- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 3 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 3 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 3 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 3 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 3 months ago
สู้ในหลักธรรม / โดย พระพยอม กัลยาโณ

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
เสียงวิพากษ์วิจารณ์คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งนายสนธยาและอิทธิพล คุณปลื้ม มาช่วยงานรัฐบาล มีมากมาย ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องการเมืองเพื่อต่อรองผลประโยชน์ในอนาคต อย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ “วีรบุรุษนาแก” บอกว่า ตนจับ “กำนันเป๊าะ” และดำเนินคดีจนติดคุก แต่รัฐบาลนี้กลับตั้งลูกชายกำนันเป๊าะมาร่วมในคณะรัฐมนตรี
แม้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะปฏิเสธเรื่องการดึงพรรคต่างๆมาสนับสนุนเพื่อเป็นนายกฯ ต่อ แต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่เชื่อ ซึ่งสะท้อนถึงรัฐบาลที่ขณะนี้อยู่ในภาวะขาลง ทำอะไรก็ไม่มีใครเชื่อ ยิ่งเรื่องการเมืองที่มีกลุ่มต่างๆออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประยุทธ์ยังแสดงความขอบคุณอีกด้วย จึงชี้แจงอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น
อันนี้เป็นเรื่องที่ยุคสมัย สถานการณ์มันเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน ถ้าจะอยู่ในอำนาจต่อก็ต้องรับแรงเสียดทาน การต่อต้านต่างๆให้ได้ เพราะการเมืองเหมือนที่บอกว่า “นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน บินขึ้นที่สูงไม่ได้” อันนี้เป็นสัญชาตญาณ เหมือนการเมืองต้องมีพรรคมีเสียงสนับสนุน จะบินโดยลำพังยาก
การแต่งตั้งนักการเมืองเข้ามาเป็นที่ปรึกษา หรือรัฐมนตรี ก็เพื่อเก็บแต้มเก็บคะแนนให้เป็นฐานสนับสนุนนั่นเอง มันเป็นธรรมชาติ จะอ้างว่าให้ช่วยงานบ้านเมืองก็ต้องไปชั่งเหตุผลกันเองว่าจริงหรือไม่
เอาล่ะ..คนที่วิพากษ์วิจารณ์ก็ว่ากันไป จะเกรงอกเกรงใจกันอย่างไรก็เป็นอีกเรื่อง นอย่างคุณชวน หลีกภัย หรือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ออกมาพูดมาวิจารณ์หนักเหมือนกัน ยิ่งเก๋าและมีกึ๋น พูดอะไรก็มีคนฟัง พูดในจังหวะที่ดีๆ ก็ได้คะแนน ถ้าผิดจังหวะผิดฝาผิดตัวก็อาจอันตรายได้ เพราะบ้านเมืองยังอยู่ในภาวะไม่ปรกติ อย่างโหรทำนายว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่ประเทศไทยเป็นสงครามทางการเมือง
เรื่องการเมืองถ้าเป็นไปด้วยความสงบและจริงใจ ไม่เอารัดเอาเปรียบกันจนเกินไป ไม่ใช่วิธีการทำลายหรือดิสเครดิตกันชนิดอยู่ร่วมแผ่นดินกันไม่ได้ บ้านเมืองก็จะเดินไปข้างหน้าได้ ก็ขอให้สงสารบ้านเมืองกันบ้าง อย่าเอาสงครามการเมืองมาขยี้ประเทศชาติจนตกต่ำไปกว่านี้อีกเลย ช่วยกันประคับประคอง แม้จะอิจฉาริษยา แย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ก็ให้สู้กันตามกฏกติกาที่เป็นธรรมและอยู่ในหลักธรรม ไม่ใช่ต้องตายไปข้างหนึ่ง อย่างนี้การเมืองก็พอเดินไปได้
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login