดติดคุกไม่กี่ปี แต่ดารานักแสดงมียาเสพติดนิดเดียวกลับติดคุกเป็นสิบปี หรือที่พูดกันว่าคนมีเงิน มีอิทธิพล ทำอะไรก็ไม่ผิด อีกฝ่ายทำอะไรก็ผิด คนจนทำอะไรก็ผิด แม้แต่การประกันตัวต่อสู้คดีก็ทำไม่ได้ บางคนติกคุกทั้งที่ไม่ผิด เพราะไม่มีเงินประกัน

เรื่องของบ้านเมืองจึงต้องเอาศีลธรรมเข้ามากำกับด้วย ความสงบเรียบร้อยก็จะอยู่กันเป็นปรกติสุข ประชาชนมีความสุขในการดำรงชีวิต เศรษฐกิจก็มั่นคง ดูตัวอย่างจากเพื่อนบ้านเราก็ได้ บ้านเมืองเขาสงบ เศรษฐกิจก็เติบโต ไม่ว่าพม่า ลาว เขมร หรือเวียดนาม จนเศรษฐกิจเขากำลังจะแซงหน้าเราไปแล้ว แต่เรายังขัดแย้งแตกแยกกันไม่จบ ถ้ากลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้วยังเป็นอย่างนี้ก็ลำบาก เศรษฐกิจจะดี การเมืองก็ต้องสงบด้วย ไม่ใช่คิดแต่แย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์กันอย่างที่ผ่านมา ซึ่งศีลธรรมจะมีส่วนให้ประชาธิปไตยสมบูรณ์ อิ่มเอมเปรมปรีดิ์ได้

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login